สุดท้ายต้องมาเป็นครู ตอน 2 ต่อจากที่แล้ว


หนีอะไรหนีได้ แต่หนีพรหมลิขิตไม่ได้

มาติดตามกันต่อนะค่ะ อย่าเพิ่งเบื่อ เรื่องเล่าจากใจจริงค่ะ 

    ....อยู่มาวันหนึ่ง...นั่งทำงานกันอยู่หลายๆๆคน..มีลุงคนหนึ่งเป็นสามีของพี่เขาที่ทำงานด้วยกันมารับพี่เขาหลานๆ ทุกวันตอนเย็น...ประมาณว่าช่วยหลานๆๆ ทำการบ้านระหว่างรอคุณลุงมารับ ก็เลยเป็นเรื่องที่คุยกัน...คุยกันไปคุยกันมา..ลุงแกก็ถามว่า "ลูก ลูก จบอะไรกันมาหรือ" ก็ตอบลุงแกไปว่า..จบ..มา.. ลุงก็ชี้แนะว่าทำไมหนูไม่ลองไปสอบครูดูบ้างหรือ น่าจะไปสอนเด็กนะ แทนที่จะมานั่ง ลงรหัส แกะแม็ก ไปวันๆๆหนึ่ง ความรู้ที่จบมาไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเลย แบบประมาณว่าแต่ละคนจบมาจากหลายๆๆสาขา..มานั่งทำงานก็ไม่ตรงจากที่เรียนมาประมาณนี้...

   ....ก็มานั่งคิดว่า..เออ..ที่ลุงแกพูดก็จริงนะ..ทำไมเราไม่ไปเป็นครูอย่างน้อยๆๆ ความรู้ที่เรียนมาจะได้ถ่ายทอดให้เด็กๆๆ ได้ และก็ได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นด้วย ...

   ....และแล้วเวลานั้นก็มาถึง เมื่อสัญญาจ้างหมดลง ว่างงานประมาณ 1 เดือนกว่าๆ มีเพื่อนเรียนวิชาชีพครูรู้จักกับพี่ที่โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชลาดกระบัง มาบอกว่า สนใจจะสอนคอมพิวเตอร์ไหมตอนนี้ที่โรงเรียนขาดครูสอนคอมพิวเตอร์หนึ่งคน ถ้าสนใจพี่เขาจะเอาใบสมัครมาให้ ...เอาละเป็นไงเป็นกันเป็นครูก็เป็นครู ก็เลยตัดสินใจมาสมัครครูสอนคอมพิวเตอร์ ถือว่าโชคดีมากที่เขาต้องการครูด่วนก็เลยไม่มีคู่แข่ง...

.....ประสบการณ์วันแรกที่มาสัมภาษณ์ ตอนนั้นมาสมัครประมาณกลางเดือนธันวาคม 2550 ด้วยความที่เขาต้องการครูด่วน เขาบอกว่าให้มาสอนเลยในวันที่ 2 มกราคม 2551 ตอนแรกไม่ค่อยมั่นใจให้สอนเลยเหรอ ก่อนมาสมัครเพื่อนบอกว่าให้มาสอนเปิดเทอม คือประมาณว่า ตื่นเต้น เรายังไม่พร้อม ยังสองจิตสองใจอยู่เลย กลัวว่าทำไม่ได้ โชคดีที่ว่าได้รองฝ่ายวิชาการ เป็นรองอิสลามด้วยใส่ผ้าคลุมเหมือนกัน พี่เขาให้กำลังใจว่า สู้ๆๆซิเราต้องทำได้ ไม่มีใครเป็นมาตั้งแต่เกิด พี่เขาก็เลยให้ทดลองสอนเลย ..จำได้ว่าตอนนั้นที่ทดลองสอนประมาณ 10 นาที เอาเด็กมานั่งเรียนด้วยประมาณ 5 คน แล้วให้พี่เขาที่เป็นครูสอนคอม มานิเทศ รองก็ถามพี่ที่นิเทศว่า โอเคไหม สอนเป็นไง พี่เขาก็ตอบว่า โอเคพอจะสอนได้อยู่ ก็พอมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง ...

...........ก็เลยตัดสินใจมาเป็นครู ตั้งแต่นาทีนั้น....

...........วันแรกที่เริ่มทำงาน.. วันที่ 2 มกราคม 2551 .....เป็นต้นมา.............

เชื่อไหมค่ะว่า หนีอะไรก็หนีได้แต่หนีพรหมลิขิตที่พระเจ้าลิขิตมาไม่ได้

" สุดท้ายก็เลือกที่จะเป็นครู "

ติดตามต่อนะคะว่าเส้นทางการเป็นครูสวยหรูแค่ไหน

คำสำคัญ (Tags): #การทำงาน#ครู
หมายเลขบันทึก: 215283เขียนเมื่อ 9 ตุลาคม 2008 18:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

เป็นครูดีแล้วน้อง ชีวิตเรียบง่าย สบายเมื่อตอน ผมงอก

  • ทำมาแล้วหลายหน้าที่
  • แต่ที่ดีและประทับใจคือการเป็นครูค่ะ

สวัสดีค่ะคุณครู

อิ อิ

ด้วยสลามค่ะ

ครู มาจากคำว่า ครุ (คะ-รุ) แปลว่า ผู้หนัก

หมายถึง เป็นผู้หนักแน่นในการสั่งสอน หนักแน่นในการมีจรรยาบรรณ จงภูมิใจเถอะครับ...... อาชีพครู..... เป็นอาชีพที่ประเสริฐสุดครับ

เป็นกำลังใจให้

ขอให้เป็นครูที่น่ารักของศิษย์นะครับ

 

ขอบคุณกำลังใจ จาก คุณ suchet_chookong ค่ะ

- สวัสดีค่ะ

- มาให้กำลังใจคุณครูค่ะ

ขอบคุณค่ะ

คุณ tiya

ที่เป็นกำลังใจให้

สวัสดีค่ะ

* เชื่อค่ะ...หนีอะไรก็หนีได้แต่หนีพรหมลิขิตไม่ได้

* เหมือนกันเลย...อยากเรียนพยาบาล...แต่ต้องเรียนครู....พ่อแม่ไม่มีสตังค์.....แป่ว

* สุดท้ายคิดไม่ผิด...เป็นครูสุขสดชื่นมากกว่าวิชาชีพอื่นๆ

* ดีใจค่ะที่มีครูเพิ่ม

* ขออภัยนะคะ .....แปลกใจว่า...อิสลามมีพระพรหมด้วยหรือ.....เห็นว่าพรหมลิขิต...อิอิ

แวะมาทักทายค่ะ

มีความสุขในการทำงาน

มีแต่สิ่งดีๆนะคะ

 

 

ขอบคุณมากค่ะ คุณสายธาร

มีความสุขเช่นกันค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท