บทวิเคราะห์ข่าวการศึกษา
เรื่อง ทิศทางการผลิตกำลังคนระดับสูงของสถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่ของไทย
สรุปสาระสำคัญ
จำนวนสถาบันอุดมศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลทั้งผลทางบวกและทางลบ ผลในทางลบคือ คุณภาพการศึกษาต่ำลง มีการแข่งขันเพื่อแย่งชิงนักศึกษาในพื้นที่เดียวกัน เกิดอุดมศึกษาพาณิชย์เพิ่มขึ้น คณะอนุกรรมการจัดทำแผนอุดมศึกษาระยะยาว 15 ปี (พ.ศ.2552-2565) ได้เสนอแนวทางปฏิบัติ คือ ลดและเลิกผลิตหลักสูตรที่ไม่เป็นที่ต้องการของสังคม ที่เรียกว่า “Supply side” สถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่ ได้แก่ ราชภัฏ ราชมงคล มหาวิทยาลัยนครพนม ควรปรับเปลี่ยนแนวทางการจัดการหลักสูตรจากมุมมองอุปสงค์(Demand led) เพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม ตลาดแรงงานและลดการว่างงานของบัณฑิต ควรเป็นสถาบันเชิงนวัตกรรมด้วยการปรับเส้นทางการผลิตบัณฑิตโดยการเพิ่มสาขาวิชาที่เป็นหลักสูตร Demand-Side ควรขยายการผลิตบัณฑิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสาขาวิชาแพทยศาสตร์ อาจริเริ่มโดยใช้ยุทธศาสตร์ Consortium ที่จัดเป็นกลุ่มเพื่อร่วมกันผลิต ทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับการกำหนดทิศทาง และการขับเคลื่อนของสถาบันอุดมศึกษาแต่ละแห่งด้วย รัฐบาลควรสนับสนุนทั้งงบประมาณ และทรัพยากรเนื่องจากเป็นสาขาวิชาขาดแคลน รวมทั้งจะต้องควบคุมด้านมาตรฐานการผลิตโดยเน้นคุณภาพ เน้นการผลิตบุคลากรให้มีความรอบรู้ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติในสาขาวิชาที่มีความจำเป็น และสอดคล้องกับความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ เพื่อได้กำลังคนระดับสูงที่สามารถสร้างงานที่เหมาะสมในการพัฒนาประเทศ
การวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็น
ประเด็นที่เห็นด้วย
1. การลดและเลิกการผลิตบัณฑิตในหลักสูตรที่ไม่เป็นที่ต้องการของสังคมหรือตลาดแรงงาน และปรับเปลี่ยนแนวทางการผลิตหลักสูตรเป็น Demand side
เหตุผล เนื่องจากในปัจจุบันมีหลักสูตรจำนวนมากที่เป็นหลักสูตร “Supply side” ผลิตบัณฑิตตามความต้องการของสถาบันและไม่สอดคล้องกับความต้องการของสังคม จะเห็นได้จากอัตราบัณฑิตที่ว่างงานหรือปฏิบัติงานไม่ตรงสาขาเป็นจำนวนมาก หากมีการสำรวจความต้องการของสังคมและตลาดแรงงาน และจัดการผลิตบัณฑิตให้ตรงกับความต้องการดังกล่าวเพิ่มขึ้น จะช่วยลดอัตราการว่างงานได้ และทำให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนผลิตเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันหากบัณฑิตได้ปฏิบัติงานตรงกับสาขาที่เรียนมา ย่อมพัฒนาคุณภาพงานของหน่วยงานได้เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศในอนาคตด้วย
2. การร่วมมือในการพัฒนาการจัดการศึกษาโดยใช้ยุทธศาสตร์ Consortium
เหตุผล การจัดการศึกษาโดยใช้ยุทธศาสตร์ Consortium เป็นการประสานความร่วมมือในการผลิตบัณฑิตในระหว่างสถาบันอุดมศึกษา อาจร่วมมือในการผลิตบัณฑิตเป็นเครือข่าย จะเป็นการแบ่งปันทรัพยากรทั้งด้านบุคลากร เทคโนโลยีและสารสนเทศ และร่วมกันพัฒนาคุณภาพในทิศทางที่สอดคล้องกับความต้องการของสังคมได้เพิ่มขึ้น และยังทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ดี รวมทั้งเกิดการแข่งขันเชิงวิชาการเพิ่มขึ้น เพื่อเทียบเคียงคุณภาพของสถาบันการศึกษาในระหว่างเครือข่าย
3. การควบคุมคุณภาพการผลิตกำลังคนระดับสูงในสาขาที่ขาดแคลน
เหตุผล การผลิตกำลังคนระดับสูง เช่น สาขาวิชาชีพแพทยศาสตร์ซึ่งเป็นสาขาที่ขาดแคลน สอดคล้องกับความต้องการของสังคม จำเป็นต้องควบคุมมาตรฐานการผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพ ทั้งด้านความรู้ เจตคติและทักษะในการปฏิบัติ เนื่องจากวิชาชีพแพทย์เป็นวิชาชีพที่ให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชน
4. รัฐบาลควรสนับสนุนด้านงบประมาณ และทรัพยากรที่จำเป็นอย่างเพียงพอในการจัดการศึกษาในสาขาวิชาที่ขาดแคลน
เหตุผล การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพมาตรฐาน จำเป็นต้องได้รับงบประมาณและทรัพยากรที่จำเป็นอย่างเพียงพอ ทั้งด้านอาคารสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ และการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งต้องจัดหาบุคลากรที่มีศักยภาพในการบริหารจัดการสถาบันและเป็นแหล่งทรัพยากรบุคคลที่สำคัญให้ผู้เรียน เนื่องจากวิชาชีพแพทย์ต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่มีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์การปฏิบัติที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและสุขภาพของประชาชน
ประเด็นที่ไม่เห็นด้วย
การขยายการผลิตบัณฑิตกลุ่มสาขาวิชาแพทยศาสตร์ของสถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่
เหตุผล สถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่ เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฏ ในปัจจุบันมีการผลิตบัณฑิตที่หลากหลายสาขา เนื่องจากมีบุคลากรที่มีความรู้ในสาขานั้น ๆ แต่ไม่มีบุคลากรด้านการแพทย์ หากจะผลิตบัณฑิตในสาขาวิชาแพทยศาสตร์ รัฐบาลจำเป็นต้องสนับสนุนบุคลากร งบประมาณและทรัพยากรที่จำเป็นจำนวนมาก อาจไม่คุ้มค่าในการริเริ่มการผลิต และไม่สามารถควบคุมคุณภาพการศึกษาได้เพียงพอ นอกจากนี้การผลิตบัณฑิตสาขาวิชาแพทยศาสตร์นั้น ไม่เพียงแต่ต้องการงบประมาณและบุคลากรที่มีความสามารถเท่านั้น สถาบันยังต้องมีแหล่งฝึกปฏิบัติงานที่มีความพร้อมและเพียงพอด้วย ในขณะเดียวกันอาจเกิดภาวะสมองไหลเนื่องจากมีการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถสูงจากสถาบันที่ผลิตบัณฑิตสาขาวิชาแพทยศาสตร์อยู่แล้ว ทำให้เกิดการแย่งชิงทรัพยากรซึ่งกันและกัน
ผู้วิเคราะห์ข่าว เห็นว่าไม่ควรสนับสนุนให้สถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่จัดการศึกษาสาขาดังกล่าว แต่ควรควบคุมและกำกับให้สถาบันที่ผลิตบัณฑิตสาขาวิชาแพทยศาสตร์ที่มีอยู่แล้วให้ควบคุมคุณภาพการผลิตบัณฑิตให้ได้คุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ เพื่อให้วได้บุคลากรที่ไปปฏิบัติงานในสังคมที่มีคุณภาพและเข้าใจภาวะสุขภาพของประชาชนอย่างแท้จริง
ที่มาหนังสือพิมพ์มติชน วันอาทิตย์ ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2551 หน้า 5
ไม่มีความเห็น