ปฏิบิตการสะกัดความร้านฉาว กับแง่มุมงามๆในที่ชุมนุมเวทีมัฆวาน

น้อยคนที่จะได้สัมผัส

ในคืนวันที่ 27 มี.ค.2549 เวลา 1.30 น. ในขณะที่ผู้ชุมนุมหลายคนกำลังนอนหลับ บางท่านกำลังจับกลุ่มสนทนากันตามมุมต่างๆ

 

และแล้วนายบอนก็เหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งกำลังวิ่งจากมุมเวทีสะพานมัฆวาน ไปทางสี่แยกมิสกวัน จาก 1 คน ก็มีอีก 2 คนวิ่งตามกันมา หลายคนรู้สึกถึงความผิดปกติ ลุกขึ้นมาดู และอีกหลายคนก็วิ่งตามกันไป

มีใครคนหนึ่งตะโกนถามว่า เกิดอะไรขึ้น มีเสียงตอบมาว่า "ม๊อบบุก"

เท่านั้นเอง หลายคนลุกขึ้นมา วิ่งตามกันเป็นพรวน หรือว่า ม็อบจากจตุจัตรจะยกทัพมาที่นี่ หรือกลุ่มก่อกวนอื่นๆ แต่เวลานัน้ ทุกคนพร้อม ถือไม้ ถือด้ามธงชาติวิ่งตามกันไปเป็นพรวน

ไปหยุดยืนมุมกันที่เต้นท์หนึ่ง นายบอนตามไปถึงได้รู้ว่า เค้าจับใครคนหนึ่งได้ และกำลังสอบสวนกันอย่างเคร่งเครียด

ใครคนนั้น เป็นหนุ่ม ท่าทางไม่ค่อยจะสมประกอบ ค้นกระเป๋ากางเกง พบยาเสพติดเต็มกระเป๋ส ในเป้ที่ติดตัวมาด้วย มี VCD ของพรรคไทยรักไทย และเอกสารของทางฝ่ายนั้นติดมาปึกใหญ่

หลายคนเข้ามามุงจนการ์ด "พญาชิงชัย" ต้องขอร้อง เกรงจะขาดอากาศหายใจ" และย้ำว่า ถ้าใครทำร้ายนายคนนี้ จะถือว่า เป็นบุคคลที่สาม ร่วมสร้างสถานการณ์ให้เลวร้ายยิ่งกว่านี้

"ยึดหลัก สงบ สันติ อหิงสานะครับ"

ระหว่างการสอบสวน กล้องทีวี และกล้องดิจิตอลอีกนับ 20 กล้อง ระดมเก็บภาพนายคนนี้อย่างถี่ยิบ

เท่าที่สอบถาม จับใจความได้ว่า นายคนนี้ทำลงไปเพราะอยากได้เงิน แต่หลังจากสอบถามไปเรื่อยๆ ก็ให้การวกวนไม่รู้เรื่อง ทีมงานรักษาความปลอดภัยตั้งข้อสังเกตว่า เคยเห็นนายคนนี้ กับพรรคพวกอีกหลายคน ขณะนั้นอาจจะมีพรรคพวกของนายคนนี้มาก่อกวนด้วย แต่คงจะหลบหนีไปแล้วฃ

จากหลักฐานที่พบ VCD และเอกสารที่นายคนนี้ขนมา สามารถสร้างความแตกแยกในกลุ่มผู้ชุมนุมได้ เพียงแต่หยิบเอกสาร และ vcd แอบวางในซุ้มบางซุ้ม รุ่งเช้า เมื่อใครมาพบก็จะต่อว่า ทะเลาะโต้เถียงหาว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามแผงตัวมา และเกิดความแตกแยกในที่สุด

