ฉบับที่ ๑๕
กานต์วลีที่คิดถึง
พระปฐมบรมราชโองการเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม
เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
วันศุกร์ที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓
ผมสารภาพต่อคุณ บางครั้งบางเวลา ความเงียบเฉยของกานต์ ทำให้ความตั้งใจและความใฝ่ฝัน ของผมลดทอนลงไปบ้าง ผมนั่งมองสายลมแห่งฤดูกาล พัดผ่านแล้วก็เลยไป วันแล้ววันเล่า การรอคอยของคน มิทราบว่าจะทนได้นานสักเพียงใด หากคิดถึง
แต่กานต์วลี ความตั้งใจของพระราชาพระองค์น้อย ที่ตรัสเป็นพระปฐมราชโองการ ในวันเสด็จขึ้นครองราชย์ ที่ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” เมื่อ วันศุกร์ที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ หรือเกือบ ๖๐ ปี มาแล้ว ยังคงเป็น พระราชปณิธานอันแน่วแน่ เพื่อพสกนิกรของพระองค์ตลอดมา
ภาพที่พระองค์ทรงค้อมพระวรกายลงหาพสกนิกร เป็นภาพที่ติดตรึงตาสื่อถึงพระราชจริยวัตรที่แสนงดงามของพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่
ภาพที่พระองค์ทรงประคองสมเด็จย่า ซึ่งในหลวงตรัสกับข้าราชบริพารว่า “ ..ไม่ต้อง คนนี้ เป็นแม่เรา เราประคองเอง...แม่ของเรา ทำไมต้องให้คนอื่นเข็น เราเข็นเอง.” เป็นภาพที่ประทับใจที่สุด เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ท่านกตัญญูต่อแม่ ประคองแม่เดิน๑
กานต์วลี พระองค์ไม่ได้เพียงแนะแนวทางให้พสกนิกรปฏิบัติอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังทรงปฏิบัติเป็นตัวอย่าง ทรงสอน ทรงนำทางให้ชาวไทยได้เข้าใจ พระองค์ทรงใช้ชีวิต บนทางสายกลาง ประหยัด อดออม เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่และทรงงานอย่างขยันขันแข็งบนพื้นฐานของความซื่อสัตย์สุจริต เป็นแบบอย่างของคำว่า เศรษฐกิจพอเพียง
“ ...ให้พอเพียงก็หมายความว่า มีกิน มีอยู่ ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่หรูหราก็ได้แต่ว่าพอ แม้บางอย่างอาจจะดูฟุ่มเฟือย แต่ถ้าทำให้มีความสุข ถ้าทำได้ก็สมควรที่จะทำ สมควรที่จะปฏิบัติ..”
พระองค์ทรงรู้จักคุณค่าของเงิน และทรงรู้จักหาเงินอย่างสุจริตตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ของใช้ส่วนพระองค์ล้วนเป็นของธรรมดา แปรงสีฟันและยาสีฟันฟลูโอคารีล ที่พระองค์ทรงม้วนหลอดจนหมด
หลอดยาสีพระทนต์ที่เห็นแบนเรียบนั้นเป็นผลจากการใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์ช่วยรีดและกด
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งว่า มหาดเล็กห้องสรงเห็นว่า ยาสีพระทนต์ของพระองค์คงใช้หมดแล้ว จึงได้นำหลอดใหม่มาเปลี่ยนให้แทน เมื่อพระองค์ได้ทรงทราบก็ได้ขอให้เขานำยาสีพระทนต์หลอดเก่ามาคืน และพระองค์ท่านยังทรงสามารถใช้ต่อไปได้อีกถึง 5 วัน
จะเห็นได้ว่า ในส่วนของพระองค์ท่านเองนั้นทรงประหยัดอย่างยิ่ง ซึ่งตรงกันข้ามกับพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ที่ทรงพระราชทานเพื่อราษฏรผู้ยากไร้อยู่เป็นนิจ พระจริยาวัตรของพระองค์ได้แสดงให้เห็นอย่างแจ่มชัดถึง พระวิริยะ อุตสาหะ ตลอดจนความประหยัดในการใช้ของอย่างคุ้มค่า สบู่เหลวยี่ห้อบาเดคาสก็ทรงใช้จนหยดสุดท้าย พระองค์ทรงใช้มีดโกนและใบมีดยี่ห้อยิลเลตต์เช่นผู้ชายทั่วไป และแชมพูสระพระเกศาของทอสก้า ๘๗๑๑ นาฬิกาของพระองค์ราคาไม่กี่ร้อยบาท แม้กระทั่ง ฉลองพระบาทของพระองค์ก็เป็นผ้าใบยี่ห้อเดียว ราคาไม่กี่ร้อยบาท ของใช้ส่วนพระองค์ไม่จำเป็นต้องแพง ไม่ต้องมีแบรนด์เนม
กิจวัตรประจำวันที่พระองค์ทรงโปรดปราน แต่หากสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นหรือสิ่งแวดล้อม พระองค์ก็ทรงเลิกทำ เช่น เมนูหูฉลามที่พระองค์ทรงโปรดเสวยเป็นอย่างมาก ทรงเสวยเป็นพระกระยาหารว่างตอนดึกทุกคืน แต่เมื่อได้ทอดพระเนตรรายการสารคดีที่ชาวประมงจับปลาฉลามมาตัดครีบ แล้วโยนลงทะเล นับแต่นั้นมาไม่ทรงเสวยหูฉลามอีกเลย ผู้ที่ได้ร่วมโต๊ะเสวยหลายครั้ง จะสังเกตเห็นว่าพระองค์ไม่เคยเสวยเหลือทิ้ง จะทรงตักพระกระยาหารแต่พอดี
ทรงรับสั่งกับข้าราชบริพารผู้ที่มีหน้าที่ถวายเอกสารต่างๆ ว่า หากใส่ซองแล้วก็ขอให้ติดกาวเฉพาะตรงมุม หรือถ้าผนึกด้วยเทปกาวก็ขอให้ใช้แต่เพียงสั้นๆ สักสองนิ้ว กระดาษและซองเอกสารหากไม่ใช่เอกสารสำคัญให้ใช้กระดาษรีไซเคิล ทรงใช้ดินสอปีละ ๑๒ แท่ง จะทรงใช้จนดินสอสั้นกุดจนกว่าจะทรงใช้ต่อไม่ได้
ไม่โปรดให้ขบวนรถเสด็จยาวเหยียด โปรดให้ขบวนรถสั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทรงประหยัดพลังงานมานานแล้ว มีรับสั่งกับข้าราชบริพารเสมอว่า นั่งรถคนละคัน เป็นการสิ้นเปลืองให้นั่งรวมกันยกเว้นกรณีตามเสด็จในพระราชพิธีสำคัญ
การทำงานก็เช่นเดียวกัน พระองค์มีวิธีการทรงงานอย่างเรียบง่าย ภายในห้องทำงาน ๓x๔ เมตร ภายในห้องทรงงานที่มีวิทยุ โทรทัศน์ โทรสาร โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ เทเล็กซ์ เครื่องบันทึกเสียง เครื่องพยากรณ์อากาศ แผนที่อื่น ๆ แสดงถึงพื้นที่หมู่บ้าน แม่น้ำ ภูเขาและป่า อย่างละเอียด เวลาทรงงานจะประทับบนพื้น โดยไม่ทรงงานบนเก้าอี้ เหมือนคนทำงานทั่วไป เพื่อวางสิ่งของต่าง ๆ ได้ถนัด พระองค์ทรงประทับพับเพียบกับพื้นตามวิถีไทย ที่สอนเรื่องความเรียบง่าย ทรงประทับพับเพียบ ๕-๖ ชั่วโมง โดยไม่เปลี่ยนท่า ทรงกองเอกสารบนพื้น ที่มีข้าราชบริพารนั่งล้อมวงเฝ้ากัน โดยไม่ต้องเข้าห้องประชุม ไม่ต้องมีโต๊ะ เก้าอี้ เพื่อเป็นการประหยัด
นอกจากนั้นยามที่ทรงเสด็จเยี่ยมเยียนราษฎรถึงบนบ้าน พระองค์ก็ทรงนั่งพับเพียบกับพื้นในระดับเดียวกับราษฎร และไม่ทรงรังเกียจของถวายของชาวบ้านแบบตามมีตามเกิด อีกทั้งยังทรงโปรดมะขามป้อมแทนที่จะเป็นลูกอมที่นิยมทั่วไป
