ฮักเมืองน่านเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มพระสงฆ์กลุ่มชาวบ้านและกลุ่มเยาวชนที่เป็นองค์กรพัฒนาเอกชน ซึ่งแต่ละกลุ่มมีพัฒนาการกลุ่มของตนในด้านต่าง ๆ ก่อนที่จะมารวมตัวกันเป็นกลุ่มฮักเมืองน่านในปัจจุบันซึ่งสามารถจำแนกพัฒนาการของกลุ่มออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้
1. ระยะเริ่มต้นก่อตัว ( ก่อนปี 2533 ) โดยกลุ่มแต่ละกลุ่มได้มีการดำเนินงานของตนเองอย่างอิสระในการพัฒนากลุ่มและชุมชนซึ่งพอแยกตามแกนนำ ได้ดังนี้ กลุ่มพระสงฆ์ กลุ่มองค์กรชาวบ้าน กลุ่มลูกหลานชาวบ้าน
2 .ระยะที่สอง (ระหว่างปี 2533 – 2534 ) หลังจากที่กลุ่มต่าง ๆ ทั้งกลุ่มพระสงฆ์ กลุ่มชาวบ้าน กลุ่มลูกหลานชาวบ้านได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนการเรียนรู้และร่วมกิจกรรมกันในบางโอกาส จึงเกิดการรวมตัวกันเฉพาะกิจขึ้น เพื่อจัดการบวชป่าชุมชน ขึ้นเป็นครั้งแรกของจังหวัดน่านที่บ้านกิ่วม่วง ตำบลพงษ์ อำเภอสันติสุข ในปี 2533 หลังจากนั้นพิธีกรรมบวชป่าเป็นที่สนใจของคนทั่วไป ทั้งในท้องถิ่นและนอกท้องถิ่นมีการติดต่อประสานงานด้านแนวคิดและมีการสนับสนุนเงินทุนต่าง ๆ เข้ามายังกลุ่มมากมาย กลุ่มจึงเห็นพร้องต้องกันว่าน่าจะมีการตั้งองค์กรขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่างอย่างจริงจัง จึงได้ก่อตั้งเป็นองค์กรชื่อว่า “กลุ่มฮักเมืองน่าน” ขึ้นมาโดยมีศูนย์ประสานงานอยู่ที่วัดอรัญญาวาส อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ถือว่าเป็นระยะแห่งการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ร่วมกันระหว่างกลุ่มองค์กรต่าง ๆ
3.ระยะที่ 3 (ระหว่างปี 2535 – 2536 )
ทางกลุ่มฮักเมืองน่านได้ดำเนินโครงการสืบชะตาแม่น้ำน่านน่าน ณ บริเวณริมแม่น้ำน่าน หน้าค่ายสุริยพงษ์ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน เพื่อเป็นการเผยแพร่กิจกรรมและส่งเสริมให้ประชาชนมาสนใจร่วมกันอนุรักษ์ธรรมชาติ ทั้งนี้ ได้มีการร่วมมือจากลุ่มต่าง ๆ ทั้งพระสงฆ์ ชาวบ้าน รัฐ เอกชน ผลจากโครงการสืบชะตาแม่น้ำน่าน ดังกล่าวได้เกิดองค์กรที่ช่วยในการดูแลแม่น้ำ และรักษาพันธุ์สัตว์น้ำมากขึ้น รวมทั้งกลุ่ม อนุรักษ์ป่าไม้ และสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ อีกมากมาย เกิดเครือข่ายกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ในกลุ่มฮักเมืองน่านอีกหลายเครือข่าย จนได้ตั้งสำนักงานชั่วคราวของกลุ่มฮักเมืองน่านขึ้นโดยเช่าอาคารสำนักงานมีหน้าที่ประสานงานและเลขานุการของกลุ่มปฏิบัติงานประจำ และรับผิดชอบในการดำเนินงานด้านบริหารจัดการต่าง ๆ ร่วมทั้งมีการจัดโครงสร้างขององค์กรให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
4. ระยะที่ 4 (ปี 2536 – 2538 ) ระยะนี้ถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญอย่างยิ่งอีกจุดหนึ่งของกลุ่มฮักเมืองน่านหลังจากที่มีสำนักงานและมีโครงสร้างองค์กรที่ชัดเจนขึ้นแล้วได้มีการระดมทุนจากหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศมาสนับสนุนและบริหารจัดการงานของกลุ่มฮักเมืองน่าน และยังให้การช่วยเหลือด้านงบประมาณแก่กลุ่มเครือข่ายต่าง ๆ ในการดำเนินงานเช่น ด้านการอนุรักษ์ป่า การอนุรักษ์พันธุ์ปลา การเกษตรผสมผสาน การออมทรัพย์ การรวมกลุ่มของเยาวชน เพื่อส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งได้มีการจัดเวทีแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ร่วมกันจน
เกิดกิจกรรมสู่ชุมชนมากขึ้น เริ่มมีผู้มาศึกษาดูงานกลุ่มมากขึ้นจนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ ถือเป็นการเรียนรู้ข้ามองค์กร
วัตถุประสงค์ของมูลนิธิ
1. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนคนเมืองน่านโดไม่แบ่งแยกเผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ ศาสนา
2. เพื่อส่งเสริมให้มีการดำรงรักษาสิ่งแวดล้อม
3. เพื่อส่งเสริมกระบวบการเรียนรู้ นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น
4. ดำเนินการเพื่อสาธารณะประโยชน์ หรือมีส่วนร่วมกับองค์กรการอื่นๆ เพื่อสาธารณะประโยชน์
5. ไม่ดำเนินการเกี่ยวกับการเมืองแต่ประการใด
เป้าหมายของมูลนิธิฮักเมืองน่าน
1. เพื่ออนุรักษ์ป่าและเพิ่มปริมาณป่า
2. ฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำและที่พักอาศัยของพืชพรรณ และสัตว์ป่า
3. อนุรักษ์และปรับปรุงสภาพของดินให้คงสภาพสมบูรณ์ตามธรรมชาติ
4. ลดค่าใช้จ่ายของเกษตรกรและมีรายได้จากกิจกรรมอื่นๆนอกภาคเกษตรด้วย
5. เสริมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มเป้าหมาย
6. การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามเหมาะสม
7. ลดการเคลื่อนย้ายแรงงานจากชนบทสู่เมืองหลวง
8. เพิ่มบทบาทของกลุ่มสตรี เด็ก และเยาวชน
แผนงานหลัก
1. แผนงานด้านการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรชีวภาพ และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
2. แผนงานพัฒนาด้านการเกษตร
3. แผนงานด้านการพัฒนาอาชีพและธุรกิจชุมชน
4. แผนงานด้านการป้องกันโรคเอดส์และยาเสพติด
5. แผนงานด้านศิลปะวัฒนธรรม
6. แผนงานด้านการเผยแผ่ศาสนาและจริยธรรม
7. แผนงานด้านเยาวชน
8. แผนงานด้านการออมทรัพย์
9. แผนงานด้านสื่อและการรณรงค์
นี่คือแนวคิดของฮักเมืองน่านที่พยายามถ่ายทอดออกไป และพยายามทำมาจนถึงทุกวัน
เป็นสิ่งที่ดีมากๆครับกับงานอนุรักษ์ธรรมชาติ.