โค้ชส้ม Citrus
Miss. ปรีดิ์ฤทัย โค้ชส้ม ตั้งจิตญาณพัฒน์

จิตวุ่นวาย กับ มือที่สาม ตัวจิ๋วจอมป่วน ปฏิบัติการจับหนูออกจากบ้าน


เกือบสองเดือน ที่มีสิ่งแปลกปลอมหลงเข้ามาในบ้าน สร้างความเสียหาย ก่อกวนจิตใจอย่างมาก

  เมื่อประมาณปลายเดือน ก.ย.มีหนูพลัดหลงเข้ามาในบ้าน ตัวหนึ่ง ยังไม่มีเวลาจัดการ ปกติอยู่มาสิบปี ในบ้านไม่มีทางที่หนูจะเข้ามาได้ง่ายๆ  มีแต่เปิดประตูทิ้งไว้ แล้วแอบวิ่งมาทางครัวหลังบ้าน

 จังหวะนั้นมีน้องชายวิศวกรน่ารักคนหนึ่ง สนใจการปฏิบัติธรรม และไปเข้าสัมมนา เรื่อง "การพาตัวใจกลับบ้าน" นำโดย อ. ศุภวรรณ พิพัฒพรรณวงศ์ กรีน  น้องเห็นเราชอบศึกษาธรรมะบ้าง เลยให้หนังสือมาเล่มหนึ่งเป็นหนังสือการ์ตูนสอนธรรมะให้เด็กๆ ชื่อว่า "ปฏิบัติการไล่หนูออกจากบ้าน" พูดถึง สติปัฏฐานสี่ อ่านแล้วเข้าใจง่าย

 ตอนนั้นนำหนังสือเข้าบ้าน คนที่บ้านเห็น ถามว่า เป็นหนังสือที่บอกวิธีไล่หนูออกจากบ้าน จริงๆ หรือ   คำตอบก็คือ ไม่ใช่ แต่เปรียบเทียบหนูเป็นตัวก่อกวนจิตใจของเรา คนที่กำลังทุกข์ใจ กลุ้มใจ ก็เปรียบเหมือนมีหนูดำมาคอยรบกวน ตามก่อความรำคาญใจไปทุกที่ เข้าใจเปรียบเทียบ เพราะหนูตัวจริง มันก็กวนใจเรา ทำให้เราอยู่ไม่เป็นสุขจริงๆ

กลับมาที่เจ้าหนูในบ้าน สร้างความรำคาญใจ ความโมโหอยู่หลายครา ตัวแรกถูกดักได้ด้วยขนมปังชิ้นเล็กๆ  เสร็จแล้วก็นำไปปล่อยป่าหญ้าเยื้องๆ กับบ้าน สบายใจได้ไม่กี่วัน มาจากไหนอีกตัว เอากรงเก่ามาดักด้วยกล้วยตาก กล้วยรอจนแห้ง หนูไม่มาเข้ากรง

 เจ้าตัวใหม่นี้ร้ายกาจ เปิดฝากล่องพลาสติกเก่งมาก กัด tupperware พังไปหลายใบ รวมทั้ง ชาเขียว นมถั่วเหลืองในกล่อง UHT พี่ท่านเจาะกินเกือบทุกกล่อง มาเห็นอีกทีจะเป็นลม อ้อ แล้วก็ชอบกินข้าวสารมากๆ ขนาดว่าเปลี่ยนไปใส่กล่องโลหะ ก็ยังไม่เลิกรา ตามราวีไปทุกที่ ดีที่ยังเปิดไม่ออก

 ซื้อเครื่องไล่หนูมาติด อ่านจากคู่มือ เขาบอกว่าต้องรอประมาณหนึ่งอาทิตย์จึงจะเห็นผล หนูจะหนีไป ที่ไหนได้ คงหาทางออกไม่ได้ อาละวาดหนักกว่าเดิม โมโหจนอ่อนใจ ซื้อเครื่องไล่หนุ มาติดเพิ่มอีก หนูก็หาได้สะทกสะท้าน

 แถวที่ทำงานมีคนขายไม้ไล่หนู ห่อละ 80 บาท ลงทุนซื้ออีก ได้ผลค่ะ คืนแรกที่นำมาวาง คุณหนูเธอกัดพลาสติกที่ห่อไม้ไว้ซะ ไม้กระจุย แล้วก็กัดกินทุกอย่าง

 ช่วงนั้นไม่รู้จะทำไงดี ทำใจเหมือนมีมือที่สามเข้ามาเป็นสมาชิกตัวหนึ่งในบ้าน มองมันวิ่งไปมาไม่เว้นแต่ละวัน

 เข้าไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เห็นคนเข้ามา post กระทู้เรื่องนี้เยอะมาก บางคนเจอหนักกว่าเราอีก แล้วก็เหมือนกันคือ หาวิธีไล่ลำบากมาก  แต่ถ้าไม่ใช่ web ธรรมะ เขาแนะนำให้เด็ดชีวิตด้วยกาวดักหนู หัวเด็ด เท้าขาด ไม่มีวันทำแน่นอน ทั้งกลัวบาป และเคยเห็นคนที่ทำ ตอนป่วยใกล้เสียชีวิต จะมีอาการหนังลอกแดงๆ ตั้งแต่นั้นมา ญาติสนิทคนใดคิดทำเรื่องนี้ จะบอกเลยว่าอย่าเด็ดขาด

