ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรู้ กลุ่มสาระการงานอาชีพและ
เทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
โรงเรียนชุมชนบ้านแม่จะเราบ้านทุ่ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตาก เขต 2
ชื่อผู้รายงาน รุณี ห่อทอง
ตำแหน่ง ครู คศ.2 รงเรียนชุมชนบ้านแม่จะเราบ้านทุ่ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตาก เขต 2
ปีที่จัดทำ 2550
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้มี วัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบ
การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนบ้านแม่จะเราบ้านทุ่ง ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลการใช้เอกสารประกอบ การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนบ้านแม่จะเราบ้านทุ่ง โดยการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการใช้เอกสารประกอบการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนบ้านแม่จะเราบ้านทุ่ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตาก เขต 2 ปีการศึกษา 2550 จำนวน 28 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ประกอบด้วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ก่อนเรียนและหลังเรียน เอกสารประกอบการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี(งานประดิษฐ์)จำนวน 12 เรื่อง และแบบสอบถาม
ความคิดเห็นต่อเอกสารประกอบการเรียนรู้ ผู้รายงานได้ดำเนินการสอนและเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนรู้ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ทดสอบความแตกต่างของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน
ผลการรายงาน พบว่า
1. ผลการหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้
การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ค่าเฉลี่ยของคะแนนระหว่าง การใช้เอกสารประกอบการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทั้ง 12 เรื่อง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 32.25 คิดเป็นร้อยละ 80.62 และค่าเฉลี่ยของคะแนนจากแบบทดสอบหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 8.60 คิดเป็นร้อยละ 86.00 นั่นคือเอกสารประกอบการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 80.62/86.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ผลการการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทั้ง 12 เรื่อง ปรากฏผลดังตารางนี้
2.1 ผลเปรียบเทียบค่าคะแนนของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับ
หลังเรียน ด้วยเอกสารประกอบการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) จำนวน 12 เรื่อง พบว่า ทุกเรื่องมีคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียน เมื่อทดสอบความแตกต่างด้วยการทดสอบที พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 แสดงว่าการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ทั้ง 12 เรื่องส่งผลให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
2.2 ค่าเฉลี่ยร้อยละของคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนมีค่าเท่ากับ 47.57 และ
80.62 ตามลำดับ และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.32 และ 4.24 ตามลำดับ เมื่อนำมาทดสอบความแตกต่างโดยใช้การทดสอบที (t-test) พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ 0.01 แสดงว่า นักเรียนเมื่อได้เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ที่สร้างขึ้นแล้วทำให้มีความรู้ความเข้าใจสูงขึ้น
3. ความคิดเห็นของนักเรียนมีต่อการเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) โดยภาพรวมของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนบ้านแม่จะเราบ้านทุ่ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตาก เขต 2 มีความคิดเห็นที่มีต่อการใช้เอกสารประกอบการเรียนรู้ กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เห็นด้วยในระดับมากทุกรายการ
เป็นผลงานที่เยี่ยมมาก ขอบคุณมากค่ะ
ดีค่ะเป็นกำลังใจให้
ขอบคุณอาจารย์มากครับที่ให้ความรู้เป็นแบบอย่าง ขอให้เจริญรุ่งเรืองในวิชาชีพต่อไปนะครับ ขอบพระคุณป็นอย่าสูง