วันนี้ที่ต้องผ่านไป


แต่ละวันที่ผ่านไป เหลืออะไรให้ซาบซึ้ง ความคิด ความฝันความคำนึง สักเพียงครึ่งหรือไม่ให้ชื่นชม

วันนี้ผมตื่นสายไปหน่อย ลุกจากที่นอนก็ปาเข้าไปหกโมงเช้า รีบพับผ้าห่มสีเหลืองที่ผู้มีพระคุณอย่างสูงยิ่งในชีวิตนี้ได้มอบให้ก่อนต้องลาจากโลกนี้ไป นำหมอนที่หนุนนอนบนพื้นห้องไปวางไว้หัวนอนบนเตียง จากนั้นจึงเข้าไปห้องน้ำแปรงฟันพร้อมกับความคิดอันหวานซึ้งในยามเช้า ไม่ลืมที่จะหยิบโทรศัพท์ไปเปิด เพลงลูกทุ่ง FM ด้วย ฟังเพลงไป แปรงฟันไป ช่างสุนทรีย์เสียนี่กระไร อันที่จริงท่ามกลางความเงียบจะพบความสุนทรีย์ที่แท้จริงยิ่งกว่า

แปรงฟันเสร็จ หยิบไม้กวาดจากมุมห้อง กวาดฝุ่นละอองออกจากห้อง และวิ่งลงไปที่ชั้น ๑ เพื่อหยิบไม้กวาดอีกอันหนึ่งมากวาดหน้าห้อง เพราะรู้สึกว่าหน้าห้องกำลังสกปรก (แม่บ้านไปไหนก็ไม่รู้ แต่ไม่เป็นไร ไม่มีแม่บ้านทำเองก็ได้) จากนั้นไปหยิบไม้ถูพื้นไปจุ่มน้ำมาถูห้อง ยัง...ยังไม่พอกับการเริ่มต้นชีวิตในวันนี้ ถูพื้นเสร็จนำผ้าไปแช่ วันนี้มี กางเกงยีนสีดำ ๒ ตัว กางเกงทำงาน ๓ ตัว กางเกงกีฬา ๒ ตัว เสื้อคลุมสีดำ ๑ ตัว เสื้อใส่เล่นอีก ๔ ตัว และอีกถังหนึ่งเป็นถุงเท้า ๖ คู่ ระหว่างที่รอให้ผงซักฟอกชอนไชใยผ้าตามโฆษณาชวนเชื่อ ผมเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อจะเขียนอะไรบางอย่างที่คิดไว้เมื่อคืนก่อนที่จะเข้าสู่นิทรา คิดๆ เขียนๆ เพื่อหวังว่าจะนำมาใส่บันทึกในบล็อก เขียนได้ ๒ หน้า รู้สึกท้องร้องจ๊อกๆ แต่ก็ทนๆ ทั้งที่คิดอยู่ว่าระวังโรคกระเพาะนะ เขียนเรื่องราวยังไม่หนำใจแต่ก็ต้องบันทึกใส่ไปรษณีย์ตัวเล็ก เครื่องตายแล้วตายอีก ในใจก็คิดว่า เดี๋ยวเหอะเดี๋ยว เจอดีแน่ๆ ฉันคงต้องนำไปให้ปลาอยู่อาศัยในคูน้ำแน่ๆ จากนั้นจึงไปซักผ้าที่แช่ไว้ ตากเป็นที่เรียบร้อย อาบน้ำเสร็จ หวีผม ทาครีมที่แขนกันลาย ใส่เสื้อยืดคอปกสีขาว กางเกงทำงานสีดำ เดินออกจากห้องไม่ลืมที่จะคล้องกุญแจป้องกันขโมยตามปกติ มาที่ห้องทำงาน อบอ้าวเหลือกำลัง จึงออกไปทานข้าวได้ข่าวว่าพยาธิกำลังร้องกระจองอแง หาแกงปักษ์ใต้อร่อยๆกินหน่อยคงมีแต่แกงน้ำเคยที่เกือบจะใช่แต่ไม่ใช่สูตรดั้งเดิม กับปลาทูทอดมานั่งกินในห้องอาหาร มีแอร์เย็นๆ พัดโชย จึงลุกขึ้นไปปิดแอร์ พร้อมกับเปิดหน้าต่าง เนื่องจากวันนี้อากาศไม่ได้ร้อนหนักหนาอะไร นั่งไปกินไปคิดไปเรื่อยเปื่อยตามประสาคนช่างคิด กินเสร็จปั่นจักรยานไปหา ฮิปโปเบียร์ เธอนั่งทำงานในห้องทำงานอย่างขมักเขม้น ผมส่งอมยิ้มที่ซื้อจากร้านค้าให้หนึ่งอัน เข้าไปคุยอับแมวน้ำตั๊กนิดหน่อยจึงเดินออกด้วยความเขินๆ เพราะแต่ละคนกำลังทำงาน จากนั้นจึงมาห้องทำงานเพื่อตรวจงานนักศึกษาที่ค้างไว้ แต่ไม่วายต้องเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อใส่ข้อมูลความคิดไว้ก่อน กระนั้น สิ่งที่บันทึกไว้เปิดไม่ออก เสียใจด้วยนะ วันนี้โกรธใครไม่เป็น เมื่อเปิดไม่ออกก็เปิดไม่ออก คืนนี้ค่อยไปเขียนต่อ และบันทึกมาใหม่ หากพรุ่งนี้เปิดไม่ออกอีก มะรืนนี้ก็ไปบันทึกมาใหม่ จะกลัวอะไร เมื่อเปิดไม่ออกวันนี้ ก็ต้องเล่าเรื่องราวให้ตัวเองฟังดังข้างต้นนี้แหละ

คำสำคัญ (Tags): #ศาสนาและปรัชญา
หมายเลขบันทึก: 21880เขียนเมื่อ 31 มีนาคม 2006 10:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 ตุลาคม 2015 10:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท