ความลงตัว
ในความเป็นบุคคล ประสบการณ์จะเกิดจากการเรียนรู้การสะสม นานวันเข้าประสบการณ์ที่ได้รับนั้นดีหรือไม่ดี จะเป็นแฟ้มข้อมูลชีวิตของบุคคลให้บุคคลมีการพัฒนาความเป็นตัวตน ค่อยข้างชัดเจนและแสดงออกมาให้คนอื่นรู้จักตัวเรา ภาษาที่คนทั่วไปเรียกว่า นิสัย นั้นเองไม่ว่าจะเป็นนิสัย หรือการเลือกใช้คำอื่น เช่น คำว่าพฤติกรรม คงไม่ต่างกันมากนัก ภาพที่แสดงรวมๆ ออกมาคือตัวเรา ยิ่งนานวันตัวเราก็มีการพัฒนาขึ้น มีศักยภาพในความเป็นมนุษย์ได้สมบูรณ์ขึ้นเหมือนที่โบราณกล่าวว่า “คนยิ่งแก่ตัวยิ่งถ่อมตัว” “ไม้ใหญ่ยอมแผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้อื่น”
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ยากดีมีจน มีการศึกษาไม่มีการศึกษา บุคคลต้องมีความสอดคล้องในความเป็นตัวตนทางสังคม คนก็จะไม่ผิดข้องใจ ไม่อึดอัด มีการแสดงออกที่เป็นธรรมชาติของตนเอง สามารถมีศักยภาพในตัวเองที่ยังไม่เคยใช้ ออกมาใช้ได้ ไม่ยึดติดในหลายเรื่อง มีความผ่อนคลายเมื่อนั้น ความคิด ความรู้สึกดีๆ ในความเป็นบุคคลจะปรากฏมามากทีเดียว คุณอาจจะรู้สึกว่า “ตัวเราก็เก่งเหมือนกัน” “เราก็ทำได้นะ” “คุณทำได้” สิ่งใดๆ เหตุการณ์ใดๆที่เรากระทำโดย ใช้ศักยภาพทั้งภายในและภายนอกของบุคคลได้อย่างสอดคล้องกัน หลายเรื่องคุณอาจพบว่า มันมีค่าลงตัวทีเดียว
ความสอดคล้องที่ลงตัวของบุคคล อาจเสริมสร้างได้ดังนี้ คือ
ประการแรก ท่านต้องรู้จักตัวท่านให้ดีก่อน ไม่ว่าจะทำอะไรถ้าเรารู้จักตัวเรา เข้าใจตัวเราเองชัดเจนทั้งในแง่ที่ดี และในแง่ที่ต้องปรับปรุง ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใดๆ ท่านก็จะประสบความสำเร็จแน่นอน
ประการที่สอง ท่านคิดสร้างความเชื่อมั่นในตนเองให้ได้ ตั้งใจไว้ว่า เราทำได้ เรามั่นใจในตนเอง เมื่อใดสิ่งที่เรากระทำและตัดสินใจไปแล้ว นั้นคือการตัดสินใจของเรา เคารพการตัดสินใจ และเชื่อในสิ่งที่เรากระทำ ถ้าท่านมีความเชื่อมั่นในตนเองแล้วท่านทำอะไร ๆก็ง่ายหลายอย่าง ลองฝึกดู
ประการที่สาม ท่านควรหัดคิดอย่างเป็นระบบ คิดในเชิงวิทยาศาสตร์คิดหาเหตุผล ไม่พึ่งหมอดู คำทำนาย ความคิดที่เป็นระบบจะจัดกระบวนการต่างๆ ในชีวิตง่ายขึ้น
ประการที่สี่ ท่านจงนำบทเรียนชีวิตที่ผ่านมาปรับปรุง สิ่งใดดีเสริมให้เกิดมากขึ้น สิ่งใดต้องแก้ไข เราก็อย่างไปเติม ซึ่งรอยประสบการณ์เดิม ซึ่งรังแต่จะทำให้เราเจ็บป่วย หรือเสียความรู้สึกกับเหตุการณ์ที่แก้ไขไม่ได้
ประการที่ห้า การรู้จักยอมรับความจริง ยอมรับความสามารถของตนเอง ยอมรับความเป็นเราทั้งตัวตนภายในและตัวตนภายนอก ความสอดคล้องในตัวบุคคลเกิดแน่นอน
ประการที่หก รู้จักมองปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเราให้กระจ่างชัด หรือ ทำปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน แล้วแก้ปัญหาที่ละอย่าง เหมือนแก้ปมเชือก ถ้าใจร้อนการแก้ปมก็จะยิ่งยากขึ้น แต่ถ้าพินิจพิเคราะห์ให้ดี ดูให้ถี่ถ้วน จัดการกับปัญหาทีละอย่าง ด้วยตัวเราเอง และแก้ปัญหาอย่างถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ชีวิตก็ดูจะมีความหมายขึ้น
ประการที่เจ็ด มองคนอื่นที่เขาประสบความสำเร็จ มองต้วอย่างบุคคลที่เริ่มจากไม่มีอะไรแล้วสามารถไต่เต้าจนประสบความสำเร็จในชีวิตสูงสุดได้ ถ้าท่านได้ศึกษาชีวประวัติบุคคลเหล่านี้ บทที่ท่านอาจเห็นช่องทางในการนำชีวิต นำตัวตนให้เป็นไปอย่างที่ตัวตนภายในต้องการ อย่า..หนีตัวเองไรรู้ตัวตนในความคิด ในความฝัน ถ้าท่านทำเช่นนี้ก็เท่ากับว่า ความสอดคล้องในตัวตนของท่านก็ไม่ลงตัว
ท่านควรทำให้ตัวท่านเองเกิดความสอดคล้องที่ลงตัว เพื่อตัวท่านเอง เพื่อคนใกล้ชิดท่านไง ครับ ถ้าท่านทำได้ ก็เท่ากับว่าท่านจบปริญญาชีวิต 1 ใบ เป็นปริญญาที่งามที่สุดที่ใครๆ ก็มามอบให้ไม่ได้ เพราะปริญญาใบนี้จะอยู่ในหัวใจเรา ซึมซับความรู้สึกดีๆ ที่เป็นตัวเราไว้กับเราตลอดไป
ความเห็น (2)
สวัสดีคะ คนพลัดถิ่น
ขอบคุณนะคะแนวคิดที่ดี ทบทวนตนเอง นั่งมองตนเอง ตามหัวข้อทั้ง 7 ประการ ขอทำวันละข้อก่อน ครบเมื่อไหร่จะนำปริญญามาฝากคะ
สู้ๆครับ เป็นกำลังใจให้
