ใช้สติมองปัญหา(2)


เกือบ3สัปดาห์แล้วที่ได้มีโอกาสรู้จักกับครอบครัวน่ารักที่กำลังเผชิญหน้ากับความสูญเสียอย่างกล้าหาญ

 

พี่ทองดีหัวหน้าตึกแจ้งข่าวให้มาร่วมกันทำงานกับญาติผู้ป่วยสูงอายุท่านหนึ่งซึ่งญาติได้คุยกับคุณหมอแล้วเกี่ยวกับผลการรักษาและการรักษาในระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง

คุณยายทอง(นามสมมติ)มีลูกสามคนเป็นผู้หญิงสองคนและผู้ชายหนึ่งคน ลูกสาวคนหนึ่งทำงานเป็นพยาบาลยังทำงานอยู่ มาเยี่ยมยายช่วงวันหยุด/นอกเวลา ไม่เคยได้เจอกัน ส่วนลูกชายอายุเพิ่งเกษียณ และลูกสาวอีกคนที่อยู่ดูแลยายอยู่เป็นประจำที่ชื่อ คุณเล็ก ทำงานส่วนตัว...จะเป็นญาติ2คนที่เราเจออยู่เป็นประจำ..

คุณยายทองเมื่อยามแข็งแรงดีกว่านี้เป็นคนชอบทำบุญใส่บาตร..ธรรมะและการนึกถึงบุญเป็นสิ่งที่ทำให้ยายอิ่มเอิบและเป็นมุมดีๆมุมหนึ่งที่ญาตินึกเชื่อมโยงเกี่ยวกับยายได้...ยายมีการเจ็บป่วยทางจิตใจมานานหลายปีแต่มามีอาการมากขึ้นเมื่อสูงอายุ...ทุกวันนี้ยายยังได้ยาจิตเวชเพื่อทำให้อาการทางพฤติกรรมสงบแต่ทางจิตวิญญาณไม่มีใครรู้หรือแน่ใจ

                                 

ยายอายุมากและมักจะอยู่กับฤทธิ์ของยาจิตเวชและยาแก้ปวด..ลืมตาแทบไม่ขึ้น อาหารก็ต้องให้คนหยอดให้ผ่านทางสายยาง..หลังขดงอและกล้ามเนื้อเท้าเกร็งข้างอ่อนแรงข้าง บางครั้งที่เคยได้ยายพูดกับลูกสาว(คุณเล็ก)เป็นคำกระท่อนกระแท่นแต่พอจับใจความได้ว่า...ปวด..ไม่เอา..ปล่อยแม่ไป..ฉันได้เห็นตาของคุณเล็กแดงๆแล้วก็จับมือยายบีบเบาๆก้มหน้าลงพูดข้างหูของยายว่า..แม่ไม่ต้องกลัวนะเมื่อถึงเวลามันก็ต้องไป..ยายก็เงียบไปได้ช่วงหนึ่งก่อนมากระสับกระส่ายต่อด้วยอาการหรือปัญหาอื่นๆ

ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเจอกับลูกชายของคุณยายเดินออกมาหน้าโรงพยาบาลในเวลาที่ปกติเขาจะมาอยู่เป็นเพื่อนกันกับคุณเล็ก รู้สึกแปลกใจก็เลยถามว่าทำไมวันนี้กลับเร็ว  เขาก็ตอบว่าจะไปหาซื้อต้นไม้มาเตรียมไว้จัดงานให้แม่(คุณยายทอง)น้องที่เป็นพยาบาลบอกว่าแม่อาการไม่ดีแล้วก็เลยจะเตรียมไว้ก่อนจะได้ไม่ยุ่งยากและต้นไม้งามได้พอดีเมื่อถึงเวลานั้น..

เดินคุยกับพี่ผู้ชายจึงได้รู้ประวัติครอบครัวนี้เพิ่มเติมว่าคุณตาเสียไปนานหลายสิบปีตั้งแต่ลูกยังไม่โตมากมีแม่(คุณยาย)เป็นคนดูแลเลี้ยงลูกด้วยอาชีพทำขนมขาย...ยายเป็นคนใจดีแต่มีอะไรบางอย่างที่ดูไม่ค่อยปกติมาตั้งนานแล้ว..ซึ่งลูกๆมาทราบทีหลังจากจิตแพทย์ว่านี่คืออาการจิตเวชอย่างหนึ่ง.....

ความที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาทำให้ลูกๆทิ้งแม่ไปไม่ได้พยายามแบ่งหน้าที่แบ่งงานช่วยกันดูแล..ยายทองแม้จะช่วยเหลือตนเองไม่ได้เลยแต่ก็มีญาติช่วยเหลือหน้าตาและเนื้อตัวจึงดูสะอาดสะอ้าน..ไม่มีแผลกดทับเรื้อรัง เวลาฉี่หรือถ่ายออกแบบไม่บอกล่วงหน้าก็ไม่โดนเสียงตวาดแว้ดจากญาติผู้ดูแลให้ได้ยิน..

                             

จะมีเพียงทุกข์สองอย่างที่ญาติเป็นห่วงเกี่ยวกับคุณยายอยู่คือ ความเจ็บปวดที่ยายมีอยู่มันจะมีมากขึ้นหรือน้อยลงเมื่อวาระนั้นใกล้จะมาถึง...และความไม่แน่ใจในตนเองว่าหากแม่(คุณยายทอง)กำลังใกล้จะเสียจะเข้มแข็งพอที่จะบอกทางและกล่าวอำลาแม่ด้วยตนเองได้หรือไม่...ฉันนิ่งฟังความคิดเห็นของญาติครู่หนึ่งก่อนตอบกลับไปว่า..ในขณะนี้สิ่งที่ญาติทำอยู่กับคุณยายทองเป็นสิ่งที่ดีและยอดเยี่ยมมาก ปัญหาเรื่องของอาการปวดจะสอบถามจากแพทย์ให้แต่ในเรื่องที่กลัวว่าจะทำใจบอกลากันครั้งสุดท้ายไม่ได้เท่าที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเชื่อมั่นว่าญาติลูกๆของยายทำได้แน่นอนอยู่แล้ว..แต่เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆญาติจะไม่ได้อยู่เผชิญกับการสูญเสียคุณยายตามลำพังแต่เจ้าหน้าที่จะขออนุญาตอยู่ร่วมกันอำลาคุณยายด้วยกันกับญาตินะ..ได้เห็นว่าญาติมีสีหน้าแสดงความพอใจ พร้อมกับกล่าวขอบใจเบาๆ...ก่อนหันกลับไปดูแลคุณยายตามปกติ

อยากขอบคุณพี่ทองดีที่แนะนำงานนี้ให้เพราะว่าเป็นเวลาที่ได้พบกับคนจิตใจดีเสียดายที่ไม่อาจจะได้คุยกับยายทองอย่างเป็นเรื่องเป็นราว..อยากรู้วิธีการที่ยายอบรมลูกว่ายายสอนลูกอย่างไรจึงเป็นคนมีจิตใจดี

                                              

หมายเลขบันทึก: 225293เขียนเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2008 05:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เยี่ยมมากค่ะ..มีส่วนร่วมกับครอบครัว..ทุกขั้นตอน.

แวะมาให้กำลังใจคนทำงานค่ะ..

เขียนอีกนะคะจะตามมาอ่านค่ะ..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท