ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
เรื่อง เพศศึกษา
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย ชาญชัย อ่อนหวาน
โรงเรียน โรงเรียนชัยปัญญาวิทยานุสรณ์ อำเภอคำชะอี
จังหวัดมุกดาหาร
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามุกดาหาร
ปีที่พิมพ์ 2550
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายของการวิจัยเพื่อ
(1) สร้างและพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง
เพศศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2)
เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง
เพศศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ก่อนเรียนและหลังเรียน (3)
หาค่าดัชนีประสิทธิผลของหนังสืออ่านเพิ่มเติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง
เพศศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
(4)
ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง
เพศศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
และ (5)
ประเมินหนังสืออ่านเพิ่มเติมกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ
พลศึกษา เรื่อง เพศศึกษา
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
โดยผู้เชี่ยวชาญ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1
โรงเรียนชัยปัญญาวิทยานุสรณ์ อำเภอคำชะอี
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามุกดาหาร ภาคเรียนที่
1 ปีการศึกษา 2550 จำนวน 34 คน
ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีจับสลาก
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่
หนังสืออ่านเพิ่มเติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง
เพศศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
จำนวน 7 เล่ม ได้แก่ เรื่องเพศพัฒนา
เรื่องเพื่อนรัก เรื่องอนามัยวัยรุ่น
เรื่องความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง
เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์
เรื่องกายจิตมิตรคู่กัน และเรื่องเพชฌฆาตความเครียด
แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติม จำนวน
7 แผน แบบประเมินผลหนังสืออ่านเพิ่มเติม
โดยผู้เชี่ยวชาญ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
แบบทดสอบท้ายเรื่อง
และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติม
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลครั้งนี้ ได้แก่ ร้อยละ
ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบ
t-test (Dependent)
ผลการวิจัยปรากฏผลดังนี้
1.
ผลการหาประสิทธิภาพของหนังสืออ่านเพิ่มเติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง
เพศศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าพัฒนาขึ้น มีค่าเท่ากับ
84.75/83.01 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80
ที่กำหนดไว้
2.
ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง
เพศศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ก่อนเรียนและหลังเรียน
แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
โดยคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3.
ผลการหาค่าดัชนีประสิทธิผลของหนังสืออ่านเพิ่มเติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้
สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง เพศศึกษา
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าพัฒนาขึ้น มีค่าเท่ากับ 0.7416
แสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นจากก่อนเรียน
ร้อยละ 74.16
4.
ผลการวัดความความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง
เพศศึกษา สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด
5. ผลการประเมินหนังสืออ่านเพิ่มเติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
เรื่อง เพศศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
2 โดยผู้เชี่ยวชาญ
โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
เมื่อพิจารณาเป็นรายเล่ม พบว่า
มีความเหมาะสมอยู่ในระดับ
มากที่สุดทุกเล่ม
มารับข่าวสารเรื่องงานวิจัยค่ะ
สนใจงานรวิจัยของอาจารย์มาก กำลังทำงานเรื่องเดียวกับอาจารย์
สนใจงานของอาจารย์ จึงเข้ามาอ่านดู ดีมากค่ะ ขอบคุณมากค่ะ