ปัญหาในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาล คือเรื่องอาการไม่สุขสบายต่างๆ ซึ่งผู้ป่วยเหล่านั้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทีมสุขภาพจะทำให้เขาหายจากอาการเหล่านั้นได้ จากการได้พูดคุยกับผู้ป่ายพบว่าเขาไม่ต้องการให้เรามาดูแลพูดคุยกับเขามาก เขาอยากแค่ให้จัดการกับอาการไม่สุขสบายของเขา เช่นกินไม่ได้ เหนื่อยเพลีย ไม่มีแรง หอบหายใจไม่สะดวก แน่นท้องอยากเจาะท้อง เป็นต้น
เพียงเท่านั้นเมื่อสุขสบายขึ้นก็ขอกลับบ้าน หรือบางรายก็อยากอยู่โรงพยาบาลไปเรื่อยๆ
บางครั้งอาการเหล่านั้นไม่ได้จัดการหรือจัดการแล้วไม่ดีขึ้น จะส่งผลให้ผู้ป่วยรู้ไม่ดีและจะหงุดหงิดทันที
เราจะทำอย่างไรดี
ในทางกลับกัน ทางด้านญาติผู้ป่วยกลับต้องการให้เราไปผูดคุยกับผู้ป่วยเพราะเขาไม่รู้จะพูดอย่างไร
เรื่องการให้กำลังใจต่างๆ แนะนำก็ยังรู้สึกขัดเขินที่จะทำ
การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในกลุ่มที่ยังพอช่วยเหลือตนเองได้บ้าง เข้าๆ ออกๆโรงพยาบาลเป็นประจำ(ใกล้ตายแต่ไม่ใช่พวกกลุมกำลังจะตาย)เราควรดูแลอย่างไรดีคะ คารเน้นเรืองอะไร
นอนดึกนะคะ
มาให้ลังใจคะ ดูแลด้วยหัวใจคะคิดว่าคนไข้คือญาติของเราเองคะ จะมีตวามสุข
หนูขึ้นเวรดึกค่ะ
แล้วกลุ๋มที่กำลังจะตายอาการเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเราควรทำอย่างไรคะ
คุณ peang ครับ
ที่ รพ พระปกเกล้า มีการร่วมกลุ่มศึกษาในประเด็น การดูแลผู้ป่วยใกล้ตาย Death and Dying Issue รวมถึงการให้คำปรึกษา และการดูแลด้านจิตสังคมแก่ผุ้ป่วยและญาติ
คงดีถ้ามีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน และจัดสัมนาวิชาการร่วมกัน
ขอบคุณมากๆค่ะหนูรู้สึกไม่โดดเดียวแล้ว
หนูมีเรื่องเล่าเยอะแยะเลยค่ะหนูได้มีโอกาสดูแลคนไข้หลายรายแล้ว
มีประสบการณ์ที่อยากแลกเปลี่ยนมากมายคะ
วันนี้หนูจะเล่าเรื่องที่หนูประทับใจมากก่อน
วันนั้นเวรเช้าค่ะหนูขึ้นเวรปกติ มีผู้ป่วยระยะสุดท้ายรายหนึ่งเขาหอบมาก กระสับกระส่าย
(เขาป่วยเป็น PCPค่ะ)หนูอยู่กับเขาพาเขาหายใจอย่างมีสติ หนูบอกเขาว่าไม่ต้องคิดเรื่องใดๆมีสติอยู่กับปัจจุบันนี้อยู่กับการหายใจนี้อยู่กับพยาบาล เราช่วยกันหายใจ ต่อมาผู้ป่วยสงบดีขึ้น sat ดีขึ้น หลับได้ ต่อมาช่วงบ่ายพยาบาลอีกคนไป Round iv ถามผู้ป่วยว่าต้องการอะไร เขาตอบว่าเขาอยากได้คุณหมอคุณครูคนที่มาสอนหายใจ หนูรู้สึกภูมิใจมาก จากนั้นเวรด฿กคนไข้หอบอีกมารดาบอกว่าไม่เอาหมอคนไหน จะขอเจอคุณหมอคูณครู หนูขึ้นมาเวรเช้าพอดีเขาดีใจมากหนูก็พาเขาหายใจ ปล่อยว่าง ต่อมาเวลา
9.30น ผู้ป่วยก็เสียชีวิตค่ะ