เวทีสัญจรลงเยี่ยม งานเวชกรรมสังคม วันที่ 30 ต.ค. 2551
เป็นรายการ คุณขอมา นะคะ เพราะ ทีมเวชกรรมสังคมเสนอตัวให้เข้าเยี่ยมเลยละ
ทีมเวทีสัญจร เตรียมพร้อม คุณหมอต๋อย เธอเลื่อนงานสำคํญออกไป อาจารย์หมอสุภัค ก็ มาแจมด้วย ทีมเยี่ยม ก็ พร้อมหน้า พร้อมตา
เลยคึกคัก ทีมเยี่ยมตั้ง 6 คน พ.สมศักดิ์ พ.สุภัค คุณพลวรรต คุณศศิรา คุณมัณฑนา คุณทัศนีย์
ทีมเหย้า เจ้าของบ้านก็ เต็มที่ นั่งกัน เต็มโต๊ะ เลย
คุณรุ้ง : รับผิดงานเบาหวาน และความดันค่ะ ผู้ป่วยบางคนเคยบอกว่ามาที่รพ.ใช้เวลาเป็นวันเลย จึงมาคิดว่าเราจะทำอย่างไรดีจึงจะทำให้ผู้ป่วยใช้เวลาในการมารักษาน้อยลง
เรา ประสานงานกับ LAB ศูนย์คอมพิวเตอร์ และการเงินโดยให้ไปเจาะเลือดที่อนามัยแล้วให้ตัวแทนนำเลือดมาส่งมาส่งที่เรา เราส่งไปที่ห้อง Lab อีกทีหนึ่ง พอได้ผลมาเราก็จะส่งผลกลับไปยังอนามัยแห่งนั้นๆต่อไป ก็เหมือนกับว่าผู้ป่วยมาพบแพทย์เหมือนกันแต่ไม่ต้องมาที่โรงพยาบาลแต่หากผู้ป่วยป่วยรายไหนที่จำเป็นต้องพบแพทย์เราก็จะนัดมาอีกในคราวต่อไป
ทำให้เราสามารถลดปริมาณผู้ป่วยในโรงพยาบาลและเอกสารได้มากขึ้นและสำหรับผู้ป่วยเองก็สามารถลดค่าใช้จ่ายในการมาพบแพทย์ได้ด้วย
นอกจากนี้เรายังมีตัวแทนโซนของคนไข้ในชุมชนซึ่งจะมีการประชุมร่วมกันเดือนละครั้งเป็นผู้กระจายข่าวสารต่างๆของเราให้กับทางสมาชิกทราบ
พี่บุ้ง : เรามีกิจกรรมจิตอาสาเครือข่ายเบาหวานมาคอยช่วยในการจัดคิวผู้ป่วยเข้าพบแพทย์ เราจัดทำเสื้อให้ ภูมิใจที่เราสามารถทำให้เขารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานเราได้
: ขอเพิ่มเติม พี่บุ้งว่า เรา บริการแบบ One stop service ซึ่งพอเราปรับเปลี่ยนระบบใหม่ ปริมาณคนไข้จากเดิม 250 ก็เหลือ 180 และจากการที่เรามีจิตอาสาเบาหวานอยู่ 35 คนตอนนี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆซึ่งเขาก็ช่วยในการจัดคิวผู้ป่วยดูแลผู้ป่วยที่สูงอายุ ช่วยวัดความดันและชั่งน้ำหนักก็ทำให้ภาระงานของเราลดลงค่ะ
บางทีจิตอาสาของเราแวะมาเยี่ยมญาติ เขาก็ยังแวะเข้ามาช่วยเราด้วย
พ.ศุภเลิศ : เวลาอธิบายเรื่อง จะใช้คำพูดง่าย ๆ ให้เขาเข้าใจ ซึ่งผู้ป่วยเองก็จะมองเห็นภาพ ซึ่งผู้ป่วยเบาหวานของที่นี่จะเป็นคนละกลุ่มกันของอายุรกรรมเพราะเคยส่งไปที่อายุรกรรมแล้ว ผู้ป่วยไม่ยอม ส่วนมากผู้ป่วยที่นี่จะเป็นชาวบ้าน แตกต่างจากของอายุรกรรมที่ส่วนมากจะเป็นข้าราชการใช้คำพูดที่เป็นวิชาการในการอธิบายให้ผู้ป่วยฟังได้
พี่อ้อ : อยู่งานเยี่ยมบ้านซึ่ง มีทั้ง ทำเองและสอนค่ะ ในการเยี่ยมบ้านนี่สนุกได้เจอเรื่องที่คาดไม่ถึงเช่นคนไข้เบิก Set ทำแผลไปมากเกิน เราจึงต้องทำระบบใหม่ จากเดิมผู้ป่วยพบแพทย์แล้วเบิกอุปกรณ์เอง เปลี่ยนเป็นให้มาผ่านทีมเยี่ยมบ้าน
เราจะดูแลให้ครอบคลุมและทั่วถึงทุกรายที่ทางตึกต่างๆส่งมา ซึ่งมีประมาณ 10 คนต่อเดือน
อีกรายหนึ่งเป็นทนายความประสบอุบัติเหตุร่างกายท่อนร่างไม่มีความรู้สึกเราก็ไปเยี่ยม ตอนแรกเขาก็รับไม่ได้ไม่ให้ความร่วมมือ จนภรรยาและลูกท้อแต่เราก็ยังไปเยี่ยมอยู่เสมอทุกเดือนจนตอนนี้เขาก็สามารถทำใจและใช้ชีวิตอยู่ได้ในชุมชนค่ะ
พี่นงค์ : มีเรื่อง ผมหอมเล่าให้ฟังค่ะ เรื่องเกิดขึ้นที่โรงเรียนสหศาสตร์ ของบ้านน้ำลัดซึ่งนักเรียนส่วนมากเป็นชาวไทยภูเขาจะมีปัญหาเรื่องเหากันเยอะมากไปเยี่ยมที่ก็จะเจอแต่ปัญหาเรื่องเหาตลอดคุณครูของที่นั่นเขาก็จะมีการจัดการกับเหาโดยการใช้สารเคมีที่ใช้ในการกำจัดเหามาหมักให้กับนักเรียนแต่ก็มีปัญหาอยู่ว่ามันมีกลิ่นเหม็น
จนทางเราได้รับคำแนะนำจากพี่ตุ๊กว่าให้ลองใช้ครีมนวดผมหมักและใช้หวี เสนียด สางออกซึ่งพอเราลองนำไปปฏิบัติที่โรงเรียนน้ำลัดก็ปรากฏว่าใช้ได้ผลดีเพราะไม่เหม็น ผมก็สวยราคาก็ประหยัดค่ะ นักเรียนก็ชอบกันค่ะ
พี่ตุ๊ก : อยู่มาตั้งแต่หน่วยงานเริ่มเปิด ภูมิใจที่เห็นหน่วยงานก้าวหน้าขึ้นมาก
พี่ชี่ : ทำโครงการเฝ้าระวังโรคในโรงพยาบาลก็มีการหาเครือข่ายการทำงานในหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้มีคนช่วยการทำงาน ซึ่งเมื่อก่อนนี่จะไม่ได้รับความร่วมมือเท่าไหร่พอเรามีเครือข่ายในหน่วยงานก็ทำให้การประสานงานดีขึ้น
จากเดิมเราไม่เคยผ่านการเมินแต่ปีนี้เราผ่านแล้วครับรู้สึกภูมิใจมาก
AAR
เกินความคาดหมาย
- ได้รับรู้การทำงานของแต่ละคนในหน่วยงาน
- มีคนมาฟังเรื่องที่อยากพูด
- บรรยากาศดี
- มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์แก่กัน
ต่ำกว่าความคาดหมาย
- มาเยี่ยมช้า (หน่วยงานรอให้ทีมมาเยี่ยมตั้งแต่ต้นปีแล้ว)
สวัสดึค่ะ คุณหมอ
แวะมาเยี่ยมค่ะ
อ๋าย อยาก ไปค่ะกระบี่เนี่ย ไม่ได้ไปนานแล้ว หมอเจ้ ขอบคุณค่ะที่กรุณามาชวน
ขอบคุณ ครูต้อย ด้วยค่ะ ที่มาทักกัน เป็นประจำ
สุดแสนเสียดาย ต้องลาไปแล้ว ต้องจรลีไปนอนก่อนเอย(รำเข้าโรงไป)