โรงเรียนของผมเป็นโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ นักเรียนที่โรงเรียน เป็นวัยรุ่นที่อยู่ในช่วง ๑๓ – ๑๘ ปี ซึ่งเป็นวัยที่กำลังค้นหาจุดเด่นของตัวเอง เป็นวัยที่กำลังต้องการความสนใจจากผู้คนรอบข้าง ซึ่งในบรรดานักเรียนทั้งหลายนั้น ผมมีกรณีของนักเรียนรายหนึ่ง นักเรียนรายนี้ผมได้ทำการสอนมาตั้งแต่เรียนชั้น ม.ต้น ซึ่งนักเรียนผู้นี้มีพฤติกรรมที่แตกต่างจากนักเรียนอื่น ๆ คือนักเรียนผู้นี้จะมีความสนใจในคอมพิวเตอร์มากเป็นพิเศษ หากถึงคาบเรียนของวิชาคอมพิวเตอร์เมื่อไหร่ เด็กคนนี้จะมีแววตาที่เป็นประกายบ่งบอกถึงความสนใจเป็นอย่างมาก แรก ๆ ผมก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่พอนานเข้าผมก็เริ่มเห็นสิ่งผิดปกติกับนักเรียนผู้นี้นั่นก็คือ ในเวลาว่างนักเรียนผู้นี้จะหมกมุ่นอยู่กับคอมพิวเตอร์ทั้งวัน โดยไม่สนใจกิจกรรมอย่างอื่น การสนทนาสื่อสารกับเพื่อน ๆ รอบข้างก็ไม่ค่อยดี มีเพื่อนน้อย แถมยังใช้ความรู้ความสามารถเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไปใช้ในทางที่ไม่ดี
ผมจึงได้เริ่มจัดกิจกรรมให้กับนักเรียนผู้นี้เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยเริ่มจากการกำหนดเวลาในการใช้งานคอมพิวเตอร์ให้กับนักเรียนคนนี้ จากนั้นก็มอบงานกลุ่มเพื่อให้นักเรียนคนนี้ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ และให้นักเรียนมีโอกาสใช้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์ช่วยเหลือสังคม โดยให้นักเรียนคนนี้รับผิดชอบแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์เบื้องต้นให้กับคุณครูในโรงเรียน ทำอย่างนี้เป็นเวลากว่า ๒ ปี
จากนั้นก็ได้สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนคนนี้ พบว่า พฤติกรรมของนักเรียนคนนี้เปลี่ยนไปโดยนักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ ใช้เวลากับคอมพิวเตอร์น้อยลง ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ๆ มากขึ้น สื่อสารกับเพื่อนในกลุ่มได้ดี และใช้ความสามารถที่มีอยู่ในทางที่สร้างสรรค์ได้รับคำชมเชยจากคณะครูในโรงเรียน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะว่านักเรียนของผมเปี๋ยนไป่ เอ้ย เปลี่ยนไป
สวัสดีค่ะคุณครู
ครูวรางค์ภรณ์เคยมีความคิดว่า นักเรียนคือหนังสือเล่มใหญ่ ที่ครูเปิดอ่าน ทำแบบฝึก ไม่เคยจบเสียที มีปัญหาให้ตอบโจทย์ให้แก้ไขอยู่ตลอดเวลา ยินดีด้วยกับคุณครูที่ลูกศิษย์เปลี่ยนไป (ในทางที่ดี)
สวีสดีค่ะ
* เข้ามาดูนักเรียนเปลี๋ยนไป้
* ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ
ขอบคุณ คุณครูทุกท่านครับ
น่าชื่นชมคุณครู ที่ช่วยเด็กได้ เปลี่ยนพฤติกรรมในทางที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อเด็ก
ขอบคุณทุกความเห็นครับ
ขอบคุณครูจุฑาทิพย์ เจนธนานันท์ ครับ