>ชีวิตในวัยเด็กจึงอยู่กับสีเขียวของ ธรรมชาติ
>อากาศสดชื่นและลมเย็นเบาๆๆที่พัดพากิ่ง ไม้>ใบหญ้าให้พลิ้วไหวไปตาม แรง
>ทุกๆๆวัน ฉันจะไปเก็บผักบุ้ง ที่ขึ้นตามโคลนในร่องสวนกับ
>พ่อ พ่อจะเก็บผักบุ้งในร่อง ส่วนฉันเองก็จะคอยเดินตามพ่อไปบนร่อง
>หรือแวะเก็บยอดอ่อนที่เลื้อยขึ้นไปด้าน บน >พอพ่อเก็บผักบุ้งพอให้แม่ที่จะทำอาหารมื้อเย็นนี้เสร็จก้อ ชวนพาฉันกลับ แต่ฉันขออยู่สักพัก และจะตามไป
>หลุมที่ปูแสมทำหลุมขุดไว้เป็นบ้านของ มัน
>ฉันที่เป็นเด็ก อยู่ในวัยกำลังชน และอยากรู้อยากเห็นไปเรื่อย
>ก็อดไม่ได้ที่จะลงไปจับปูแสมในโคลน
>พอลงไปได้นิดหนึ่งเจ้าปูแสมก็รีบใช้เท้าทั้งแปดตะเกียด ตะกายของมันเข้าไปในรู
>และนั้นก็ต้องทำให้ฉันเปลี่ยนที่ไปเรื่อยเพื่อจับปู แสม ตัวอื่นๆๆที่หลบไม่ทัน
>พอเดินเข้าไปตรงกลางของร่องสวนฉันก็เกิด ล้ม
>หัวเข่าของฉันตอนนี้จมไปกับความเหลวของ โคลน ฉันพยายามที่จะพยุงตัวลุก ขึ้น
>แต่มันก็ไม่ได้ผล กับทำให้หัวเข่า ยิ่งจมลึกลงไปในโคลน
>เมื่อฉันพยายามดึงหัวเข่าขึ้นตัวก็เริ่มจมลงไปโคลน เรื่อยๆ เมื่อความพยายามไม่ได้
>ช่วยอะไรฉันเรียกคนมาช่วยแต่ตอนนี้ก็เย็นมากแล้วจึงไม่มี ใครเลย
>ฉันซึ่งไม่สามารถลุกขึ้นเองได้ อีกทั้งเรียกให้คนช่วยก็ไม่มีใครเลยที่จะเข้ามา ช่วย
>ฉันเลยร้องไห้ดังๆออกมา
>เพื่อให้พ่อได้ยินและมาช่วยพยุงฉัน แต่มันก็ไม่เป็นผลเลยสักนิด
>ฉันจึงใช้เวลานั่งอยู่ กับการร้องไห้ทั้งๆๆที่ตัวยังนั่งจมอยู่ในโคลน
>และความมืดก้อเริ่มเข้ามาปกคลุมและน้ำ ในคลองก็เริ่มไหลเข้ามาในร่อง สวน
>ฉันพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง โดยการดึงรากผักบุ้งที่ขึ้นอยู่แถวๆๆ นั้น
>และผ่อนแรงดึงที่ผักบุ้งเผื่อไม่ให้ผักบุ้งขาดและดึงตัว ให้ลุกขึ้นให้ได้
>เวลาผ่านไปสักพักฉันก็สามารถลุกออกจากโคลนได้
และเดินมอมแมมกลับบ้านพร้อมกับโคลน ที่ติดไปทั่วตัว วันนั้นฉันรีบล้าง เท้าในคลองและอาบน้ำอย่างรวดเร็ว
>เพราะกลัวว่าถ้าแม่มาเห็นเข้าฉันจะต้องถูก ตี และไม่กล้าบอกใคร
>เพราะกลัวว่าแม่จะไม่ให้ไปเก็บผักบุ้งกับพ่อ อีก และวันนั้นก็กินผัดผักบุ้งไฟแดงที่แม่ทำให้กินอย่างเอร็ด อร่อย
>ฉันไม่ได้สนใจเรื่องราววันนั้นและลืมมันไปเหมือนกับเวลา ที่เดินผ่านไปไม่ย้อนกลับ
>จนกระทั่งฉันโตไปตามวัย และพ่อก็จาก ไป จากชีวิตฉัน ฉันรู้สึกเสียใจที่ สุด
>มันเหมือนกับว่า หัวใจของฉันได้หายไปเสี้ยวหนึ่งมันแตก ปวดร้าวและทรมานเหมือนว่าด้านหลังของ
>>ฉันไม่ที่พึงพิงให้ในยามที่ฉันอ่อนล้าและไม่มีมือที่แข็งแรงที่คอยพยุงในยามที่ฉันล้ม ลง
>เป็นความรู้สึกที่แย่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยมี มา และแล้วเวลาก็ผ่านไป
