คุณเป็นแบบนี้หรือไม่ ถ้าคุณเป็นถือว่าคุณเป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ ถ้าหากไม่มีควรเหลียวหลังมองตัวเองแล้วปฏิบัติซะ ง่ายนิดเดียวนะครับแค่ 6 ประการเท่านั้น คุณก็จะเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา
ประการที่ 1 หัดสนใจคนอื่นบ้าง
ถ้าอยากเป็นที่รักใคร่ของผู้อื่น ก็ต้องรู้จักแสดงความสนใจในตัวบุคคลอื่นด้วย อาจจะโดยการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ หรือส่งการ์ดอวยพร การ์ดยินดี หรือในเทศกาลต่าง ๆ แสดงไมตรีจิต เล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ลงทุนอะไรมาก
ประการที่ 2 ยิ้มแย้มแจ่มในอยู่เสมอ
บุคคลที่จะเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็นมากที่สุดถือผู้ที่มีใบหน้ายิ้มแย้ม แจ่มในอยู่เสมอเมื่อเราพบปะกับบุคคลเช่นนี้ เราจะรู้สึกว่าเกิดความรักความเคารพนับถือขึ้นมาทันทีแม้เราจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็ตาม แต่การยิ้มต้องมาจากการยิ้มอย่างเต็มอกเต็มใจ มิใช่แสร้งยิ้มเพื่อผลประโยชน์
ประการที่ 3 จำชื่อคนให้แม่น
คนเรามักสนใจและพึงพอใจในชื่อเสียงของตัวเองมากกว่าชื่อใด ๆ ดังนั้นหากเราจำชื่อใครได้อย่างแม่นยำเขาจะเกิดความภูมิใจและคิดว่าเราระลึกถึงความสำคัญของเขาอยู่เสมอ เขาจะเกิดความพอใจ และจำเราได้ตลอดไปเช่นกัน
ประการที่ 4 พูดในเรื่องที่ผู้ฟังสนใจ
เราควรจะต้องรู้ว่าคู่สนทนาของเราสนใจเรื่องอะไรและต้องพยายามแสวงหาข้อมูลจากที่ต่าง ๆ แต่ไม่จำเป็นต้องไปรู้ทุกเรื่อง แค่เพียงกล่าวนำและคอยรับฟังก็พอแล้ว
ประการที่ 5 ฝึกเป็นผู้ฟังที่ดี
บุคคลที่เราสนทนาด้วยนั้นต้องสนใจในตัวเขาต้องรู้จักเป็นผู้ฟังที่ดี สนใจในเรื่องที่เขากำลังพูด ไม่พูดแทรกขึ้นมาในขณะที่เขายังพูดไม่จบ พยายามจูงใจสนทนาในเรื่องที่เขาสบายใจและควรสนับสนุนหรือชมเชยเป็นครั้งคราว
ประการที่ 6 รู้จักยกย่องบุคคลอื่น
นักจิตวิทยาหลายท่านกล่าวไว้ว่า ความปรารถนาอันแรงกล้าอย่างหนึ่งของมนุษย์ คือความปรารถนาที่จะได้รับคำสรรเสริญยกย่องอย่างจริงใจ คนเราต้องการได้รับคำยกย่องจากผู้ที่เราติดต่อด้วย ต้องการให้ผู้อื่นรู้ว่าเรามีความสำคัญและต้องการให้เพื่อนเราชมเชยเราอย่างเต็มใจ ดังนั้นเมื่อเราปรารถนาจะให้เป็นที่ขอบพอของผู้อื่น เราก็ต้องปฏิบัติต่อผู้อื่นเช่นเดียวกัน แต่ไม่ใช่ว่าจะยกย่องเกินจริงแบบปราศจากความจริงใจ
…. หากขาดมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีแล้วบรรยากาศในการอยู่ร่วมกัน หรือทำงานร่วมกันก็จะมีภาวะที่กดดันมากกว่า ......
คุณเคยคิดสร้างมนุษย์สัมพันธ์แบบไทย ๆ กันมั๊ย
1. ทักทายด้วยรอยยิ้ม คุณว่าจริงมั๊ย แค่มองหน้าแล้วยิ้มให้กันความรู้สึกดีเป็นมิตรจะพลันเกิดขึ้น ณ วินาทีนั้น แล้วสิ่งดี ๆ ที่เป็นมิตรก็จะตามมา
2. ยกมือไหว้ สังคมไทยการคารวะนบนอบยังคงอยู่ ท่านจะได้รับความเอ็นดูเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กลับมา
2 เคล็ดลับนี้ ไม่ต้องลงทุนเพียงแค่เสียพลังงานไปไม่กี่แคลลอรี่ ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งได้แนะนำให้ปฏิบัติ ลองปฏิบัติมา 20 ปี ได้ผลดีจริง ๆ ลองทำดูแล้วท่านจะเป็นคนที่มีเสน่ห์ติดตัว
ภายใต้คติที่ว่า “ยิ้มง่าย ไหว้สวย”
“ยิ้มง่าย ไหว้สวย”
ง่าย ๆ แค่นี้เองเนอะ
ประเพณีไทยช่วยกันรักษาไว้
ทำยากทุกข้อเลยนะค่ะ แต่ยังไงจะพยายามทำให้ได้นะค่ะ
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ทำให้คนมีจิตใจที่สุขุมเยือกเย็นลง
เมื่อได้เห็นรอยยิ้ม และการไหว้
แต่ปัจจุบันมักไม่ค่อยเห็นรอยยิ้ม และการไหว้จากคนรอบข้าง
เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปของวัฒนธรรม การเมือง เศรฐกิจ และรวมทั้ง
ตัวชี้วัดในการทำงานมากขึ้น จึงต้องอาศัยธรรมะเข้ามาจรรโลงจิตใจด้วย
วิธีการเจริญสติภาวนาทุกวันๆ เพื่อสร้างฐานความสุข แล้วรอยยิ้ม และการไหว้
ก็จะเกิดขึ้นง่ายๆ และคงอยู่กับคนไทยตลอดไป