เหตุการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทำให้ผมย้อนนึกไปถึงเรื่องราวที่เคยเขียนไว้เมื่อปี 2536 "เมืองคนดี" ซึ่งดัดแปลงจากเรื่อง "จิ่งฮั่วเอี๋ยน" วรรณกรรมยอดเยี่ยมของ หลี่หยู่เจิน...
หลี่หยู่เจินพบกับความเลวร้ายในสังคมจีน การคอรัปชั่นในวงราชการ การฉ้อราษฎร์บังหลวงในทุกระดับชั้น จึงได้เขียนเรื่องนี้ขึ้น เพื่อล้อเลียนอย่างเมามันส์ในอารมณ์... เล่นเอาผู้อ่านในประเทศจีน หัวเราะก็ไม่ได้ ร้องไห้ก็ไม่ออก...น้ำหูน้ำตาใหลเป็นทางกันทีเดียว...
ในเมืองคนดีนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารบ้านเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการ นักธุรกิจเอกชน พ่อค้า ประชาชน ล้วนเป็นคนดีมีคุณธรรม ทุกคนล้วนเห็นว่าคุณธรรมน้ำใจอันสูงส่งเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด คนที่นี่จึงยินยอมเสียเปรียบกันทุกอย่าง...
ทุกคนที่นี่จึงพูดจาไพเราะ อ่อนน้อมยอมให้กัน ยอมเสียเปรียบทุกอย่าง หากท่านเดินไปตามถนนหนทางจะเห็นชาวนาถกเถียงกัน ต่างจะยกที่นาให้อีกฝ่ายหนึ่ง หรือจะยกข้าวให้ผูอื่น และทุกคนจะหลีกทางให้ท่านเดินสวนทางไปก่อน ด้วยการค้อมตัวนอบน้อมทีเดียว...
เมื่อท่านเดินไปถึงตลาด จะเห็นผู้คนซื้อขายของกัน...
คุณเหน่..."กางเกงตัวนี้เนื้อดี ตัดทรงทันสมัย งานเรียบร้อยดีอย่างนี้ คุณจะขายโดยเรียกราคาต่ำเหลือเกิน กระผมจะซื้อไปอย่างสบายใจได้อย่างไรเล่าครับ"
แม่ค้า..."เป็นพระคุณอย่างสูงที่มาอุดหนุนร้านของดิฉัน ราคาที่ดิฉันบอกไปนั้นสูงมาก ดิฉันละอายใจอยู่ว่าหน้าด้านเกินไปที่บอกราคาแพงขนาดนั้น ท่านกลับบอกว่ากางเกงดีราคาถูก ดิฉันอดสูใจจริง ๆ ซึ่งที่จริงแล้วดิฉันตั้งราคาไว้ให้ท่านต่อรอง แต่ท่านเล่นยอมเสียเปรียบอย่างนี้ เห็นทีต้องเชิญท่านไปซื้อร้านอื่นดีกว่าค่ะ"
คุณเหน่..."คุณขายราคาถูกแบบนี้ ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงและไม่เห็นใจกระผมผู้ซื้อด้วย คนเราต้องไม่โกงกันจึงจะนับว่ามีคุณธรรม ถามหน่อยเถอะ ผมเข้ารับราชการได้ไม่ใช่ว่าเพราะผมโง่ ผมจะถูกหลอกได้อย่างไร ของมีคุณภาพแบบนี้ขายราคาถูกเกินไป ผมซื้อไปผมก็ลำบากใจอย่างยิ่ง"
คุณเหน่กับแม่ค้าถกกันอยู่นาน คุณเหน่คว้ากางเกงแล้วจ่ายเงินจำนวนมากกว่าราคาที่ตั้งไว้แล้วจะเดินหนี แม่ค้าวิ่งมาสกัดไม่ยอมให้ไป พอดีผู้เฒ่าสองคนเดินมาช่วยเจรจา จึงตกลงจ่ายเงินตามราคา แต่เลือกกางเกงที่มีตำหนิเล็กน้อยไปแทน...
พอเดินเข้าสถานพยาบาล จะพบชาวบ้านนั่งรอกันเป็นแถวเข้าตรวจรักษากันอย่างเป็นระเบียบ...
คุณหน่อย...คนไข้คนแรกหันไปพูดกับคุณหน่องคนไข้คนที่สองว่า..."ดูท่าคุณคงจะปวดมากเชิญคุณเข้าตรวจก่อนเถอะครับ"
คุณเมย์..."ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันทนได้ ปวดเล็กน้อยเท่านั้นเอง ดิฉันมาทีหลังคุณหากคุณให้ดิฉันตรวจก่อน ดิฉันจะเป็นคนไร้ความยุติธรรม เป็นการทำร้ายจิตใจดิฉันเป็นอย่างยิ่ง
คุณหน่อย..."ถ้าคุณไม่เข้าไปตรวจก่อน นั่นไม่ยุติธรรมสำหรับผมเลย ผมเป็นผู้ชายแข็งแรงกว่าและมีอาการปวดศรีษะเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากคุณไม่ตรวจก่อนผมคงไม่กล้าสบตากับใครอีกแล้ว"
ผู้ป่วยคนอื่นต้องมาช่วยกันตัดสินให้คุณหน่องที่ตั้งครรภ์แก่จนเหงื่อแตกเข้าไปตรวจก่อน หลังจากนั้นก็ตรวจคุณหน่อยจนเสร็จแล้วสั่งจ่ายยา...
คุณหน่อย..."ค่ายาเท่าไรครับ"
เภสัช..."เก้าบาทค่ะ"
คุณหน่อย..."คุณเภสัชคิดค่ายาถูกแบบนี้ได้อย่างไร ใช่ว่าผมเป็นประชาชนจะไม่รู้ว่าค่ายาเท่าไร หมอตรวจให้ผมอย่างละเอียดแล้วจ่ายยาตั้ง 3 อย่าง จะคิดค่ายาแค่ 9 บาท อย่างนี้ คุณเภสัชคิดจะให้ผมเป็นคนคดโกงหรืออย่างไร"
เภสัช..."ประทานโทษค่ะ จริง ๆ แล้วต้นทุนค่ายาแค่หกบาทเท่านั้น ยานี้ก็ซื้อด้วยเงินจากภาษีของท่านที่จ่ายให้แก่รัฐ คิดค่ายาเท่านี้ก็มีเงินเหลือปรับปรุงสถานพยาบาลแห่งนี้ ซึ่งท่านก็มาช่วยกันฟรีอยู่แล้ว ดิฉันจะรับเงินพวกท่านไว้มากได้อย่างไร"
ในที่สุดคนไข้ก็มาช่วยกันลงความเห็นว่าควรจ่ายค่ายาให้สถานพยาบาลแห่งนี้แปดบาท คุณหน่อยจึงยอมกลับไป...
เมื่อมีการเลือกตั้งคนเมืองนี้ต่างก็หาเสียงด้วยการว่ากล่าวข้อเสียของตนเองให้ผู้อื่นฟัง...
ตรงที่คนเกี่ยงกันไม่รับตำแหน่งบริหารบ้านเมือง...55555
เจริญพร
พูดถึงดี ส่งให้ ร้ายเห็น
ทำบ่เป็น ดีได้ ใครสน
เมืองคนดี เพียงให้ หลายคน
สะอื้นไห้ ใจจน บ่พ้น ความจริง
กราบ 3 หน