>ฉันก็ยังเสียใจอยู่ลึกๆๆ แต่ฉันยังมีแม่ และฉันก็รำลึกถึง พ่อเสมอ
>พ่อจะคอยมองดูฉันเสมอไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ ใด
>วันนี้ฉันรู้สึกเสียใจมากๆในเรื่อง บางอย่าง ฉันจึงกลับบ้านสวน
>เพื่อลบเรื่องราวเหล่านั้น ออกไปจากความคิด และปล่อยอารมณ์อยู่ กับธรรมชาติ
>ฉันเดินสำรวจบ้านที่ไม่ได้กลับมานาน
>เดินไปในที่ต่างๆ และนึกถึงสมัยเด็กๆ ที่ฉันทำ อะไร ณ ที่ตรงนั้นและก็ถึงห้องหนังสือที่พ่อมักจะเข้ามาอ่าน หนังสือและในบางครั้งพ่อก็จะนั่งสอนฉันทำการบ้าน และฉันก็ดึงหยิบหนังสือปึกหนาเล่มหนึ่งออก มา
>ฉันจำได้ว่าหนังสือเล่มนี้ฉันมักจะเอาดอกเฟื่องฟ้าและดอกไม้ๆๆอื่นๆๆมาทับใน หนังสือและพ่อก็จะเอาหนังสือ
>เล่มนี้มาให้ฉันฝึกอ่านให้ฟังเสมอ ในขณะที่ฉันเปิดหน้าหนังสืออ่านดูก็มีกระดาษพับที่ดู
>เก่าสีน้ำตาลอ่อนๆล่วงลงมาจากหนังสือ ฉันจึงก้มลงเก็บมันขึ้นมา และคลี่ออกมาดู
>และฉันก็รู้สึกสะเทือนใจมากเพราะนั้นเป็นลายมือบรรจงเขียนของพ่อ ที่ฉันจำได้เสมอมา
>และ>น้ำตาก็ล้นเอ่อออกมา ด้วยความคิดถึง พ่อ
>
>ถึง ลูกรัก
>วันนี้ลูกเก่งมาก พ่อรู้สึก ดีใจ ที่ลูกไม่นั่งจมอยู่กับโคลนที่พยายามดึง ลูก
>พ่อขอโทษที่พ่อได้ยินเสียงลูกร้องให้ ช่วย แต่พ่อไม่ไป
>เพราะพ่อกลัวว่าลูกรักของพ่อจะไม่สามารถลุกจากโคลนได้ เอง
>ลูกรัก ลูกรู้มั้ยว่า การที่เราร้องไห้และนั่งอยู่บนโคลนที่รั้งจะฉุดลูกลง นั้น
>มันไม่ได้ช่วยให้เราลุกขึ้น แต่มันจะทำให้ลูกยิ่งถลำลึกลงไปในโคลนและยิ่งยากที่จะ ลุก
>ชีวิตคนเราบางครั้งอาจจะเจอปัญหา และเรื่องราวร้ายๆ
>ไม่มีใครที่จะช่วยเราได้ เท่ากับตัวของเรา เอง พ่อเข้าใจว่า>คนเราต้องมีช่วงที่ อ่อนแอ
>และความรู้สึกที่สับสน แต่อย่าใช้เวลาของ ความเสียใจและความเศร้ามากมายนัก
>เพราะมันอาจทำให้ลูกเสียเวลาของโอกาสที่กำลังมาหา เรา
>ลูกสามารถที่จะร้องไห้ได้แต่ขอเพียงอย่าใช้ตาทำงานเพียง ฝ่ายเดียว
>ให้ใช้สองแขนและขาพยุงตัวของลูกลุกขึ้นให้ ได้ และใช้สมองแก้ปัญหา
>เดินไปยังข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง>พ่อเป็นเพียงผู้ชายแก่ๆคนหนึ่งที่มีหน้าที่สอนให้ลูก เดิน
>แต่คนเดินคือตัวของลูกเอง เพราะฉะนั้น เดินหน้าไปบนเส้น ทางที่ลูกเลือก ใช้สติ
>ไม่ว่าหนทางตอนนี้ จะเป็นเช่นไร อย่าท้อที่จะก้าวเดิน
> ถ้าลูกไม่เห็นปลายทางข้างหน้าว่าเป็นเช่น ไร ความมืดมิดอาจทำให้ลูกตื่น กลัว
>แต่ยังไงเมื่อโลกหมุนรอบของตัวมันเอง ในยามรุ่งเช้า
>พระอาทิตย์ก็จะส่องแสง ขอเพียงลูกอย่าเดิน หันหลังกลับเข้าไปในความมืดมิดอีก
>พ่อและแม่รู้สึกดีใจที่มีลูกเกิดขึ้น มา ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า >และอย่าเสียใจในภายหลัง