อาจารย์เสนอแนวทางคือผู้วิจัยประสานกับเจ้าหน้าที่ เพื่อแจ้งกับผู้ป่วยว่า ต้องการให้ผู้วิจัยเข้าพบเพื่อชี้แจงหรือศึกษาข้อมูลหรือไม่ ถ้าต้องการ อาจเปลี่ยนวิธีการเยี่ยมจากการเยี่ยมบ้านมาเป็นพบที่สถานีอนามัยแทน การได้มาของกลุ่มตัวอย่าง เราเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาด้วยตัวของเขาเอง หรือมาจากการหว่านล้อม ตกลงด้วยความเกรงใจ ที่เห็นเป็นคุณหมอ คุณพยาบาล เป็นครู เป็นหัวหน้า เป็นไปได้หรือไม่ว่า ควรออกประกาศรับสมัคร ให้เดินเข้ามา (เหมาะสำหรับ อาสาสมัครที่มีสุขภาพดี แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยละ เขาจะมีโอกาสอ่านประกาศหรือไม่ ถ้าเราไม่ directed sell) กลุ่มตัวอย่างที่มี power imbalance เช่น ผู้วิจัยเป็นครู ผู้ร่วมโครงการเป็นนักเรียน นักศึกษา วิจัยเป็นหัวหน้า ผู้เข้าร่วมเป็นลูกน้องในสังกัด ข้อมูลที่ได้ อาจไม่เป็นจริงก็ได้ นอกจากนี้ ยังได้แง่คิดจากกฎหมายว่า ใน พ.ร.บ. สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 มาตรา 9 ถ้าเราต้องให้ผู้รับบริการเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองในการวิจัย ต้องแจ้งให้ผู้รับบริการทราบล่วงหน้าและต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้รับบริการก่อน จึงสามารถดำเนินการได้ โดยความยินยอมดังกล่าวผู้รับบริการ จะเพิกถอนเมื่อใดก็ได้ ประเด็นคือ แถวบ้านเรา ชาวบ้านจะไม่อยากลงชื่อยินยอม เหตุผลคือ โอ้ย อ่านหนังสือกะบ่ค่อยออก ตากะเบิ่งไม่ค่อยเห็น เซ็นบ่เป็นดอก คุณหมอสิถามหยัง สิเฮ้ดหยังกะเอาโลด ลุงเอานำเหมิดละ สินัดมามื้อใด๋กะได้ อย่าให้เซ็นเถาะ มันบ่ซำบายใจ เอาจังซี้ซะ เป็นพยานกันให้เหมิดกลุ่มนี้ละ ว่ายินดีให้คุณหมอมาเฮ็ดวิจัยได้ทุกคน ประสบการณ์ตรงคือ ลูกชายพาแม่เดินมาบอกฉันว่า ตะกี้ ที่แม่เซ็นไป คิดแล้วเพิ่นบ่ค่อยสบายใจ ย้านเป็นลาง ว่าเซ็นก่อนตาย ขอใบคืนได้บ่ แต่ยินดีให้มาถามได้ตลอดเวลา แล้วจะทำอย่างไรดี อาจารย์บอกว่า ในต่างประเทศเข้าค่อนข้างเข้มงวดกับการลงชื่อยินยอมมาก ในการขอทุน เขาจะดูอย่างละเอียดว่า คุณได้กลุ่มตัวอย่างมาอย่างไร มีการชี้แจง ยินยอมหรือไม่
เฮ้อ เราเลยไม่กล้าขอทุนจากต่างประเทศเลย (อิ อิ โม้มากไปปล่าว ขนาดทุนในประเทศยังไม่มีปัญญาเขียนขอเลย แงๆๆๆๆๆๆๆๆ) จริยธรรมการวิจัย ....... อย่างไรจึงไม่ละเมิด
เราพิทักษ์ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของกลุ่มตัวอย่างมากน้อยเพียงใด
เมื่อวันที่ 29- 30 กันยายน มีโอกาสเข้าร่วมอบรม จริยธรรมการวิจัยเพื่อปกป้องอาสาสมัครในโครงการวิจัย ที่ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นจัดขึ้น วิทยากรมาจากหลากหลายสถาบัน
อาจารย์พูดให้คิดหลายอย่างว่า ที่ผ่านมา เราได้พิทักษ์ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของกลุ่มตัวอย่างมากน้อยเพียงใด เริ่มตั้งแต่
ขอแสงความเห็นเป็นอันดับแรก ว่า
อย่ามือไว เขียนแล้วต้องทบทวนให้ดี
ผิด ตกหล่นที่ไหนบ้าง
ต้องการเน้นส่วนใด อย่าพึ่งกดบันทึก
เฮ้อ บันทึกนี้เลยไม่ค่อยน่าดู
เฮ้ นึกขึ้นได้ว่า มันมีช่องการแก้ไขบันทึกด้วยนี่ (หว่า)
วัยรุ่นใจร้อนอีกแล้วเรา
สวัสดีค่ะคุณกระติก
วันนี้ครูคิมนั่งรอเด็ก ๆ มาแจ้งคะแนนผลการประเมินค่ะ
และมีบางกลุ่มมาแล้ว เพราะสาระของครูคิมสุดท้ายค่ะ
พวกเขาขอดูบล็อค ถือโอกาสให้พวกเขาเรียนรู้ไปด้วยค่ะ
ได้อ่านภาษาอิสาน ทำให้นึกย้อนอดีตว่าเคยมาอาศัยแผ่นดินนี้อยู่ระยะหนึ่งค่ะ
ขอขอบคุณและขอให้มีความสุขกับการทำงานนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณ กระติก
น้องกระติก
คุณครูขา
ยังไง เทคโนโลยี ก็ยังเป็นปัญหาสำหรับกระติกอยู่ดีละค่ะ เด็กที่ทำงาน ชอบหยอกอยู่เรื่อยว่า ป้า ไปถึงไหนแล้ว แต่จะพยายามค่ะ
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่น
อย่าลืม update ข้อมูล ชุมชนคน natadee นะค่ะ จะรอชม
ขอบคุณนะค่ะ สำหรับข้อมูล IC ที่พี่ไก่นำมาแบ่งปัน
เห็นรายการอาหารแล้วน้ำลายไหล น้ำย่อยเริ่มออกมา กระเพาะอาหารเริ่มทำงาน
เอาอีก ๆๆๆๆ