ฉบับที่ ๑๑
กานต์วลี ที่แสนคิดถึง
กานต์วลี... เรามักจะหยิบยืมจากพรุ่งนี้ของเรา
เพื่อชำระหนี้เมื่อวันวานของเราเอง..
We often borrow from our tomorrows
To pay our debts of our yesterdays. ๒
พอกันทีเถอะ กานต์วลี กับการอยู่อย่างหรูหรา ฟุ่มเฟือยแต่ไร้ซึ่งความสุข กานต์คงอยากทราบสินะว่าทำไม ผมจึงเปลี่ยนแปลงไป ในภาวะของการดิ้นรนไขว่คว้า ผมบังเอิญได้ฟังกระแสพระราชดำรัสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯตอนหนึ่งว่า
“..เศรษฐกิจแบบพอเพียง ฝรั่งเรียก Self-Sufficiency Economy คือเศรษฐกิจแบบพอเพียงกับตนเอง เราก็อยู่ไม่เดือดร้อน....” ๑
“ คำว่าพอเพียงมีความหมายอีกอย่างหนึ่ง มีความหมายกว้างออกไปอีก ไม่ได้หมายถึงการมีพอสำหรับใช้เองเท่านั้น แต่มีความหมายว่าพอมีพอกิน....พอมีพอกินก็แปลว่าเศรษฐกิจพอเพียงนั่นเอง...”
“...ให้พอเพียงนี้ก็หมายความว่ามีกินมีอยู่ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่หรูหราก็ได้แต่ว่าพอ แม้บางอย่างอาจจะดูฟุ่มเฟือย แต่ถ้าทำให้มีความสุข ถ้าทำได้ก็สมควรจะทำ สมควรที่จะปฏิบัติ อันนี้ก็ความหมายอีกอย่างหนึ่งของเศรษฐกิจหรือระบบพอเพียง...” ๒
กานต์วลี เพียงพระราชดำรัสเท่านี้จริง ๆ ทำให้ผมต้องหวนกลับมาสู่แผ่นดินบ้านเกิด ผมคิดว่าผมได้พบจุดหมายปลายทางแห่งความสุขของผมแล้ว... ผมกลับมาเพื่อศึกษาทฤษฎีใหม่ตามแนว ทางแห่งพระราชดำริ
“ เศรษฐกิจพอเพียง ” (Sufficiency Economy) เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิต แก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดรวมถึงการพัฒนาและบริหารประเทศ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ ทางสายกลาง คำนึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทำ..
กานต์วลีแท้ที่จริงแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานแนวความคิดเกี่ยวกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจแบบพอเพียงมาเป็นระยะเวลายาวนานมาแล้ว ตั้งแต่ ปี ๒๕๑๗ และทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นำไปเผยแพร่ เมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ ทั้งนี้เพราะพระองค์ทรงห่วงใยในชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะเกษตรกรซึ่งเป็นประชากร ส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งพระราชดำริดังกล่าวก่อให้เกิด ทฤษฎีใหม่ ซึ่งถือเป็นหลักในการบริหาร การจัดการที่ดินและน้ำเพื่อการเกษตรกรรมในที่ดินขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งแรงดลพระราชหฤทัยในเรื่องนี้ เกิดจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรในภาคอีสานบริเวณพื้นที่บ้านกุดตอแก่น ตำบลกุดสิมคุ้มใหญ่ อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๓๕ ทรงเห็นสภาพความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นยากจนของชาวบ้าน จึงนำเหตุการณ์เหล่านั้นมาพระราชทานพระราชดำรัสแก่บรรดาคณะบุคคลที่เข้าเฝ้า ในวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๕ ว่า
“..ถามชาวบ้านที่อยู่นั่นว่า เป็นอย่างไรบ้าง ปีนี้ เขาบอกว่าเก็บข้าวได้ แล้วข้าวก็อยู่ตรงนั้น กองไว้ เราก็ไปดูข้าว ข้าวนั้นมีรวงจริง แต่ไม่มีเมล็ดหรือรวงหนึ่งมีซักสองสามเมล็ด ก็หมายความว่า ๑ ไร่ คงได้ประมาณซักถังเดียวหรือไม่ถึงถังต่อไร่ ถามเขาทำไมเป็นอย่างนี้ เขาบอกว่า เพราะไม่มีฝน เขาปลูกกล้าไว้แล้วเมื่อขึ้นมาก็ปักดำไม่ได้ เพราว่าไม่มีน้ำ ก็ปักทราย ทำรูในทราย แล้วปักลงไป เมื่อปักแล้วตอนกลางวันก็เฉามันงอลงไป แต่ตอนกลางคืนก็ตั้งตัวตั้งตรงขึ้นมา เพราะมีน้ำค้าง แล้วในที่สุดก็ได้รวง แต่ไม่มีข้าวเท่าไร อันนี้เป็นบทเรียนที่ดี....แสดงให้เห็นว่า ข้าวนี้เป็นพืชแข็งแกร่งมากขอให้ได้มีน้ำค้างก็พอ แม้จะเป็นข้าวธรรมดาไม่ใช่ข้าวไร่ ถ้าหากว่าเราช่วยเขาเล็กน้อยก็สามารถที่จะได้ข้าวมากขึ้นหน่อยพอที่จะกิน ฉะนั้น โครงการที่จะทำมิใช่จะต้องทำโครงการใหญ่โตมากนัก จะได้ผล ทำเล็ก ๆ ก็ได้ จึงเกิดความคิดขึ้นมาว่าในที่เช่นนั้น ฝนดีพอสมควร แต่ลงมาไม่ถูกระยะเวลา..ฝนก็ทิ้งช่วง..ข้าวก็ไม่ดี...” ๑
จากพระราชดำรัสข้างต้น แสดงให้เห็นถึงการที่ทรงรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น จากปัญหาข้อเท็จจริงแล้วทรงวิเคราะห์เป็นแนวคิดทฤษฎี เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร พระราชดำรินี้ ทรงเรียกว่า “ ทฤษฎีใหม่ ” อันเป็นแนวทางหรือหลักการในการบริหารการจัดการที่ดินและน้ำเพื่อการเกษตรในที่ดินขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงถือว่าต้นแบบทฤษฎีใหม่คือ โครงการพัฒนาที่วัดมงคลชัยพัฒนา ตำบลห้วยบง และตำบลเขาดินพัฒนา อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี
กานต์วลี ผมกำลังมีความสุข ในการที่ได้กล่าวถึงโครงการพระราชดำริ “ทฤษฎีใหม่” ซึ่งอยู่ในกรอบแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะทำให้เราสามารถดำรงชีวิตได้อย่างไม่เดือดร้อน มีความเป็นอยู่อย่างประมาณตนตามฐานะอัตภาพ โดยไม่หลงใหลไปตามกระแสวัตถุนิยม ยึดทางสายกลางในการดำรงชีวิต ยึดถือวิถีชีวิตแบบไทย มีความเป็นอยู่เรียบง่าย ประพฤติตนในแนวทางที่ดี ประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย ประกอบอาชีพสุจริต มีความพอเพียง พออยู่และพอกินพอใช้ในการดำเนินชีวิต
กานต์วลี กลับมาอยู่เคียงข้างผมเถิด
อาหารเต็มปาก แล้วเธอจะขับร้องได้อย่างไร
มือกำทองไว้เต็มกำ แล้วจะยกขึ้นประนมสวดมนต์ได้หรือ
How can you sing if your mouth be filled with food?
How shall your hand be raised in blessing if it is filled with gold? ๑
ผมกลับมาแล้ว
อภิษฐา
สวัสดีค่ะ
How can we raised our hands for blessing if they 're full of gold ?
Thanks Sir.
สวัสดีครับ