สวยอ่อนเยาว์กว่าวัยด้วยเคล็ดลับ ๑๓ ประการ


เคล็ดลับอ่อนกว่าวัย

สวยอ่อนกว่าวัยด้วยเคล็ดลับ ๑๓ ปรการ

๑. แสงแดด ศัตรูหมายเลข ๑ ของผิว

๘๐% ที่ทำให้ผิวดูแก่กว่าวัยคือ แสงแดด เพราะแสงอัลตร้าไวโอเล็ตในแสงแดดจะไปทำปฏิกิริยากับกรดไขมันไม่อิ่มตัวในเซลล์ผิว เกิดจากออกซิไดซ์กลายเป็นกรดไปทำลายอีลาสตินในผิว ทำให้ผิวเกิดริ้วรอย ฝ้า และแก่กว่าวัย ดังนั้นอย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านเด็ดขาด ให้ทาก่อนออกแดด ๒๐ นาที และควรเลือกครีมกันแดดชนิดที่กันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB

๒. ห่างไกลจากควันบุหรี่

เป็นอีกหนึ่งศัตรูตัวร้ายหนึ่งของผิว เพราะจะไปขัดขวางการดูดซึมวิตามินซีของร่างกาย ส่งผลต่อการผลิตคอลาเจน ทำให้ผิวหย่อนยาน อีกทั้งยังเป็นสาเหตุของการเกิดอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ คนที่สูบบุหรี่จะดูแก่กว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันที่ไม่สูบประมาณ ๑๐ ปี ผิวหนังเหี่ยวย่น สุขภาพทรุดโทรม แม้คนที่ไม่สูบบุหรี่ แต่อยู่ท่ามกลางควันบุหรี่ก็จะได้รับผลคล้ายๆ กัน เพราะควันบุหรี่สามารถสร้างความเสียหายให้ผิวได้ไม่แพ้กับการเผชิญแสงแดดเลยดทีเดียว

๓. อย่าหักโหมรีดไขมัน

หลายคนหักโหมลดน้ำหนักอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ผลที่ได้ตามมาด้วยคือ ผิวหนังเหี่บวย่น ดูแก่กว่าวัยไปซะนี่ ดังนั้นการลดน้ำหนักที่ถูกต้อง คือการลดอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงไม่ส่งผลกระทบต่อผิวหรือสุขภาพ การลดน้ำหนักต้องควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร ไขมันจะกลายเป็นกล้ามเนื้อที่กระชับ ไม่ใช่เหลือแต่หนังที่หย่อนยาน ส่วนการเลือกปริมาณอาหาร ต้องเลือกให้ครบทั้ง ๕ หมู่ เพราะหากขาดหมู่ใดหมู่หนึ่งไป จะทำให้ผิวหนังแห้งกร้าน ไม่สดใส ดูแก่กว่าวัย

๔. หัวเราะบ่อยๆ ช่วยทำให้อ่อนวัย

การหัวเราะบ่อยๆ นอกจากจะช่วยลดความเครียดทางจิตใจแล้ว ร่างกายที่เครียดอยู่ก็จะได้ปลดปล่อยตามไปด้วย หัวใจเต้นแรงขึ้น เลือดไหลเวียนได้ทั่ว ผิวพรรณที่หมองคล้ำอยู่ก็มีชีวิตชีวา ดูสดใสขึ้น นั่นเพราะการหัวเราะทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานเป็นปกติ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย และยังส่งผลถึงผิวโดยตรง และยังช่วยลดความเครียดอันเป็นต้นเหตุของการเกิดอนุมูลอิสระด้วย

๕. หลับคืนความอ่อนเยาว์

ในขณะหลับ Growth hormone จะทำงานได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะช่วงเวลา ๔ ทุ่มจนถึงตี ๒ โดยระบบประสาทอัตโนมัติจะทำการส่งอาหารให้กับทุกๆ เซลล์ในร่างกาย ทำให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ชะลอการเสื่อมของผิว ลองสังเกตดูก็ได้ ถ้าวันไหนเข้านอนเร็วและหลับสนิท ตื่นขึ้นมาผิวพรรณจะสดใสเป็นพิเศษ

๖. อ่อนเยาว์ด้วยโยคะ

การฝึกโยคะไม่เพียงช่วยให้ร่างกายสมส่วนแข็งแรง แต่ยังช่วยให้มีสมาธิ แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น เพราะการฝึกโยคะจะทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ร่ากายกระชับ ผิวพรรณสดใส แถมริ้วรอยก็ยังลดเลือนลงอีกด้วย

๗. เติมออกซิเจนให้ผิว

ออกซิเจนเป็นส่วนสำคัญในการเผาผลาญพลังงาน อีกทั้งนำอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งผิวของเราด้วย ดังนั้นการหายใจลึกๆ ยาวๆ จะช่วยให้ปอดได้รับออกซิเจนเต็มที่ ทั้งยังช่วยให้ร่างกายได้ไล่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปในตัว ส่งผลให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่าเต็มที่

๘. มลภาวะทำร้ายผิว

มลภาวะในอากาศมีส่วนทำร้ายผิวให้เกิดริ้วรอยได้ไม่แพ้ควันบุหรี่เลยทีเดียว  ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ผู้คนที่อยู่ในเมืองใหญ่กำลังได้รับมลพิษจากการหายใจเท่ากับการสูบบุหรี่ ๑๐ มวนต่อวันเลยทีเดียว หากหลีกเลี่ยงมลพิษไม่ได้ให้เลือกทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และอาหารที่มีวิตามิน เอ ซี อี มากๆ

๙. ดีท็อกซ์อารมณ์

ความเครียดเป็นการเป็นอีกตัวสำคัญของการทำลายสุขภาพผิว และพรากความอ่อนเยาว์ไปจากผิว เพราะความเครียดเป็นตัวทำให้เกิดอนุมูลอิสระ หากเกิดความเครียดให้หายใจลึกๆ ด้วยการวางมือบนหน้าท้อง หายเข้าจนท้องป่อง ทิ้งไว้สักครู่ แล้วหายใจออกจนท้องแฟบ ทำ ๕-๑๐ ครั้ง หรือโดยการเกร็งกล้ามเนื้อทีละส่วน เริ่มจาก นิ้วเท้า ต้นขา เข่า สะโพก เกร็งทุกส่วนแล้วทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นกำหมัด เกร็งแขน หัวไหล่ คอ ใบหน้า ทำทุกส่วนสลับกันจนรู้สึกผ่อนคลาย

๑๐. เติมความชุ่มชื้นให้ผิว

การขาดน้ำอาจะทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตติดขัด ระบบขับถ่ายทำงานไม่เต็มที่ เกิดริ้วรอยบนผิวหนัง ผิวหนังไม่สดใส ควรดื่มน้ำสะอาดวันละ ๒ ลิตรโดยจิบไปเรื่อยๆ ตลอดวัน ไม่ใช่ดื่มทีเดียว ๑ ลิตร และไม่ควรดิ่มน้ำขณะมื้ออาหารมากเกินไป เพราะสารอาหารจะไหลผ่านลงไปอย่างรวดเร็วจนร่างกายไม่อาจดูดซึมได้ทัน

๑๑. อบผิวด้วยไอน้ำ

ซาวน่าใช้ระบบ ร้อนจัด-เย็นจัด โดยการกระตุ้นร่างกายให้ขับเหงื่อในสภาพที่แห้ง สลับกับการอาบน้ำหรือแช่ร่างกายในน้ำเย็น ไอที่เกิดจากละอองน้ำจะช่วยให้เซลล์ผิวชั้นบนนุ่มนวลขึ้น รวมทั้งกระตุ้นระบบการขับของเสียออกจากร่างกายด้วยการขับเหงื่อ และกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต เร่งการเกิดเซลล์ผิวหใหม่ ชะลอการเหี่ยวย่นของผิวหนัง

๑๒. โปรแกรมล้างพิษใน ๑ วัน

การอดอาหารเป็นกระบวนการล้างพิษแบบหนึ่ง นอกจากสุขภาพจะดีขึ้น กระปรี้ประเปร่าแล้ว เมื่อสารพิษออกจากร่างกาย ร่างกายก็จะสะอาดเอี่ยม ผิวพรรณก็จะสดใส อ่อนเยาว์ลงด้วย เหมือนรถยนต์ที่เพิ่งล้างอัดฉีดมาใหม่ๆ ฉันใดก็ฉันนั้น ลองเลือกวิธีอดอาหารที่เหมาะกับตัวเองดู ดังนี้

ระดับที่ ๑ อดด้วยผลไม้ คือทานผลไม้ชนิดเดียวกันตลอดวัน ควรเป็นผลไม้ที่ไม่หวานจัด เช่น แอบเปิ้ล ฝรั่ง สาลี่ มะละกอ เป็นต้น

ระดับที่ ๒ อดด้วยน้ำผลไม้ คือดื่มน้ำผลไม้ชนิดเดียวกันตลอดวัน ซึ่งควรเป็นผลไม้ชนิดเดียวกับระดับที่ ๑

การล้างพิษด้วยการอดอาหารคงไมสามารถล้างพิษให้หมดไปภายในวันเดียว ดังนั้นควรทำสม่ำเสมอเท่าที่โอกาสและร่างกายจะอำนวยให้

๑๓. หวานมากไปก็ไม่ดี

ความหวานจากน้ำตาล นอกจากจะทำให้อ้วน และฟันผุแล้ว ยังทำให้ติดเชื้อได้ง่าย เพราะไปทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายต่ำลง สมองเสื่อม เซื่องซึม ไม่กระฉับกระเฉง เนื่องจากระบบสมดุลต่างๆ ในร่างกายเสียไป นอกจากนี้ยังทำให้เราแก่กว่าวับ เพราะการเผาผลาญน้ำตายในร่างกายเป็นตัวเร่งให้เกิดอนุมูลอิสระ ใครขาดหวานไม่ได้ให้เปลี่ยนไปทานน้ำผึ้งแทน เพราะน้ำผึ้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ เต็มไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว

แต่ความหวานจากความรักเนี่ย ยิ่งจะทำให้ผิวพรรณสดใสขึ้นทุกวันๆ เลยทีเดียว จริงมั้ย

ข้อมูง นิยสาร Health plus ฉบับเดือนมิถุนายน ๒๕๕๑ หน้าปก กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ 

เขียนใน GotoKnow โดย 
 ใน Bobby
คำสำคัญ (Tags): #สุขภาพ
หมายเลขบันทึก: 222185เขียนเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2008 14:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 มีนาคม 2012 20:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

หวานมากไปไม่ดีใช่ไม๊  ต้องห้าว ๆ หน่อยโน๊ะ

ความหวานจากความรักทำให้ผิวพรรณสดใสนี่   ตำราไหนนี่ คุณBobby

ดื่มน้ำส้มทั้งวัน  เบาหวานเรียกหาแน่ ๆ คุณ bob

ดีใจด้วยนะค่ะ น้องอั๋นที่สอบผ่านทำใบขับขี่

ไปฝึกให้ชำนาญก่อนนะ  ค่อยไปซิ่งอ่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท