สุขภาพดี มีความสุข
การดูสุขภาพสำหรับคนกรุ๊ปเลือดโอ
-กินอาหารทะเล ย่อยง่าย ทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานเป็นปกติ
-กินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะธาตุเหล็กและวิตามินซี
-กินวิตามินบีรวมในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกวัน
-ควรกินเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงตามธรรมชาติ เช่น เนื้อวัว แกะ ไก่บ้าน ไก่งวง ปลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาค็อด ปลาแมคเคอเรล และปลาแซลมอนในแหล่งธรรมชาติ
-หลีกเลี่ยงอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่มากเกินไป กินอาหารโปรตีนแทน
-งดนมวัว อาจจะแพ้ได้ ทำให้แผลหายช้า ระบบเผาผลาญทำงานช้า ทำให้ท้องอืด
-หลีกเลี่ยงการกิน กะหล่ำดอก ถั่วเลนทิล ถั่วอัลฟัลฟา ถั่วปินโตะ ถั่วแดง มัสตาร์ดเขียว เนื่องจากจะทำให้ระดับฮอร์โมนไม่สมดุลและขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์
-ควรกินนมแพะ ชีสนมแพะ นมข้าวโอ๊ต นมข้าว ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ วอลนัต ลูกพลัม บร็อกโคลี หัวหอม สับปะรด ผักโขม ฟักทอง หัวผักกาด มะเดื่อ
-หลีกเลี่ยงเห็ดหอม มันฝรั่ง มะเขือยาว อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคไขข้ออักเสบ เนื่องจากเล็กตินในอาหารเหล่านี้ต่อต้านระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของคนเลือดกรุ๊ปโอ ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ง่ายต่อการติดเชื้อ
-งดชา กาแฟ ทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารมากยิ่งขึ้น
-กินผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า สาหร่ายทะเล เพราะอุดมไปด้วยวิตามินเค ช่วยลดการเกิดลิ่มเลือด
-ออกกำลังกายปานกลางถึงมาก เช่นเต้นแอโรบิค ขี่จักรยาน วิ่ง ฯ สัปดาห์ละ 3-4 วัน 30-45 นาที
-ดื่มชาเปปเปอร์มินต์ ขิง โรสฮิป(Rose Hip) แดนดีเลียน (Dandelion) อย่างสม่ำเสมอ จะส่งผลดีต่อระบบภายใน
-แมงกานิสจำเป็นต่อการทำงานของเซลล์และเนื้อเยื่อ ควรกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีแมงกานิสทุกวัน
-หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ได้จากข้าวสาลี ข้าวโพด ทำให้ระบบการย่อยไม่ดี
-หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากนมวัวทุกชนิด เช่นไอศกรีม
-ลดการกินอะโวคาโด ส้ม พีนัต เนื้อหมู แฮม เบคอนให้น้อยลง
-ควรกินกล้วย มะเดื่อฝรั่ง ลูกพลุน ฝรั่ง มะม่วง ลูกพลัม สับปะรด
ความเห็น (11)
วันนี้บันทึก เรื่องการดูแลสุขภาพสำหรับคนเลือดกรุ๊ปโอให้พี่Krutoi แล้วนะค่ะ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ะสำหรับเกร็ดความรู้ จะได้เอาไปดูแลตัวเองบ้าง
แต่รู้สึกว่าอันไหนที่ห้ามจะชอบทั้งนั้นเลย เฮ้อ
จากคนเลือดกรุ๊ปโอ
ทานน้อยลงก็ได้ค่ะ ตัวไหนที่ทานแล้วมีปัญหา เราก็ลดลง เช่นถ้าเราทานนมวัวแล้วท้องอืด เราก็งด ทานไอศกรีมแล้วไม่มีปํญหาเราก็ทานบ้างเมื่ออยากทานนะค่ะ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ
ขอบคุณ คุณมดตะนอยต่อยต้นพริก ที่แวะเข้ามาอ่าน ตอนแรกลืมลงชื่อค่ะ
กินตามใจปาก เสี่ยงมะเร็ง
นอกจากพันธุกรรมแลเว ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดสารก่อมะเร็งคือ อาหาร และเป็นอาหารที่ต้องซื้อทานทุกวัน
-อาหารมีเชื้อโรค เช่น ส้มตำปูที่ดองจากปูน้ำจืด เพราะมีพยาธิใบไม้ ทำให้เป็นมะเร็งในท่อน้ำดี มะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้ถั่วคั่วที่ใส่ส้มตำอาจมีอัลฟล่าท๋อกวินซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งอีกตัว
-อาหารปิ้ง ย่าง รมควัน เช่น หมูปิ้ง เนื้อย่าง หมูรมควันที่มีไขมันติดอยู่ ทำให้เกิดสารพิษมากมาย คือสารพิษในกลุ่ม โพลีไซคลิกอะโรเมติกไฮโดรคาร์บอน ซึ่งเป็นสารพิษก่อมะเร็ง สาเหตุเกิดจากความร้อนที่ทำให้ไขมันหยดลงไปในถ่าน เกิดเป็นสารเคมีเป็นเขม่าไปติดอาหารที่ปิ้งหรือย่าง
-อาหารเคี่ยว เนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการความร้อนเกิน ๒ ชั่วโมง เช่น เคี่ยว ต้ม ทอด จะปล่อยสารพิษกลุ่มเฮเทอโรไซคลิกเอมินส์ทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง
-อาหารมัก เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน แหนม ปลาร้า ปลเจ่า เพราะขั้นตอนการทำมีการใส่ดินประสิวเพื่อจำกัดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ทำให้เกิดสารที่ชื่อบูโทลิน
-อาหารไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน ของทอด
-อาหารทีผสมบอแรกซ์หรือฟอมาลีน เช่น ลูกชึ้น เต้าทึง เนื้อกุ้ง เนื้อปลา ฯลฯ
-อาหารปนเปื้อนอื่นๆ เช่น ปนเปื้อนสารฟอกขาว มักเจอใน ถั่วงอก ขิงซอย อาหารปนเปื้อนยาฆ่าแมลง เช่น ผัก ผลไม้ ฯลฯ
ข้อมูล นิตยสาร First
เมื่อวานเพิ่งทานส้มตำปู ปลาย่าง ไก่ย่าง มาอ่ะ เป็นไรป่าวน้องอั่น
ขอบคุณสำหรับเกร็ดความรู้ จะพยายามนำไปใช้นะครับ
สวัสดีครับน้าคุ๊ก เห็นบอกว่าเมื่อวานเพิ่งทานส้มตำปู ปลาย่าง ไก่ย่าง ใช่มั้ยตครับ อืมม์...จากการวิเคราะห์พบว่า (ออกแนววิชาการ แต่สงสัยจะท่าดีทีเหลวครับ แหะ แหะ)การที่ทานอาหารแล้วเป็นมะเร็งนั้น เกิดจากการทานอาหารที่มีสารก่อมะเร็งเป็นเวลานาน และในปริมาณที่มากพอ บวกกับร่างกายของเราด้วย ที่น้าตุ๊กว่าทานส้มตำปูนั้น ถ้าปูที่ดองสะอาด ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ส่วนอาหารปิ้ง ย่าง เนี่ย ถ้าไม่มีรอยไหม้ และทานไม่บ่อย ก็ไม่เป็นไรอีกแหละครับ ดังนั้น (พูดโดยทั่งไป) เราควรทานอาหารให้หลากหลาย และวิธีการปรุงที่แตกต่างกันไป เพื่อจะได้ไม่เกิดสารก่อมะเร็งในร่างกายเร็.เกินไป และควรทำร่างกายให้แข็งแรงเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันโรคภัยต่างๆ ด้วยครับ สวัสดีครับ
ขอบคุณ คุณหมูอ้วนที่แวะมาอ่าน ขอให้สุขภาพดี มีความสุขนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ ผอ.ประจักษ์ ที่แวะมาให้กำลังใจอยู่เสมอ ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงค่ะ