เหตุการณ์เริ่มจาก นายคนนี้ เดินเข้ามาในที่ชุมนุม เข้ามาขอเงิน คนที่ตื่นอยู่ก็เอาเงินให้ พอสอบถามที่มาที่ไป นายคนนี้ก็ให้การวกวนจนน่าสงสัย จนนำมาสู่การค้นตัว จนพบหลักฐานเพื่อการก่อกวนดังกล่าว

กลุ่มผู้ชุมนุมที่วิ่งตามมาเกาะติดสถานการณ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพี่น้องชาวใต้ กลับมีสติสัมปชัญญะที่ดีเยี่ยม แม้ไม่พอใจ แต่สามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรงได้

แตกต่างจากที่เคยได้ยินมาว่า คนใต้ เป็นคนที่ชอบความรุนแรง

อีกส่วนหนึ่ง เมื่อเกิดเหตุขึ้น หลายคนวิ่งตามกันมาเป็นขบวน เพราะความเป็นห่วงเป็นใยกัน คอยดูแลช่วยเหลือกันไป ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์อะไรขึ้น ก็พร้อมจะช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่

หลังจากทีมรักษาความปลอดภัยสอบสวนและเก็บหลักฐาน บันทึกภาพไว้อย่างละเอียด และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยมาควบคุมตัวไปแล้ว ทีมผู้ชุมนุมได้ตามบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานทุกระยะ หากถูกใส่ร้าย เช่น อาจจะมีใครเอานายคนนี้ ไปทำร้ายให้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตและโยนความผิดมาให้กลุ่มผู้ชุมนุมก็จะกล่าวร้ายเช่นนั้นไม่ได้ เพราะได้บันทึกภาพ เสียงไว้ตลอดเวลา

แหม หลงเข้ามาในดงของสื่อแบบนี้ จะบิดเบือนอย่างไรก็ไม่ได้แล้วล่ะครับ

หลังจากที่ตำรวจควบคุมตัวนายคนนั้นไปแล้ว หลายคนก็จับกลุ่มวิพากวิจารณ์กันไป ช่วงหนึ่ง ทีมงานยกอาหารร้อนๆ มาร้องเชิญชวน ใครหิวก็เชิญลุกขึ้นมาตักทานรองท้องได้เลยนะครับ

ช่วงเช้าๆ ก็จะมีกาแฟร้อนๆแจก แต่จะต้องเข้าแถวรอรับกาแฟ เป็นแถวยาวเหยียด เพื่อนชาวใต้คนหนึ่งไปเข้าแถว ได้กาแฟมา 2 แก้ว เดินกลับมาที่ซุ้มของเขา แต่ไม่พบเพื่อนที่มาด้วยกัน เขาเลยยกกาแฟแก้วนั้นให้ผมที่นั่งอยู่บริเวณนั้นซะเลย

ไปเข้าแถวรับกาแฟตั้งนาน แล้วยังมีน้ำใจยกกาแฟแก้วนั้นให้นายบอน

น้ำใจงดงามเล็กๆน้อยๆ แบบนี้ น้อยคนคงจะไม่มีโอกาสสัมผัสมากนัก

สิ่งเหล่านี้ง คงเป็นข้อมูลที่อีกหลายคน คงจะไม่มีโอกาสได้รับรู้อย่างแน่นอน และคงไม่มีใครคิดจะไปนอนกลางถนนกับกลุ่มผู้ชุมนุมเช่นนี้แน่ๆ

 

สถานการณ์การเมืองที่มีความเห็นแตกต่างกันในเวลานี้ เพราะแต่ละฝ่าย ได้รับรู้ข้อมูลไม่เท่ากัน บางฝ่ายนำเสนอข้อมูลบางด้านเท่านั้น ทำให้ที่ชุมนุม ณ เวทีมีฆวาน จึงมุ่งนำเสนอข้อมูลให้เต็มที่ เพื่อจะได้รับรู้ข้อมูลที่มากเพียงพอเพื่อการตัดสินใจด้านข้อมูลที่หลากหลายมุมมากยิ่งขึ้น