พระเจ้าอยู่หัวเวลาทำอะไรทรงมุ่งมั่นมาก เรื่องความขยันไม่ต้องพูด ทรงงานไม่มีวันเสาร์อาทิตย์ ไม่มีเวลากลางวัน กลางคืน อีกทั้งยังทรงสอนให้ประชาชน รู้จักประหยัดและบันทึกค่าใช้จ่าย ทรงสอนสมเด็จพระเทพฯ ให้ทรงจดรายรับ – รายจ่ายและทำงบดุลของมหาดเล็กคนหนึ่ง ตั้งแต่พระองค์ยังทรงพระเยาว์
กานต์วลี ชั่วพระชนมายุ ที่ผ่านมานั้น ได้ทรงแสดงให้ดูหมดทุกอย่าง ได้ทรงทำหมดทุกอย่าง ทรงคิดหมดทุกอย่าง เพื่อรักษาประเทศของเราไว้ ไม่ใช่เพียงรักษา ทรงสอนด้วย ทรงนำด้วย ทรงทำให้ดูด้วย กานต์รู้หรือไม่ว่า ปลาหมอเทศที่ขณะนี้ได้แปรพันธุ์เป็นปลานิล ให้คนทั่วทั้งประเทศได้ใช้เป็นอาหารและเป็นอาชีพเลี้ยงตัวนั้น ก็เกิดมาจากสระว่ายน้ำของพระองค์ท่านที่สวนอัมพร พระองค์ทรงนำมาเลี้ยงปลา ทรงตรัสว่า อยู่ไปก็หรูหราฟุ่มเฟือย และก็ไม่ค่อยได้ใช้ นำไปใช้เลี้ยงปลาดีกว่า พระองค์เริ่มเพาะพันธุ์และแจกจ่ายไปทั่วประเทศ ๑ แม้ในขณะนี้พระราชวัง สวนจิตรลดาก็ได้กลายเป็น แหล่งทดลอง แหล่งวิจัยทางการเกษตร แหล่งวิจัยพลังงานทดแทนจนถึงแปลงสาธิตการทำเกษตร ทำนา
กานต์วลี ในแผ่นดินบนพื้นโลกนี้ หามีใครที่ยิ่งใหญ่และมีพระปณิธานแน่วแน่เหมือนเช่นพระองค์อีกแล้ว พระราชจริยวัตรอันแสนงดงาม ประทับอยู่ในดวงใจของชาวไทยทุกคน ควรหรือไม่ละกานต์วลี ที่เราจะต้องสนองต่อพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ โดยการกระทำตนของเราให้เข้าสู่วิถีแห่งหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รู้หลัก มีเหตุผล พอประมาณ และสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี หมั่นหาความรู้ ด้วยคุณธรรม ความพากเพียร ซื่อสัตย์ สุจริต เพื่อสังคม ประเทศชาติเพื่อ ในหลวงและเพื่อความเจริญผาสุก สงบของตัวเราเอง
กานต์วลี ผมอาจจะไม่สามารถยิ่งใหญ่ได้ตามแนวทางความคิดของกานต์วลี แต่ผมจะยิ่งใหญ่ตามแนวคิดของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมจะใช้ความรู้ความสามารถของผมพัฒนา ถิ่นดินแดนบ้านเกิด แนะนำให้ชาวบ้าน ลด ละ เลิก สิ่งอบายมุข ให้สู่แนวทางดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
พสกนิกรของพระองค์ มากมาย ที่ปฏิบัติตนตามแนวแห่งปรัชญาพอเพียง และได้กลายเป็นต้นแบบ แห่งผู้คนในประเทศอีกมากหลาย อาทิ ผู้ใหญ่วิบูลย์ เข็มเจริญ ผู้ใหญ่บ้านแห่งบ้านห้วยหิน ตำบลลาดกระทิง อำเภอสนามไชยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นตัวอย่างเกษตรกรแบบพึ่งตนเอง โดยใช้ วนเกษตร เป็นการปลูกพืชหลายๆ ชนิด ซึ่งจะเกื้อกูลกัน เหมือนต้นไม้ในป่าธรรมชาติ , ชาวคีรีวง ในอำเภอลานสกา ,ประยงค์ รณรงค์ ชาวบ้านชุมชนไม้เรียง อำเภอฉวาง นครศรีธรรมราช ด้วยแผนแม่บทชุมชน ครูชบ ยอดแก้ว ผู้ริเริ่มโครงการออมสัจจะวันละบาท
“ ผู้ที่ใช้ทรัพย์สิน ใช้ความคิดและใช้วาจาในทางที่จะส่งเสริมอำนวยประโยชน์ให้กับผู้อื่นย่อมได้ชื่อว่า ไม่เสียแรงที่เกิดมาเป็นคน “
สักวัน กานต์คงจะเข้าใจผม
ยังคิดถึงคุณเสมอมา
อภิษฐา
ไม่มีความเห็น