 ตั้งแต่นั้นมา ก็เลยแก้ปัญหาตามที่ได้ข้อมูลมาดังนี้

  • ใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลให้ สวดมนต์แผ่เมตตา
  • ไปซื้อลูกเหม็น รวมทั้งที่ดับกลิ่นที่เป็นกลิ่นลาเวนเดอร์
  • บอกดังๆ ว่า ให้ย้ายออกไปได้แล้ว จะเก็บค่าเช่า
  • เก็บของทุกอย่างที่กินได้ให้เข้าตู้หมด

หนูก็ยังวิ่งผ่านหน้าไปมาทุกวัน เป็นเวลาแรมเดือน เพราะคิดว่าถ้าจะดักคราวนี้ จะทำตามคำแนะนำของ blogger ท่านหนึ่ง บอกว่า ถ้าจะใช้กรงดัก ต้องซื้อกรงใหม่ และพยายามเอามือเราไปสัมผัสให้น้อยที่สุด ควรวางในทิศทางที่หนูวิ่งผ่าน และอยู่ในที่ต่ำ

 เมื่อเจอเรื่องนี้จึงเก็บไว้ก่อน รอคืนวันเสาร์ เผื่อดักได้จะได้นำไปปล่อยตอนเช้าวันอาทิตย์ หนึ่งเดือนที่ผ่านมายังไม่ได้ฤกษซะที เพราะไม่ได้อยู่บ้าน ยังไม่ได้ซื้อกรงใหม่ด้วย

 สามีซื้อกรงมาให้ใหม่ตั้งแต่หลายวันมาแล้ว เสาร์ที่ผ่านมาเลยใส่หัวปลาทูเข้าไปปรากฎว่า งัดไปมา กรงพัง ดักไม่ได้อีก กลับไปใช้กรงเก่าที่เคยดัก ก็ไม่ติด

 เช้าวันอาทิตย์ไปซื้อกรงมาใหม่ บอกว่าแพงหน่อยไม่เป็นไร จากนั้นเข้าไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเพื่อให้มั่นใจว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ต้องได้ผล และนึกไปถึงบริษัทกำจัดปลวก ที่เขาเคยมาอธิบายตอนขายให้ฟังว่า ต้องศึกษาวงจรชีวิตของปลวกให้เข้าใจจึงหาวิธีกำจัดได้

เราก็เลยเลียนแบบบ้าง เข้าไปค้นหา วงจรชีวิตหนู ทำให้รู้ว่า อ๋อ เจ้าหนูที่อยู่บ้านเรานั้น เป็นหนูหริ่ง มีขนาดเล็ก ท้องเป็นสีขาว และชอบกินข้าว ส่วนที่อยู่ตามท่อระบายน้ำ จะชอบกินขยะ และตัวใหญ่กว่ามากจากการสังเกตพฤติกรรมมาเป็นหลายอาทิตย์ ทำให้รู้ว่าเจ้าหนูตัวนี้ชอบออกมาจากฝ้าเพดานตอนหัวค่ำ และตอนดึกประมาณตีสอง แล้วมานอนอยู่ใต้ตู้อบในครัว

 หัวค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็เลยนำหัวปลาทูเสียบไว้เป็นเหยื่อ แถมด้วยกระดาษใส่ข้าววางไว้บนพื้นกรง กะว่าถ้าไม่ชอบกินปลา ต้องมากินข้าว ขยับตัวไปมาคงโดนปลาทู แล้วกรงก็จะปิด จากนั้นก็วางกรงโดยหันหน้ากรงไปยังทิศที่หนูจะวิ่งมา

 ก่อนนอน สวดมนต์อธิษฐานตามคำแนะนำของคนใน blog ให้บอกว่า ถ้าเราไม่เคยมีเวรกรรมอะไรต่อกันมาก่อน ก็ขอให้เลิกแล้วต่อกัน อย่าสร้างปัญหาต่อกันอีกเลย และเราก็ไม่ได้คิดจะทำร้าย แค่อยากให้เขาออกไปหากินที่อื่น อย่ามาอยู่ในบ้านเรา

 ประมาณห้าทุ่มกว่าๆ กำลังจะนอนก็ได้ยินเสียงกรงปิด นึกในใจว่า ถ้าติดกรงแล้ว ขออย่าให้เป็นอะไรเลยนะ กลัวเละ

 เมื่อเช้านี้ตื่นมาด้วยความกลัวหนู ให้สามีไปดู เขาบอกว่าติดจริงๆ แต่หนูสงบนิ่งมาก จำต้องขังไว้ก่อน เพราะรีบไปทำงาน พอกลับมาตอนหัวค่ำ จึงนำไปปล่อยแถวกองขยะไกล ๆ สามีบอกว่า เปิดกรงแล้วไม่ยอมออก คงรักสบายอยากอยู่ในบ้านมากกว่า ตอนเห็นหน้าครั้งสุดท้ายก่อนพาขึ้นท้ายรถ แข็งใจดูหน้า และบอกว่า อย่ากลับมาอีกเลยนะ ไปอยู่ที่ชอบๆ ละกัน

จากเรื่องราวครั้งนี้ ทำให้เรียนรู้หลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของการดูจิต ทำใจ และการหาวิธีแก้ปัญหาด้วยความอดทน ใช้สติปัญญารอบด้าน อย่างคราวนี้ ใช้วาทะซุนวูได้เลย "รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง" ไม่ใช่กับหนูเท่านั้น กับคนก็ใช้ได้เหมือนกัน จะหาวิธีการเปลี่ยนแปลง สร้างคน พัฒนาคน เราก็ต้องศึกษาเขาให้เข้าใจก่อน จึงจะเอาชนะใจเขาได้ แล้วเขาจึงจะเชื่อใจเรา และเห็นคล้อยตามที่เราแนะนำ แต่กับคนนั้นคงต้องมีศิลปะมากกว่า เพราะการเล่นกับใจคน ท่านสุนทรภู่บอกไว้แล้วว่า "จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง" คงไม่ง่ายเหมือนทำให้หนูมาติดกรงได้

 

หมายเลขบันทึก: 223683เขียนเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2008 22:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2012 00:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
  • สงสารหนู
  • อย่าทำร้ายมันนะครับ
  • อิอิ
  • มันมีสมุนไพรตัวหนึ่ง ใช้ไล่หนู
  • ลองใช้ดูครับ
  • ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร
  • เคยเห็นเขาเอามาขาย
  • เป็นสินค้าโอท๊อป
  • อิอิ

สวัสดีค่ะ ครูโย่ง

พี่ไม่ชอบการทำร้ายสัตว์อยู่แล้ว ถึงได้อดทนเฝ้ารอเป็นเดือน ดักได้ก็นำไปปล่อยในที่ที่มีอาหารและไม่ต้องกลัวจะโดนคนอื่นทำร้าย

สมุนไพรที่ว่า ใช่เป็นเม็ดสีฟ้า ขายแถวพาหุรัดหรือเปล่าคะ ลักษณะเป็นอย่างไร เผื่อซื้อมาเก็บไว้ กันไม่ให้เข้ามาได้อีก กลัวจริงๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะ ต้องดักด้วยกาวซิค่ะ น้อง ๆ ที่สำนักงานดักบ่อย ๆ ค่ะ

good night

รู้แล้วว่าทำไมคนขายทัปเปอร์แวร์หายาก เพราะเขาให้เปลี่ยนของได้ตลอดชีวิต มีแต่คนเอาไปเปลี่ยนไม่ค่อยมีคนซื้อของใหม่ อิอิ

บ้านผมขนาดแม่บ้านลงทุนพูดจากับมันดีๆ ยังคุยไม่รู้เรื่องเลย ฮ่าๆ

สวัสดีค่ะ พี่นัน P 3. สุนันทา

ใช้กาวดักไม่ได้เด็ดขาด โหดร้ายมาก ไม่ยอมให้คนใกล้ชิดทำ ไม่อยากให้กรรมตามสนอง แค่ใช้กรงดัก แล้วนำไปปล่อย ยังไม่ค่อยสบายใจ กลัวว่าหนูไปแล้วจะลำบาก สงสัยจะเพี้ยน ไปแล้วค่ะ

สวัสดีค่ะ ท่าน P 4. อัยการชาวเกาะ

  • นำฝาที่หนูกัดไปเปลี่ยนกับคนขายรายหนึ่ง เขาบอกว่า ถ้าหนูกัดเปลี่ยนไม่ได้ อะไหล่ฝา หาซื้อยาก มีเป็นบางรุ่น เลยต้องทิ้งฝาไป เก็บกระป๋องไว้ใช้ใส่ของอื่นต่อค่ะ
  • เรื่องคุย พูดแล้วไม่ค่อยฟังเท่าไหร่ค่ะ ต้องใช้วิธีเก็บของไม่ให้เหลือ ยังเสียวอยู่ว่าจะกลับมาอีกหรือเปล่าค่ะ
  • ติดนิสัยแล้ว ต้องตื่นมาสำรวจความเสียหายตอนเช้าทุกวัน มีใครแอบเข้ามาทำลายของอีกหรือเปล่า

สวัสดีค่ะ ครูปู

ไม่ว่ารูปไหน ก็ดูสดใส ปิ๊งป๊าง เสมอเลยนะคะ

ขอบคุณค่ะ สำหรับสิ่งดีๆ ที่มีให้แก่กัน และคำอวยพร ขอให้พรทั้งหลายคืนกลับไปสู่

ครูปู หลายร้อยเท่าค่ะ

ย้ายปัญหาจากบ้านเราไปบ้านอื่น หนู1ตัวไม่รุ้ไปกี่บ้าน55 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท