พจนาถ บุญฉ่ำ เรื่อง
ท่ามกลางสภาวะที่เหตุการณ์ทางการเมืองตึงเครียด ส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอยเป็นวงกว้าง ค่าครองชีพและข้าวของเครื่องใช้ดูจะมีราคาแพงขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัวต่างคร่ำเคร่งกับการหารายได้มาดูแลครอบครัว ขณะเดียวกันก็มุ่งหวังที่จะสร้างความสุขให้กับคนที่รัก เพื่อเติมเต็มอีกด้านหนึ่งของชีวิต แต่ด้วยความเครียดที่มีผลมาจากภาวะเศรษฐกิจและการงาน ชายกลุ่มหนึ่งอาจกำลังกังวลเรื่องน้องชายที่อาจเกิดอาการไม่เป็นใจขึ้นมาเสียดื้อ ๆ
ในเรื่องนี้ นท.ดร.นพ. สมพล เพิ่มพงศ์โกศล แพทย์ประจำหน่วยระบบปัสสาวะ ภาควิชาศัลยกรรม โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ทรรศนะเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ช่วงเวลาที่ผู้ชายเกิดความเครียดสูง จะด้วยเพราะเรื่องการงาน หรือการที่ต้องคิดกังวลตลอดเวลากับเรื่องการเมือง หรือเศรษฐกิจขึ้นๆ ลงๆ ในเวลานี้อาจจะส่งผลต่อ ความสัมพันธ์ทางเพศ เช่น ปัญหาน้องชายไม่สู้ หรือสู้ไม่ต่อเนื่อง ก่อให้เกิดเป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือโรคอี.ดี. ซึ่งโรคดังกล่าวได้ส่งผลกระทบถึงผู้ชายหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นใจและความภาคภูมิใจในตนเอง นำไปสู่โรคซึมเศร้า และเป็นสาเหตุสำคัญในการหย่าร้างในที่สุด
ชาย 43 % เป็นโรคอี.ดี.
ปัจจุบันพบโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายไทยสูงถึงร้อยละ 42.18 และจะเพิ่มมากขึ้น ตามสัดส่วนอายุ โดยพบในชายที่มีอายุระหว่าง 40-49 ปี ประมาณร้อยละ 23.39 ผู้ชายที่มีอายุ 50-59 พบว่าเป็นโรคอี.ดี. ร้อยละ 47.79 และสูงถึงร้อยละ 76.95 ในอายุระหว่าง 60-70 ปี ตามข้อมูลสถิติพบว่ามีผู้ป่วยโรคอี.ดี จำนวนร้อยละ 14.81 รู้สึกค่อนข้างไม่สะดวกที่จะที่ปรึกษาแพทย์ และจำนวนร้อยละ 13.75 รู้สึกอึดอัดกับการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ มีเพียงร้อยละ 9.7 ที่รู้สึกค่อนข้างยินดีที่จะพูดคุยกับแพทย์
ฉะนั้นการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วยโรคอี.ดี.นั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก จากประสบการณ์ของคุณหมอพบว่าในปัจจุบันคู่สมรสหรือผู้หญิงจะให้ความสนใจมากขึ้นต่อปัญหานี้ สิ่งที่จะขาดเสียไม่ได้คือ การได้รับกำลังใจจากภรรยานั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก ขณะเดียวกันผู้ป่วยโรคอี.ดีมักเริ่มต้นแก้ปัญหาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วยการออกกำลังกายถึงร้อยละ 76.55 และมีผู้ป่วยโรคอี.ดี. จำนวนร้อยละ 17.8 ที่ใช้ยารักษา ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่นิยมใช้ยาแก้โรคอี.ดี.ชนิดรับประทานคิดเป็นร้อยละ 74.54 นอกจากนี้ผู้ป่วยมักจะจูงมือภรรยามาร่วมกันปรึกษามากขึ้น ซึ่งหากมีการร่วมใจและให้กำลังใจกันทั้งสองฝ่ายก็จะทำให้ผลการรักษาโดยการใช้ยานั้นได้ผลดียิ่งขึ้น
ซึ่งภรรยาที่มีสามีกำลังประสบปัญหาโรคอี.ดี. ควรหันมาดูแลเอาใจใส่สามี ด้วยการเปิดใจรับฟังปัญหา พูดคุย ให้กำลังใจ และจูงมือไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อร่วมแรงกันแก้ไขปัญหา เพราะปัญหานี้ไม่ได้ส่งผลต่อคุณผู้ชายเพียงฝ่ายเดียว แต่จะส่งผลโดยตรงกับความสัมพันธ์และความมั่นใจของคุณผู้หญิงด้วย เมื่อร่วมมือร่วมใจเพื่อแก้ไขป้องกันอย่างมั่นเหมาะแล้ว ก็มั่นใจได้เลยว่าไม่ว่าจะเป็นปัญหาหรือวิกฤติใดๆ คุณทั้งคู่ก็จะสามารถผ่านพันไปด้วยความสัมพันธ์อันมั่นคง
คุณภาพชีวิตถดถอย
ด้านนายแพทย์กวิรัช ตันติวงษ์ ศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวแนะนำวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่ทำได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ ด้วยการสังเกตุอาการต่อไปนี้ คุณผู้ชายมีอาการหรือพฤติกรรม นกเขาไม่ขัน หรือ ขันไม่จบเพลง ติดต่อกันเกิน 2 เดือน หรือมีการเกิดซ้ำ,มีรอบเอวหนาเกิน 90 ซม. มีอาการปัสสาวะบ่อยผิดปกติ แล้วต่อมาเกิดเหตุการณ์กางเกงเปียกเป็นหย่อมๆ เนื่องจากอาการปัสสาวะขัด หรือ ปัสสาวะกระปริบกระปรอย ,มีอาการซึมเศร้า หงุดหงิดง่าย ,ขี่จักรยานทางไกล หรือขี่มอเตอร์ไซด์เป็นประจำ,สูบบุหรี่ ,ดื่มแอลกอฮอล์,ออกกำลังกายน้อย,อ่อนเพลีย,อยากดื่มน้ำตลอดเวลา,รับประทานอาหารได้แต่ผอม รวมถึงมีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง อาจเคยผ่าตัด เช่น ผ่าตัดในอุ้งเชิงกราน ผ่าตัดท่อปัสสาวะ หรือผ่าตัดไขสันหลัง และเคยได้รับการฉายแสง
หากพบว่า คุณผู้ชายมีปัญหาดังกล่าวข้างต้น ข้อ 1 ร่วมกับข้ออื่นข้อใดที่เหลือ หรือ พบอาการตั้งแต่ 3 อาการขึ้นไป แสดงว่ามีความเสี่ยงต่อโรคหย่อนสมรรถภาพค่อนข้างสูง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ หากปล่อยไว้เนิ่นนาน อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงต่าง ๆ อาทิ โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคสมองเสื่อมและโรคเบาหวาน
“บางคู่อยู่กันมาจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร อายุ 60 – 70 ปี แล้ว “นกเขา” จะขันบ้างหรือไม่ขันเลย ก็น่าจะเรื่องธรรมดาของคนแก่ เลยไม่คิดจะมาหาหมอ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย อาจมีโรคอื่นๆ ซ่อนอยู่แต่เริ่มแสดงออกให้เห็นด้วยเรื่องนี้ก่อน ควรจะมาพบแพทย์จะดีกว่า"
สำหรับวิธีการรักษาคู่รักที่มีปัญหาเกี่ยวกับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ สิ่งแรกที่ต้องทำคือไปหาหมอใกล้บ้าน เพื่อค้นหาว่าอะไรเป็นต้นตอของปัญหาของคุณผู้ชาย แล้วจึงเริ่มแก้ปัญหาไปตามลำดับ เบื้องต้นควรลดปัจจัยเสี่ยงให้น้อยที่สุด คือจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เช่น รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ ลดเกลือ ลดสุรา งดบุหรี่ หรือใช้เวลาคุยปรึกษาปัญหาชีวิตซึ่งเป็นการรักษาทางด้านจิตใจในกรณีที่ปัญหา “นกเขาไม่ขัน” โดยมีสาเหตุจากด้านจิตใจ ซึ่งแพทย์จะช่วยลดความกังวล ที่สำคัญผู้ป่วยไม่ควรเขินอายเมื่อพบหรือสังสัยว่าตนเองเป็นโรคอี.ดี
ปัจจุบันมีแนวทางการรักษาที่สะดวกและปลอดภัย ด้วยการใช้ยาในการรักษา ซึ่งมียารับประทานประเภท Vardenafil ยาตัวใหม่ในกลุ่มพีดีอีไฟท์อินฮิบิเตอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโรค อี.ดี ควรได้รับการตรวจระดับฮอร์โมนเพศชายด้วย เพราะส่งผลต่อกันและกัน หากมีภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายร่วมด้วย ก็จำเป็นจะต้องรักษาควบคู่กันไป ด้วยการรับฮอร์โมนเทสทอสเตอโรนทดแทน ซึ่งปัจจุบันมีหลายวิธีให้เลือก รวมทั้งประเภทการรักษาด้วยการฉีดซึ่งจะฉีดทุกๆ 3 เดือน จัดเป็นการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยมากเมื่อเปรียบเทียบกับการให้ฮอร์โมนเพศชายรูปแบบอื่นๆ
อย่างไรก็ตามโรค อี.ดี จะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีการค้นพบว่าโรคอี.ดี เป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงที่อันตรายต่อชีวิต อาทิ โรคหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง และโรคเบาหวาน ดังที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น การมาพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นประจำจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก โดยภรรยามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ควรเป็นผู้ที่เข้าใจเขาที่สุดและแนะนำเขามาพบแพทย์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของสามีและชีวิตคู่ที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
แม้ว่าจะยังไม่เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว สามารถป้องกัน หรือ ลดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ด้วยการบริหาร “น้องชาย” ให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา หยุดสูบบุหรี่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ลดความเครียดและวิตกกังวล พักผ่อนให้เต็มที่ ตรวจร่างกายประจำปี
“ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องบนเตียงไม่ใช่เรื่องน่าเขินอาย และไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด เพียงมีความเข้าใจและกล้าเปิดใจ และแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง ไม่ควรเก็บไปเครียดเพียงลำพัง และไม่ควรซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานมารับประทานหรือใช้เอง เพราะอาจอันตรายเกินแก้ไขได้” นายแพทย์ กวิรัช กล่าวสรุป
และเพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว ทางศูนย์ข้อมูลสมรรถภาพชายมีไฟ โดย บริษัท ไบเออร์ เชริง ฟาร์มา ผู้นำด้านเภสัชกรรม และผู้จำหน่ายเวชภัณฑ์เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ให้คำแนะนำแก่ชายที่ไม่อยากประสบปัญหาล่มปากอ่าวว่าควรจะวางแผนและมีการเตรียมรับมือกับปัญหาล่วงหน้า โดยการรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อที่จะขจัดความเครียดของทั้งสองฝ่าย เพื่อให้ครอบครัวยังคงสมบูรณ์ในทุกด้าน
บรรยายใต้ภาพ
นท.ดร.นพ. สมพล เพิ่มพงศ์โกศล
|