เกษตรบึงปลาทูแนะสมุนไพรใกล้ตัวคู่ครัวไทย


สมุนไพร

เกษตรบึงปลาทูแนะสมุนไพรใกล้ตัวคู่ครัวไทย

กล่าวถึงสมุนไพรคนไทยเรารู้จัก และนำมาใช้ในชีวิตประจำวันมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ ด้วยการใช้เป็นอาหาร ยารักษาโรค และกำจัดศัตรูพืช แต่สมุนไพรที่ทุกครอบครัวคุ้นเคยกันดีและไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ คือ  กระเพราและขมิ้น เพราะทุกครอบครัวรู้จักกันเป็นอย่างดี

            เมื่อพูดถึงกะเพราเชื่อว่าคนไทยทุกคนย่อมรู้จักเป็นอย่างดี เพราะมีการนำมาใช้ในการปรุงอาหารกระเพราช่วยให้มีกลิ่นหอมและช่วยคับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ กะเพราเป็นไม้ล้มลุกที่มีอายุยืนนาน ลำต้นมีลักษณะเป็นเหลี่ยมสูง 75 ซ.ม. ลำต้นกิ่งรวมทั้งใบมีขนเล็กน้อยมีดอกเป็นชั้นๆ สีขาว กะเพราที่ปลูกในบ้านเรามี 2 พันธุ์ คือ กะเพราขาว ใบและลำต้นสีเขียว นิยมใช้เป็นเครื่องเทศแต่งกลิ่นอาหาร และ  กะเพราแดง ใบและลำต้นสีแดงอมเขียวใช้เป็นยาสมุนไพร

            การปลูกกะเพราใช้เมล็ดและกิ่งปักชำก็ได้ การปลูกนิยมยกร่องปลูก เริ่มจากการปลูกด้วยการขุดไถดินให้ลึก 20 - 30 .. ตากดินไว้ 5 - 7 วัน พรวนดินและย่อยให้ละเอียด จากนั้นจึงนำเมล็ดไปหว่าน การดูแลรักษาควรมีการตัดแต่งกิ่งใหม่เสมอ ซึ่งจะทำให้กะเพราแตกกิ่งก้านใหม่มากขึ้น การรดน้ำ       เช้า - เย็น และใส่ปุ๋ยอินทรีย์เป็นครั้งคราว จะช่วยให้กะเพราเจริญเติบโตได้ดีขึ้น

            ขมิ้นเป็นพืชสมุนไพรพื้นเมืองในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แถบประเทศอินเดีย อินโดนีเชีย ศรีลังกา และไทย เป็นต้น สำหรับประเทศไทยพบว่ามีการปลูกทั่วไป โดยจะพบมากทางภาคใต้ มีทั้งใช้เป็นยาและประกอบอาหารโดยเฉพาะอาหารภาคใต้ซึ่งจะมีการใช้ขมิ้นเป็นเครื่องเทศประกอบอาหารเกือบทุกชนิดขมิ้นเป็นพืชล้มลุกอายุ 1 ปี มีเหง้าอยู่ใต้ดิน มีการแตกแขนงของเหง้าไปทางด้านข้าง เนื้อในของเหง้ามีสีส้มอมเหลือง และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ส่วนที่อยู่เหนือดินของขมิ้นเรียกว่า ลำต้นเทียม สูง  50 - 10 ซ.ม. มีใบประดับสีเขียวอ่อนหรือสีขาว รูปหอกเรียงซ้อนกัน ระหว่างใบประดับจะมีดอกสีเหลืองอ่อนโคนติดกัน ปลายแยกเป็นกลีบ 3 กลีบ ขมิ้นเป็นพืชที่ชอบอากาศค่อนข้างร้อนและมีความชุ่มชื้นดินมีการระบายน้ำดี หากมีน้ำขังจะทำให้เหง้าขมิ้นเน่าตายได้ การปลูกขมิ้นชันไม่ควรปลูกใต้ต้นไม้ใหญ่หรือมีร่มเงา การปลูกมักจะเริ่มปลูกในเดือน มีนาคม-เมษายน โดยอาจยกร่องหรือไม่ก็ได้ การเตรียมดินควรไถพรวน 3- 4 ครั้ง ให้ดินโปร่งร่วนซุยและตากแดดทิ้งไว้ 7 วัน การปลูกขมิ้นจะขุดหลุมลึก 5 - 7 ซ.ม. โดยใช้ระยะปลูก  30 x 30 หรือ 40 x 40 ซ.ม.หลังจากปลูกแล้ว 40 วัน ควรดายหญ้ากำจัดวัชพืชและใส่ปุ๋ยบ้าง การกำจัดวัชพืชควรทำก่อนขมิ้นอายุ 4 เดือน หลังปลูกเพราะอาจเกิดอันตรายต่อเหง้าขมิ้นที่อยู่ใต้ดิน ซึ่งจะทำให้เกิดโรคโคนเน่าตามมา เก็บเกี่ยวเมื่ออายุ 8 - 10 เดือน สังเกตใบล่างของขมิ้นเริ่มเหลืองซึ่งจะเป็นช่วงเดือน มกราคม กุมภาพันธ์ การใช้ประโยชน์สามารถใช้ได้ทั้งเหง้าสดและแห้ง ซึ่งมีสรรพคุณในทางขับลมแก้ท้องร่วง แก้โรคผิวหนังผื่นคัน โดยนำเหง้าขมิ้นยาว 2 นิ้ว ฝนกับน้ำต้มสุกทาบริเวณที่เป็นหรือใช้ผลขมิ้นโรยบริเวณที่มีผื่นคันวันละ 3 ครั้ง จะเห็นได้ว่าสมุนไพรไทยนั้นมีประโยชน์มากมายมหาศาลและสามารถจัดหาได้ง่าย ราคาย่อมเยาแล้วยังสามารถที่จะปลูกเป็นการเสริมรายได้และลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้อีกด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ นายภานุวัฒน์  ทิพย์ตา เจ้าพนักงานการเกษตรประจำ ต.บึงปลาทู องบรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ โทร. 056-279297

คำสำคัญ (Tags): #สมุนไพร
หมายเลขบันทึก: 222121เขียนเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2008 10:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท