ให้ได้ผล มีดังนี้
2.1 การจัดเนื้อหาและประสบการณ์เข้าในบทเรียน ควรเน้นให้นักเรียนได้รับการพัฒนาความรู้ เจตคติ และการปฏิบัติที่เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน ดังนี้
ก. นักเรียนชั้นประถมศึกษา ควรเน้นการปฏิบัติเป็นอันดับที่หนึ่ง เจตคติเป็นอันดับที่สอง และความรู้เป็นอันดับที่สาม เพราะเป็นวัยที่ยังมีความรู้สึก ความเข้าใจ ทางรูปธรรมสูง เริ่มสร้างเจตคติทางคุณธรรม และเริ่มรู้จักเหตุผล ในการที่แสดงหรือกระทำอะไรเป็นพฤติกรรมออกมา
ข. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ควรเน้นเจตคติเป็นอันดับที่หนึ่ง ความรู้เป็นสำคัญที่สอง และการปฏิบัติเป็นลำดับที่สาม เพราะเป็นวัยแห่งการยอมรับอุดมคติด้านจริยธรรมได้เป็นอย่างดี และมีความต้องการที่จะพัฒนาเกี่ยวกับจริยธรรมเพิ่มมากขึ้น มีแนวคิดที่ดีและมีระดับ
วุฒิภาวะมากขึ้น
ค. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ควรเน้นทางความรู้เป็นเรื่องสำคัญที่หนึ่ง ทางด้านเจตคติเป็นลำดับที่สอง และทางปฏิบัติเป็นลำดับที่สาม เพราะวัยนี้เป็นวัยรุ่น มีความสามารถในทางภาษา และวิชาการต่าง ๆ ดีกว่าในชั้นต้น ๆ ที่ผ่านมาและมีความสนใจเป็นพิเศษในการจะศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ตลอดจนพร้อมที่จะรับรู้แนวความคิดต่าง ๆ มาหลอมเป็นหลักคุณธรรมและจริยธรรมประจำตน โดยเฉพาะความรู้ที่มีลักษณะเป็นวิทยาศาสตร์ เป็นเหตุเป็นผลมีความจำเป็นสำหรับวัยนี้มาก
2.2 เนื้อหาของหัวข้อจริยธรรมควรสอนให้ครอบคลุมเนื้อหาสำหรับชั้น หรือระดับการศึกษานั้น ๆ ทั้งหมด และจัดให้เหมาะสมกับความสามารถ ความรู้ความสนใจของนักเรียน ที่สามารถเลือกเอาไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน และต้องสอนให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคมด้วย
2.3 การสอนจริยธรรมสำหรับชั้นหนึ่ง ๆ ควรแยกชั่วโมงเป็นวิชาโดยเฉพาะ หรือ ถ้ามีความจำเป็น ถ้าจัดไม่ได้ ก็ควรให้สอดแทรกอยู่กับวิชาอื่นก็ได้ และควรให้ต่อเนื่องกันกับความรู้เดิมของนักเรียน
2.4 ผลการเรียนการสอน ควรวัดออกมาหลาย ๆ ด้าน เช่น เจตคติของจริยนิสัย ความรู้ ความเข้าใจ และการปฏิบัติของจริยธรรม