ตอน วิชาสืบทอด ต่อยอดพัฒนา


วิชาสืบทอด ต่อยอดพัฒนา

           วันนี้ขอบอกเล่าเรื่องราวให้ชาวประชาได้รับทราบ  ที่ซึ่งผมได้ตั้งหัวข้อแบบนั้น สืบเนื่องมาจาก การถ่ายทอด เคล็ดวิชา (พูดเหมือนหนังจีนเลย) ให้กับลูกศิษย์ ซึ่งเป็นศาสตร์วิชาที่ผมห่างหายไปนาน พูดตรงๆ ไม่ได้ใช้มันมาตั้ง 3 ปีแล้ว คือ ภาษา ASP  นั่นเอง  ก่อนอื่นขอนำสู่ที่มาของภาษา ASP  กันก่อนน่ะเลยครับ เพราะบางที ท่านผู้อ่านทั้งหลายอาจไม่รู้ที่มาของมัน เรื่องมันก็มีอยู่ว่า

           กาลครั้งหนึ่ง เมื่อคอมพิวเตอร์ถือกำเหนิดขึ้น ก็มีภาษาที่ใช้สื่อสารกับเครื่องคอมพิวเตอร์มากมาย หลากหลายแตกต่างกันไป แต่มีอยู่ประเทศหนึ่งชื่อ ประเทศ Microsoft (จริงๆ ไม่มีประเทศนี้อยู่หรอกครับ) ได้คิดค้นภาษาได้ภาษาหนึ่ง ภาษา ASP และ ASP.NET ย่อมาจาก Active Server Page เป็นโปรแกรมประเภท Server-Side Script (โปรแกรมที่ทำงานบนเครื่อง Server) ที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย สร้างโดย บริษัท ไมโครซอฟท์ จำกัด บนระบบปฏิบัติการ ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ ซึ่งใช้ร่วมกับโปรแกรม Internet Infomation Service หรือ IIS โดยเว็บเพจที่ใช้ ASP หรือ ASP.NET เขียน จะระบุเป็นตระกูลไฟล์ที่ลงท้ายด้วย .asp และ .aspx ซึ่งภาษา ASP ยังสามารถใช้เขียนโปรแกรมเพื่อควบคุมฐานข้อมูลต่างๆ ผ่าน ODBC, ADO, DAO JET และอื่นๆ อีกมากมาย บริษัท ไมโครซอฟท์ ได้ริเริ่ม ASP ในช่วงเดือน ธันวาคม ปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ.1997) โดยเป็นโปรแกรมที่มากับ Internet Information Server (IIS) 3.0 ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เป็นที่นิยมในเทคโนโลยีนี้ ซึ่ง IIS ได้เริ่มต้นเมื่อ พ.ศ.2541 (ค.ศ.1998) ทำให้ ASP ถูกมองว่า เป็นโปรแกรมที่ล่าช้ากว่าโปรแกรมตัวอื่นในโปรแกรมประเภทเดียวกัน แต่อีก 1 ปีต่อมา ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2541 (ค.ศ. 1998) ไมโครซอฟท์ ได้เปิดตัว ASP 2.0 ให้เป็นส่วนหนึ่งของ Option Pack ใน Windows NT4 และ อีก 2 ปีต่อมา IIS 3.0 ได้เปิดตัวเป็นส่วนหนึ่งของ Windows 2000 ด้วย ASP.NET 1.0 ถูกริเริ่มโดย ไมโครซอฟท์ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2545 (ค.ศ. 2002) ซึ่งตัว ASP.NET มีโครงสร้างการเขียน, ประสิทธิภาพ และความสามารถ ที่ค่อนข้างแตกต่าง และ มากกว่า ASP แต่อย่างไรก็ตาม ASP.NET เป็นเพียงแค่ รุ่นพัฒนา (Upgrade) จาก ASP เท่านั้น โดย ASP.NET มีการเพิ่มเติม ให้รองรับกับเทคโนโลยี Microsoft's .Net (ดอทเน็ต) ซึ่งสนับสนุนเทคโนยีใหม่อีก 2 ตัว คือ XML และ SOAP

 

