เราเชื่อว่าจะเป็นแนวคิดให้เพื่อนได้นะอ่ะ ***ก้าวเดิน***


เราเชื่อว่าจะเป็นแนวคิดให้เพื่อนได้นะอ่ะ ***ก้าวเดิน***
นเป็นเด็กบ้านสวน ิบโตมากับต้นไม้ใบหญ้า และความเป็นอยู่ของ เด็กในสวน

>ชีวิตในวัยเด็กจึงอยู่กับสีเขียวของ ธรรมชาติ

>อากาศสดชื่นและลมเย็นเบาๆๆที่พัดพากิ่ง ไม้>ใบหญ้าให้พลิ้วไหวไปตาม แรง

>ทุกๆๆวัน ฉันจะไปเก็บผักบุ้ง ที่ขึ้นตามโคลนในร่องสวนกับ

>พ่อ พ่อจะเก็บผักบุ้งในร่อง ส่วนฉันเองก็จะคอยเดินตามพ่อไปบนร่อง

>หรือแวะเก็บยอดอ่อนที่เลื้อยขึ้นไปด้าน บน >พอพ่อเก็บผักบุ้งพอให้แม่ที่จะทำอาหารมื้อเย็นนี้เสร็จก้อ ชวนพาฉันกลับ แต่ฉันขออยู่สักพัก และจะตามไป

>หลุมที่ปูแสมทำหลุมขุดไว้เป็นบ้านของ มัน

>ฉันที่เป็นเด็ก อยู่ในวัยกำลังชน และอยากรู้อยากเห็นไปเรื่อย

>ก็อดไม่ได้ที่จะลงไปจับปูแสมในโคลน

>พอลงไปได้นิดหนึ่งเจ้าปูแสมก็รีบใช้เท้าทั้งแปดตะเกียด ตะกายของมันเข้าไปในรู

>และนั้นก็ต้องทำให้ฉันเปลี่ยนที่ไปเรื่อยเพื่อจับปู แสม ตัวอื่นๆๆที่หลบไม่ทัน

>พอเดินเข้าไปตรงกลางของร่องสวนฉันก็เกิด ล้ม

>เข่าของฉันตอนนี้จมไปกับความเหลวของ โคลน ฉันพยายามที่จะพยุงตัวลุก ขึ้น

>แต่มันก็ไม่ได้ผล กับทำให้หัวเข่า ยิ่งจมลึกลงไปในโคลน

>มื่อฉันพยายามดึงหัวเข่าขึ้นตัวก็เริ่มจมลงไปโคลน เรื่อยๆ เมื่อความพยายามไม่ได้

>่วยอะไรฉันเรียกคนมาช่วยแต่ตอนนี้ก็เย็นมากแล้วจึงไม่มี ใครเลย

>ฉันซึ่งไม่สามารถลุกขึ้นเองได้ อีกทั้งเรียกให้คนช่วยก็ไม่มีใครเลยที่จะเข้ามา ช่วย

>ฉันเลยร้องไห้ดังๆออกมา

>เพื่อให้พ่อได้ยินและมาช่วยพยุงฉัน แต่มันก็ไม่เป็นผลเลยสักนิด

>ฉันจึงใช้เวลานั่งอยู่ กับารร้องไห้ทั้งๆๆที่ตัวยังนั่งจมอยู่ในโคลน

>และความมืดก้อเริ่มเข้ามาปกคลุมและน้ำ ในคลองก็เริ่มไหลเข้ามาในร่อง สวน

>ันพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง ดยการดึงรากผักบุ้งที่ขึ้นอยู่แถวๆๆ นั้น

>ละผ่อนแรงดึงที่ผักบุ้งเผื่อไม่ให้ผักบุ้งขาดและดึงตัว ให้ลุกขึ้นให้ได้

>วลาผ่านไปสักพักฉันก็สามารถลุกออกจากโคลนได้

และเดินมอมแมมกลับบ้านพร้อมกับโคลน ที่ไปทั่วตัว ันนั้นฉันรีบล้าง เท้าในคลองและอาบน้ำอย่างรวดเร็ว

>พราะกลัวว่าถ้าแม่มาเห็นเข้าฉันจะต้องถูก ตี และไม่กล้าบอกใคร 

>เพราะกลัวว่าแม่จะไม่ให้ไปเก็บผักบุ้งกับพ่อ อีก และวันนั้นก็กินผัดผักบุ้งไฟแดงที่แม่ทำให้กินอย่างเอร็ด อร่อย

>ฉันไม่ได้สนใจเรื่องราววันนั้นและลืมมันไปเหมือนกับเวลา ที่เดินผ่านไปไม่ย้อนกลับ

>ระทั่งฉันโตไปตามวัย ่อก็จาก ไป จากชีวิตฉัน ฉันรู้สึกเสียใจที่ สุด

>ือนกับว่า หัวใจของฉันได้หายไปเสี้ยวหนึ่งมันแตก ปวดร้าวและทรมานเหมือนว่าด้านหลังของ

>>ไม่ที่พึงพิงให้ในยามที่ฉันอ่อนล้าและไม่มีมือที่แข็งแรงที่คอยพยุงในยามที่ฉันล้ม ลง

>นความรู้สึกที่แย่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยมี มา ละแล้วเวลาก็ผ่านไป

>ฉันก็ยังเสียใจอยู่ลึกๆๆ แต่ฉันยังมีแม่ และฉันก็รำลึกถึง พ่อเสมอ

>พ่อจะคอยมองดูฉันเสมอไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ ใด

>ันนี้ฉันรู้สึกเสียใจมากๆในเรื่อง บางอย่าง ฉันจึงกลับบ้านสวน

>พื่อลบเรื่องราวเหล่านั้น ออกไปจากความคิด และปล่อยอารมณ์อยู่ กับธรรมชาติ

>ฉันเดินสำรวจบ้านที่ไม่ได้กลับมานาน

>เดินไปในที่ต่างๆ และนึกถึงสมัยเด็กๆ ที่ฉันทำ อะไร    ที่ตรงนั้นและก็ถึงห้องหนังสือที่พ่อมักจะเข้ามาอ่าน หนังสือและในบางครั้งพ่อก็จะนั่งสอนฉันทำการบ้าน และฉันก็ดึงหยิบหนังสือปึกหนาเล่มหนึ่งออก มา

>ฉันจำได้ว่าหนังสือเล่มนี้ฉันมักจะเอาดอกเฟื่องฟ้าและดอกไม้ๆๆอื่นๆๆมาทับใน หนังสือและพ่อก็จะเอาหนังสือ

>เล่มนี้มาให้ฉันฝึกอ่านให้ฟังเสมอ ในขณะที่ฉันเปิดหน้าหนังสืออ่านดูก็มีกระดาษพับที่ดู

>เก่าสีน้ำตาลอ่อนๆล่วงลงมาจากหนังสือ ฉันจึงก้มลงเก็บมันขึ้นมา และคลี่ออกมาดู

>และฉันก็รู้สึกสะเทือนใจมากเพราะนั้นเป็นลายมือบรรจงเขียนของพ่อ ที่ฉันจำได้เสมอมา

>และ>น้ำตาก็ล้นเอ่อออกมา ด้วยความคิดถึง พ่อ

> ูกรัก

>นนี้ลูกเก่งมาก พ่อรู้สึก ดีใจ ทีูกไม่นั่งจมอยู่กับโคลนที่พยายามดึง ลูก

>พ่อขอโทษที่พ่อได้ยินเสียงลูกร้องให้ ช่วย แต่พ่อไม่ไป

>เพราะพ่อกลัวว่าลูกรักของพ่อจะไม่สามารถลุกจากโคลนได้ เอง

>ลูกรัก ลูกรู้มั้ยว่า การที่เราร้องไห้และนั่งอยู่บนโคลนที่รั้งจะฉุดลูกลง นั้น

>มันไม่ได้ช่วยให้เราลุกขึ้น แต่มันจะทำให้ลูกยิ่งถลำลึกลงไปในโคลนและยิ่งยากที่จะ ลุก

>ชีวิตคนเราบางครั้งอาจจะเจอปัญหา และเรื่องราวร้ายๆ

>ไม่มีใครที่จะช่วยเราได้ เท่ากับตัวของเรา เอง พ่เข้าใจว่า>คนเราต้องมีช่วงที่ อ่อนแอ

>และความรู้สึกที่สับสน แต่อย่าใช้เวลาของ ความเสียใจและความเศร้ามากมายนัก

>เพราะมันอาจทำให้ลูกเสียเวลาของโอกาสที่กำลังมาหา เรา

>ลูกสามารถที่จะร้องไห้ได้แต่ขอเพียงอย่าใช้ตาทำงานเพียง ฝ่ายเดียว

>ให้ใช้สองแขนและขาพยุงตัวของลูกลุกขึ้นให้ ได้ และใช้สมองแก้ปัญหา

>ดินไปยังข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง>พ่อเป็นเพียงผู้ชายแก่ๆคนหนึ่งที่มีหน้าที่สอนให้ลูก เดิน

>แต่คนเดินคือตัวของลูกเอง เพราะฉะนั้น เดินหน้าไปบนเส้น ทางที่ลูกเลือก ใช้สติ

>ไม่ว่าหนทางตอนนี้ จะเป็นเช่นไร อย่าท้อที่จะก้าวเดิน

> ถ้าลูกไม่เห็นปลายทางข้างหน้าว่าเป็นเช่น ไร ความมืดมิดอาจทำให้ลูกตื่น กลัว

>แต่ยังไงเมื่อโลกหมุนรอบของตัวมันเอง ในยามรุ่งเช้า

>ระอาทิตย์ก็จะส่องแสง อเพียงลูกอย่าเดิน หันหลังกลับเข้าไปในความมืดมิดอีก

>พ่อและแม่รู้สึกดีใจที่มีลูกเกิดขึ้น มา ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า >และอย่าเสียใจในภายหลัง

หมายเลขบันทึก: 210394เขียนเมื่อ 21 กันยายน 2008 03:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • ประทับใจมากเลยเรื่องนี้
  • ขอบคุณค่ะ  กับเรื่องราวที่ดีในวันนี้  อ่านหลายเรื่องแล้วค่ะ  มีอีกไหม
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท