แผ่นดินที่ล้อมด้วยทะเล: ภาพสะท้อนสถานการณ์ปัจจุบัน


คนที่ต่างจากเรา

นี่เป็นเนื้อหาที่แปลจากหนังสือสำหรับเด็ก เล่มที่ผมคิดว่าดีที่สุดเล่มหนึ่งเท่าที่เคยไ้ด้อ่านมา

จากหนังสือภาพสำหรับเด็กเรื่อง The Island ของ อาร์มิน เกรเดอร์

เดิมนั้นเข้าใจว่าคุณอาร์มิน ตั้งใจเขียนถึงผู้อพยพ ที่มาตั้งรกรากในประเทศอุตสาหกรรม อย่างเช่นออสเตรเลีย

แต่เนื้อหานั้นพัฒนาไปสู่ การวิเคราะห์ถึง "ท่าทีของมนุษย์ ต่อคนที่ต่างจากตัวเอง"

ประเด็นความแตกต่าง และการเหยียดเชื้อชาติ ศาสนา สีผิว ไม่เคยเป็นเรื่องคอขาดบาดตายในสังคมไทย

แต่ในวันนี้ ความแตกต่างของแนวคิดทางการเมืองกลับเป็นประเด็นใหญ่ที่ทำให้ผู้คนในสังคมต่างพากันทอดถอนใจด้วยความกังวล และเป็นห่วงต่อชะตากรรมของบ้านเมืองเราในอนาคต

ผมพยายามตั้งใจแปลออกมา อยากแบ่งปันให้พี่น้องให้อ่านกัน

The Island

แผ่นดินที่ล้อมด้วยทะเล

islandI

เช้าวันหนึ่ง ผู้คนบนแผ่นดินที่ล้อมด้วยทะเล พบชายคนหนึ่งบนชายหาด

เขามากับแพที่ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง

เมื่อชายผู้นั้นยืนขึ้น ผู้คนพบว่าเขาไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ที่นี่

 

islandII

ผู้คนจ้องมองเขาด้วยความงุนงง สงสัยว่าชายคนนี้มาที่นี่ทำไม ต้องการอะไร และควรจะทำอย่างไรกับเขาดี

 

มีคนเสนอว่าทางที่ดีที่สุดคือจับชายผู้นี้กลับขึ้นแพ แล้วส่งออกไปให้ไกลจากแผ่นดินนี้ทันที

"เขาคงไม่ชอบอยู่ที่นี่หรอก มันห่างชั้นจากเขามาก"

 

แต่ชาวประมงผู้เจนทะเลกล่าวว่า "ถ้าเราส่งเขาขึ้นแพ เขาคงต้องตายแน่ ฉันไม่อยากทำบาป"

"เราต้องเอาเขาขึ้นมา"

 

ในที่สุดผู้คนก็พาเขาขึ้นมา

 

ใช้กองฟางและคอกแพะเก่าให้เป็นที่นอนที่อยู่ของชายผู้นั้น คอกแพะเก่านี้อยู่ในที่ทุรกันดาร ร้างผู้คน แต่พวกเขาก็กำชับให้ชายผู้นี้เข้าใจว่าเขาต้องอยู่ที่คอกแพะ ไม่ไปไหน

IslandIII

พวกเขาลั่นดาลประตูคอกแพะ แล้วต่างคนต่างกลับไปทำงานการ และใช้ชีวิตดังเดิมตามที่เคยเป็นมา

IslandIV

กระทั่ง เช้าวันหนึ่ง ชายผู้นั้นปรากฏตัวขึ้นในหมู่บ้าน

IslandV

เกิดความแตกตื่น โกลาหล  ผู้คนฉุดกระชาก ตวาดว่า และกุมตัวเขาไว้

ชายผู้นั้นพยายามอธิบายว่า เขาหิวมากเพราะไม่ได้กินอะไรเป็นเวลาหลายวัน จะมีใครให้อาหารเขากินได้หรือไม่

 

ชาวประมงว่า "จริงของเขา เราต้องดูแล ช่วยเหลือชายผู้นี้ เพราะขณะนี้เขาอยู่ในถิ่นของเรา"

 

คำพูดของชาวประมง สร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้คน

"แต่เราไม่สามารถเลี้ยงดูทุกคนที่เข้ามาหาเราได้" เจ้าของร้านค้าพูดแย้ง "ข้าวปลาอาหารมีไม่พอสำหรับแจกจ่ายให้ทุกคน ถ้าทำอย่างนั้นเราคงจะอดตาย"

 

ชาวประมงเสนอว่าควรต้องหางานให้ชายผู้นี้ทำ เพื่อเขาจะได้มีรายได้ "และที่สำคัญ" ชาวประมงลดเสียงลง "เราสามารถกดค่าแรง จ่ายเขาน้อยๆ"

islandVI

เจ้าของโรงแรมจะรับชายผู้นี้ไปช่วยงานในครัวได้ไหม

"ถ้าเขาทำงานในครัว คงจะไม่มีใครมากินอาหารที่โรงแรมของฉัน" เจ้าของโรงแรมบ่น

"คุณเอาเขาไปช่วยงานจับปลาเถอะ"

แต่พื้นที่บนเรือมีไม่พอสำหรับจะรับคนเพิ่ม

 