           เข้าเรื่องกันเลยน่ะครับ เริ่มแรกก็ว่ากันถึงงานสารบรรณในโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๑ ทุกวันนี้มันยุ่งยากว่นวาย ทั้งนี้ก็เป็นเหตุมาจาก ปริมาณเอกสารที่เป็นกระดาษ ทำให้ยากต่อการจัดเก็บดูแลรักษา อีกทั้งภาระงานของเจ้าหน้าที่งานสารบรรณนั้น ไม่ได้เป็นเพียงผู้ที่ทำหน้าที่ด้านเอกสารอย่างเดียว แต่ต้องทำหน้าที่สอนอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ รองฯ จันทร์อุไร  นิ๋มเป๋า  จึงได้พูดคุยกับผมว่าเราจะมีวิธีการอย่างไรที่จะช่วยลดภาระงานตรงส่วนนี้ได้บ้าง ก็ได้ทดลองจัดทำระบบขึ้นมา คือ ระบบเครือข่ายภายใน  (Localarea Network Connection : LAN) หรือ ที่พวกเราคุ้นหูก็ คือ ระบบแลน นั่นเอง ก็คือการแชร์ไฟล์ธรรมดาผ่านเครือข่ายเรานี่แหละครับ ก็ได้ทดลองใช้มาประมาณ 2 สัปดาห์ ปรากฏว่า เกิดปัญหาครับ แบบว่าถ้ามีการใช้งาน Internet กันมากๆ  จะไม่สามารถเข้าถึง ตัวข้อมูลได้ ก็ประมาณว่าการจราจรติดขัดนั่นแหละครับ ก็เลยมาพูดคุยกันว่าเราจะแก้ปัญหาตรงจุดนี้อย่างไร เพื่อให้การทำงานเป็นไปโดยราบรื่น ก็มาได้ข้อสรุปว่าหากเราเปลี่ยนเป็นเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ Upload คือการนำข้อมูลขึ้นไปวางบนเครื่องแม่ข่าย (Server) แล้วให้ผู้ใช้งาน Download  ข้อมูล จากหน้าเว็บเพจ ผลปรากฏว่าดีขึ้นครับ  ไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น และยังสามารถเปิดดูได้จากที่บ้านอีกด้วย ได้ทดลองใช้ระบบนี้มานถึง 3 เดือน ก็ได้มองเห็นข้อบกพร่องบางอย่างจากระบบ  เมื่อเราเทียบเคียงกับการปฏิบัติจริง เมื่อ ครูในโรงเรียนรับทราบคำสั่งจะต้องลงชื่อรับทราบ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย แต่ในตัวระบบนี้ ไม่มีที่ให้ลงชื่อรับทราบคำสั่ง  มีเพียงให้ Download เอกสารเพียงอย่างเดียว  จึงได้คิดพัฒนาแล้วก็ปรึกษากับผู้เกี่ยวข้อง คราวนี้ถึงวิชาที่ห่างหายไปนาน คือ ASP.NET นั่นเอง ก็มานั่งฟื้นฟูพลังประมาณ 3 คืน ก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง รองฯ จันทร์อุไร ก็การว่าให้เร่งเรียบดำเนินการจัดทำระบบให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เราก็รับปากเขาไปแล้ว ก็พยามเร่งมืออย่างที่สุด แต่พอทำไปเกิดปัญหาติดขัดหลายประการ อาจเป็นเพราะเนื่องจากห่างหายไปนานมาก ก็แก้ปัญหามาเรื่อยๆ จนในที่สุดเหมือนว่าเรากำลังจะทำได้ไม่ทันตามเวลาที่กำหนด  ทำไงทีนี้ ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าเรามีลูกศิษย์อยู่นี่ ก็สอนมันซิแล้วมาช่วยกัน บางท่านอาจคิดว่าสอนเขียนโปรแกรมเนี่ยน่ะ สอนแค่ช่วงเวลาสั้นๆ จะเขียนได้เหรอ คือ ต้องบอกน่ะครับว่าพวกนี้มีพื้นฐานการเขียนโปรแกรมมาแล้ว เช่น PHP JAVA TURBO C++ ก็สอนไม่ยากแค่บอกหลักการ 
          ผมกับนักเรียน เราได้ร่วมกันแก้ปัญหามาจนถึงขั้นเสร็จสมบูรณ์แบบเท่าที่เราคิดได้ตอนนี้ ได้ลองผิด ลองถูกกันมาหลายวิธีการ เกิดเทคนิคใหม่ที่ผมเองก็ยังไม่รู้ว่ามันทำแบบนี้ได้ด้วย นี่ก็คือที่มาของการถ่ายทอดวิชา สู่การพัฒนา ต่อยอดครับ

         ถึงตอนนี้ ต้องขอขอบพระคุณท่านผู้อำนวยการลั่นทม  พุ่มจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๑ ที่มีวิสัยทัศน์ที่ดีด้านเทคโนโลยีที่ให้การสนับสนุน  รองฯ จันทร์อุไร  นิ๋มเป๋า รองผู้อำนวยการฝ่ายอำนวยการและบุคคล  ทีมงานสารบรรณของโรงเรียน คุณครูเบญจมาภรณ์ แสนละเอียด  คุณครูบุญทริกา  แดงดี  ที่สามารถบริหารจัดการเอกสารได้อย่างเป็นระบบ มีระเบียบ รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และ ปลอดภัย

        ผลที่เกิดจากการคิดค้นระบบนี้ คือ

1.     ลดภาระงานของเจ้าหน้างานสารบรรณ ให้ทำงานน้อยลง

2.     ประหยัดงบประมาณในเรื่องของการลงทุนซื้อกระดาษได้มากขึ้น

3.     ประหยัดเวลาในการเดินส่งเอกสาร เพราะไม่ต้องเดินส่งเอกสารตามอาคารต่าง ๆ

4.     ไม่จำเป็นต้องอยู่ในโรงเรียนก็สามารถเปิดดูได้

5.     เมื่อมีการทำงานร่วมกับนักเรียนทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ กับการทำงานจริง การแก้ปัญหาจริง ทำให้เขาเกิดทักษะ กระบวนการคิด ตรงนี้ ของบอกว่าภูมิใจมากเลยครับ

 

วันนี้แค่นี้ก่อน  เพราะเหลืองานที่ต้องจัดการ คือ การเก็บข้อมูลการจราจรทางด้านคอมพิวเตอร์ให้เรียบร้อย ครับ  ไม่งั้นเดี๋ยวมีความผิด

หมายเลขบันทึก: 214356เขียนเมื่อ 6 ตุลาคม 2008 13:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม 2012 15:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • ข้อ๑-๔ก็ประโยชน์เหลือล้น
  • พออ่านข้อ๕นี่ละสิ่งสุดยอดที่ครูทำได้
  • ภูมิใจแทนด้วยค่ะ
  • นี่เป็นการประยุกต์ใช้เครื่องมือด้านคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง
  • มีประโยชน์และคุ้มค่ามาก ครับ ยิ่งได้คนเป็น คนเก่งจริงๆ มาทำงานด้วย ปัญหาก็ลดน้อยลงจนแทบจะไม่มี
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท