บันทึก กลับจากสนามรบ 7 ตุลาคม 2551
นี่แผ่นดินไทยหรือสนามรบกันแน่
รัฐบาลสั่งตำรวจเปิดศึกสงครามกับประชาชนมือเปล่าหน้ารัฐสภา
การชุมนุม แสดงพลังต่อรัฐบาลโจร ทายาทอสูร ผิดด้วยหรือ?
กี่ครั้งกี่หนแล้ว ที่สิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงออก ถูกสกัดด้วยปลายกระบอกปืน และอาวุธสงคราม!!
วันนี้เรารอดมาได้ ...ขณะที่หลายคน บาดเจ็บ และตาย
เรา ผ่านช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ความไม่แน่นอน ท่ามกลางเสียงระเบิดตูมตามๆติดต่อกันจนนับครั้งไม่ถ้วน นั่นคือเสียงอะไร แก๊สน้ำตาปราบปรามประชาชน? นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินกับหูของตัวเอง เสียงอะไรกัน สลับกับ เสียงรถพยาบาล เสียงรถมอร์เตอร์ไซด์รับส่งคนบาดเจ็บแล่นผ่านไปกลับอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงสะอื้นเงียบๆ พร้อมกับปาดคราบน้ำตาบนใบหน้าของผู้ร่วมอุดมการณ์หลายคนที่เสียน้ำตาให้กับผู้บาดเจ็บกองหน้า
หลายคนกลัว แต่ก็ยังหาญกล้า เผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าจะดำเนินอย่างไรต่อไปท่ามกลางความสับสนวุ่นวายแต่ ทุกคนมีใจเดียวกัน คึกคัก แสดงพลัง สลับกับสงบนิ่ง
นอกกำแพงรัฐสภาที่นี่กลายเป็น “สนามรบ” ที่นักรบทุกเพศทุกวัยพร้อมใจกันดาหน้าเข้ามาหมุนเวียนสับเปลี่ยน ผลัดกันเป็นกองหน้า กองหนุน กองหลัง หลายคนลำเลียงเสบียงข้าวปลาอาหารน้ำดื่ม มากมายเป็นภูเขาเลากา จนรู้สึกว่า เขาเอามาให้เราทั้งที่ไม่รู้จักกันไม่ใช่ญาติพี่น้อง ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานน้ำจิตน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ผ้าเช็ดหน้า แว่นตา ผ้าปิดจมูก ถูกแจกจ่ายให้กับนักรบมือเปล่า ทุกคนรับไว้พร้อมกับเตรียมพร้อม รับสถานการณ์
ทั้งวัน เสียงดังตูมตามไล่หลังใกล้เข้า ทั้งด้านหน้าด้านหลัง เสียงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เวลานั้นไม่มีใครหนี ไม่มีใครถอย มีเสียงบอกต่อๆกันว่าให้หยุดเดินก่อน พร้อมช่วยกันราดน้ำลงบนผ้าเช็ดหน้าและพื้นถนนจนเปียกชุ่ม บางส่วนคล้องแขนเป็นกำแพงขนานถนนเพื่อให้รถพยาบาลแล่นผ่านโดยสะดวก
ทุกครั้งที่มีผู้อาสา เดินไปด่านหน้าหน้า เราส่งใจขอให้เขารอดปลอดภัยเช่นเดียวกับเมื่อเขา ได้รับบาดเจ็บกลับมา เราส่งใจขอให้เขารอด ปลอดภัย
สติเป็นสิ่งสำคัญ ยามเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน นาที ต่อนาที ไม่รู้จะมีอะไรเกิดขึ้น จับกลุ่มพูดคุยวิเคราะห์กันไปต่างๆนาๆ สรุปใจความได้ว่า ทนไม่ไหวแล้ว โว้ย !!! เมื่อไหร่รัฐบาลนี้จะออกไปเสียที!! เรื่องร้าย ๆ และเรื่องรุนแรง ผ่านไปอีกครั้ง และอีกครั้ง เชื่อว่า หลายคนเหนื่อย อ่อนล้า แต่ทว่าพลังใจยังมี
หลายคนรู้ว่า ขณะอยู่ในสนามรบ เราต้องขจัดความกลัวออกไปให้หมดสิ้น เพราะ อุปสรรคของความกลัว ก็คือความกลัว วันนี้และก่อนหน้านั้นหลายคน ได้สลัดทิ้งความกลัวไปหมดแล้ว ทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็เป็นกัน!!! ลองดูกันสักตั้ง เพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไม่มีอะไรที่เราทำให้ไม่ได้
***ขอร้อยมาลัยด้วยตัวอักษร คารวะแด่คนไทย ผู้บาดเจ็บ ล้มตาย ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ขอคารวะด้วยหัวใจ***....ที่คับแค้นและรวดร้าว...
เขาเตรียมความพร้อมกันครับ อย่าคิดมาก... :-)
... ไทยนี้รักสงบ แต่เรารบไม่ขาด...
ไม่ได้ร้องผิดนะครับ ตั้งใจอย่างนี้แหละ เพราะทุกวันนี้ไม่มีศึก เราก็สร้างสถานการณ์ขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมครับ เพราะชายแดนยังครุกรุ่น
แต่ว่าครานี้เตรียมพร้อมกันจริงจังไปหน่อยเล่นเอาถึงเลือดถึงเนื้อ
สถานการณ์เช่นนี้ต้อง Win-Win เท่านั้นครับ ทางอื่นไม่มีแน่นอน แต่จะ Win แบบไหนต้องยึดประเทศชาติไว้ก่อนนะครับ