ช่างไม้จำได้ว่า ชายผู้นี้มากับแพที่สร้างจากฝีมือหยาบๆ

เขาคาดว่าชายผู้นี้คงไม่รู้วิธีใช้ค้อน หรือเลื่อย

 

 

IslandVII

คนส่งของบอกว่า "ดูรูปร่างของเขาสิ อย่างนี้คงไม่สามารถช่วยฉันแบกของหนักๆ ได้"

แม้แต่บาทหลวงก็ไม่อยากจะได้เสียงอันแปลกแปร่งของเขาไว้ร้องเพลงในวงประสานเสียงของโบสถ์

islandVIII

"ถ้าอย่างนั้นพวกเราทั้งหมดคงต้องดูแลชายผู้นี้ด้วยกัน" ชาวประมงเสนอ

"เราเอาเขาขึ้นมาจากฝั่ง มันเป็นภาระและความรับผิดชอบของพวกเรา แม้ว่าชายผู้นี้จะไม่ใช่พวกของเราก็ตาม"

 

ในที่สุด เจ้าของโรงแรมตัดใจไม่โยนอาหารเหลือจากครัวให้หมูกิน แต่เอามาให้ชายผู้นี้แทน

แล้วผู้คนจับก็เขากลับไปที่คอกแพะ เสริมดาลประตู และผลัดเวรยามเฝ้าเขาเอาไว้ เพื่อไม่ให้ออกมารบกวนคนอื่นอีก

 

ผู้คนคิดว่าไม่มีใครร้องขอให้ชายผู้นั้นมาที่แผ่นดินนี้ แต่เขาก็มาถึงแล้ว และเขาได้รับความเมตตากรุณาจากผู้คนบนแผ่นดินที่ล้อมด้วยทะเลตามสมควร ผู้คนต่างตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา

islandIX

การดำรงอยู่ของชายผู้นั้น หลอกหลอนผู้คนในความฝัน เหล่าสตรีต่างเก็บตัวอยู่ในครัว บรรดาแม่ทั้งหลายเตือนลูกๆ ไม่ให้เฉียดไปใกล้คอกแพะ

 

คุณครูพร่ำสอนเด็กๆ ถึงความโหดร้าย ชั่วช้า ของพวกคนเถื่อน

 

"เขาใช้มือเปล่าๆ คว้าอาหารกิน" เจ้าของโรงแรมบอก "กินกระทั่งกระดูกด้วย!"

 

"มันจะมาจับลูกกินนะถ้าหนูไม่ซดซุปชามให้หมด" แม่ขู่ลูกของเธอ

 

"เด็กๆ กลัวเขา" คุณครูกระซิบกระซาบกับคนที่โรงแรมในค่ำคืนหนึ่ง

 

ตำรวจว่า "ฉันมั่นใจว่า ถ้ามีโอกาสมันคงจะฆ่าพวกเราทิ้ง"

 

หนังสือพิมพ์พาดหัว "ความกลัวคนต่างถิ่น ลามไปทั่วเมือง"

 

ผู้คนต่างกระวนกระวาย ความกลัวแผ่คลุมไปทั่วแผ่นดินที่ล้อมด้วยทะเล

islandX

พวกเขาว่า

"เราต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง ก่อนจะสายเกินไป!"

"แค่นี้เราก็มีปัญหามากพอแล้ว"

"เขาไม่ใช่พวกของเรา ไม่ต้องเกรงใจเขา"

"มันเป็นคนแปลกหน้า ไม่ใช่คนของที่นี่"

"มันต้องออกไป"

 

ผู้คนจึงมุ่งหน้าไปที่คอกแพะ

ฉุดกระชากชายผู้นั้น กลับไปขึ้นแพของเขา ผลักไสออกทะเล

islandXI

แล้วพวกเขาก็จุดไฟเผาเรือของชาวประมง เพราะชาวประมงเสนอให้ชายผู้นั้นขึ้นบนฝั่ง แม้ว่าชาวประมงจะมีพวกพ้องที่เห็นด้วยกับเขา แต่เสียงของคนอื่นๆ ดังกว่า

 

ผู้คนไม่ต้องการกินปลาจากทะเล ที่ได้นำคนแปลกหน้ามาสู่พวกเขา

 

ในที่สุด ผู้คนก็สร้างกำแพงใหญ่ล้อมรอบผืนแผ่นดินทั้งหมด บนกำแพงมีหอสูงไว้ใช้ตรวจตราผืนน้ำทะเล คอยสอดส่องป้องกันเรือแพ พวกเขายิงนกนางนวล และนกน้ำทั้งหลายที่บินผ่านมา เพื่อไม่ให้ใครมาพบแผ่นดินนี้อีกต่อไป

islandXII

islandXIII

หมายเลขบันทึก: 208780เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2008 11:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

Discrimination อคติ และอัตตา เป็นเรื่องที่ส่งผลรุนแรงจริงๆ นะคะ

ขอบคุณที่นำเรื่องน่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

สวัสดีครับ อ.กมลวัลย์

ผมมองว่า ประเด็นหนึ่งที่หนังสือเรื่องนี้นำเสนอ คือ

"ประชาธิปไตย" คือ อะไรกันแน่

มันคือการยอมตาม "เสียงส่วนใหญ่" เพียงเท่านั้นหรือ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท