การกำเนิดของพระพิฆเนศ



การกำเนิดของพระพิฆเนศ

เชื่อกันว่า ลัทธิการบูชาพระคเณศนั้น น่าจะมาจากชนพื้นเมืองดั้งเดิมของอินเดีย ซึ่งเป็นลัทธิการบูชาสัตว์ หรือลัทธิแห่งชัยชนะเหนือธรรมชาติ ชนพื้นเมืองของอินเดีย เชื่อกันว่าหนูเป็นสัญลักษณ์ของความมืด พระคเณศทรงขี่หนูจึงหมายถึงชัยชนะของแสงอาทิตย์ที่ขจัดความมืดให้สิ้นสุดลง พระคเณศอาจจะมีต้นกำเนิดมาจากการเป็นเทพประจำเผ่าของคนป่า ที่อาศัยอยู่ในป่าเขาอันกว้างใหญ่ของอินเดีย คนเหล่านี้ต้องเผชิญกับฝูงช้างอันน่ากลัวจึงเกิดการเคารพในรูปของช้างชึ้น เพื่อให้ปกป้องคุ้มครองและพัฒนาต่อมาเป็นเทพชั้นสูงของชาวอารยัน ต่อมาได้พัฒนาเป็นเทพผู้ขจัดซึ่งอุปสรรค มีความเฉลียวฉลาดเป็นเลิศ ทั้งยังได้รับการยกย่องให้เป็นหัวหน้าของเทพที่มีเศียรเป็นสัตว์ทั้งหลาย จนกระทั่งมีการรจนาปกรณ์ให้เป็นโอรสของพระศิวะเทพและพระนางปราวตี  พระองค์ทรงสร้างเทพแห่งความขัดข้องขึ้น เพื่อขัดขวางความพยายามของอสูรและรากษส พระองค์จึงทรงแบ่งส่วนกายหนึ่งให้เกิดบุรุษร่างงามจากครรภ์ของพระนาง ปราวตีและตั้งพระนามว่า วิฆเนศวรเพื่อทำหน้าที่ขวางทางอสูร รากษส และคนชั่วมิให้ทำการบัดพลีเพื่อขอพรจากพระศิวะ ทั้งยังเป็นผู้เปิดทางอำนวยความสะดวกต่อเทวดาและคนดีเพื่อเป็นหนทางสู่ความสำเร็จ ตำนานที่ ๒. ปราวตีนำเหงื่อไคลปั้นเป็นลูก ครั้งหนึ่ง ชยาและวิชยา พระสหายของนางปราวตีได้แนะนำว่าปกติพระนางมักจะต้องใช้บริวารของพระศิวะอยู่เป็นประจำ ถ้าหากพระนางจะมีบริวารเป็นของตนเองก็คงจะดีไม่น้อย พระนางเห็นด้วย จนวันหนึ่งขณะที่ทรงสรงน้ำอยู่ตามลำพังก็ทรงนึกถึงคำพูดของพระสหายจึงได้นำเอาเหงื่อไคลออกมาสร้างบุรุษรูปงาม สั่งให้ไปยืนเฝ้าทวาร มิให้ใครเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นอย่างนี้มาหลายเพลา จนวันหนึ่งพระศิวะได้เสด็จมา ฝ่ายลูกก็ป้องกันแข็งขัน โดยไม่รู้ว่านั่นคือพ่อพระศิวะโกรธก็เลยสั่งให้ภูติและคณะของตนเข้าสังหารทวารบาลพระองค์นั้น บ้างก็ว่าพระศิวะพุ่งตรีศูลตัดเศียรลูก บ้างก็ว่าพระวิษณุเทพที่มาช่วยรบนั้นใช้จักรตัดเศียร ความทราบถึงพระนางปราวตีจึงเกิดศึกใหญ่ระหว่างเทพและเทพีขึ้นบนสวรรค์ ฝ่ายฤาษีนารอทอดรนทนไม่ได้ จึงได้เป็นทูตสันติภาพขอเจรจากับนางปราวตีเพื่อสงบศึก นางบอกว่าจะสงบศึกก็ต่อเมื่อลูกของนางฟื้นเท่านั้น พระศิวะจึงสั่งให้เทวดาเดินทางไปทิศเหนือให้เอาศีรษะของสิ่งมีชีวิตสิ่งแรกที่พบมาต่อกับโอรสของนางปราวตี ปรากฏว่าเทวดาได้เศียรของช้างซึ่งมีงาเพียงข้างเดียวมา เมื่อพระคเณศฟื้นขึ้นมา ทราบความจริงว่า พระศิวะคือพระบิดาก็ตรงเข้าไปขอโทษเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พระศิวะพอใจมากประสาทพรให้พระคเณศ มีอำนาจเหนือเหล่ามหาเทพและภูติผีทั้งหลาย และทรงแต่งตั้งให้เป็นคณปติ ตำนานที่ ๓. ขวางทางคนชั่วไปเทวาลัยโสมนาถและโสมีศวร พระนางปราวตีทรงเอาน้ำมันที่ใช้ในการสรงน้ำมาผสมกับเหงื่อไคลปั้นเป็นรูปคนแต่มีเศียรเป็นช้างจากนั้นได้เอาน้ำจากพระคงคาปะพรมให้มีชีวิตขึ้น เพื่อทำการขัดขวางแก่คนชั่วที่จะไปบูชาศิวลึงค์ที่เทวาลัยโสมนาถและเทวาลัยโสมีศวรเพราะคนเหล่านี้หวังจะไปล้างบาปเพื่อมิให้ตกนรกทั้งเจ็ดขุม ด้วยเหตุนี้ การที่วันคเณศจาตุรถี นิยมเอารูปปั้นพระคเณศมาจุ่มน้ำหรือนำเทวรูปปูนชิ้นเล็ก ๆ มาทิ้งตามแม่น้ำคงคา ชะรอยจะมาจากความเชื่อที่ว่าน้ำจากแม่พระคงคาจะทำให้พระคเณศมีชีวิตขึ้นมานั่นเอง ตำนานที่ ๔. พระคเณศ กฤษณะอวตาร พระนางปราวตีมเหสีของพระศิวะไม่มีโอรส พระศิวะจึงทรงแนะนำให้พระนางทำพิธีปันยากพรต (พิธีบูชาพระวิษณุเทพ ในวันขึ้น ๑๓ ค่ำเดือนมาฆะ) มีระยะเวลากำหนด ๑ ปีเต็มและเมื่อครบกำหนด พระนางจะได้โอรสซึ่งเป็นพระกฤษณะอวตารไปจุติ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามคำตรัสของพระศิวะ ทวยเทพทั้งหลายมาร่วมอวยพรในกลุ่มเทพเหล่านี้มีพระศนิ (พระเสาร์) รวมอยู่ด้วย เมื่อพระศนิเหลือบมองพระกุมารทันใดนั้นเศียรกุมารก็ขาดจากพระศอกระเด็นไปยังโคโลกซึ่งเป็นวิมานของพระกฤษณะพระวิษณุจึงเสด็จไปยังแม่น้ำบุษปุภัทรเห็นช้างนอนหัวไปทางทิศเหนือจึงตัดเศียรช้างกลับมาต่อให้กับเศียรกุมารที่หายไป ตำนานนี้เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่สร้างโดยกลุ่มที่นับถือพระกฤษณะเป็นใหญ่ ตำนานที่ ๕. ศิวะ-อุมาแปลงกายเป็นช้างเข้าสมสู่ ครั้งหนึ่งพระศิวะและพระนางปราวตีได้เสด็จมายังแถบภูเขาหิมาลัยได้เห็นช้างสมสู่กันก็บังเกิดความใคร่ พระศิวะจึงได้แปลงเป็นช้างพลาย ส่วนนางปาราวตีแปลงกายเป็นช้างพังร่วมสโมสรจนมีลูกเป็นพระคเณศ

คำสำคัญ (Tags): #พระวิฆเนศวร
หมายเลขบันทึก: 204515เขียนเมื่อ 31 สิงหาคม 2008 01:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (26)

เมื่อวานหนูได้เขียนบันทึกถึงอาจารย์ประเสริฐ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับหนู หนูจะทำยังไงดี หนูไม่ได้โกหก อาจารย์ช่วยหนูด้วย ที่หนูใช้วิธีนี้เพราะที่บ้านและญาติ ๆ ไม่มีใครเชื่อว่าหนูเป็นโรคจิตหรือไม่ก็มีผีค่ะ หนูคิดว่าหนูต้องประสาทหลอนหรือหากมีผีหนูก็อาจจะเจอผีหลอกอยู่ก็ได้ หนูเป็นมา 2 ปีแล้ว เมื่อกี้หนูดูภาพของอาจารย์ ที่หน้าผากของพระพิฆเนศวรมันมีอะไรที่เป็น 3 ยอด หนูชอบเห็นในตาบ่อยมาก ไม่รู้ว่ามันคืออะไร อาจารย์ช่วยหนูด้วยน่ะค่ะ หนูอยากเจอพระที่เก่ง ๆ ที่จะรักษาหนูได้สักที เคยไปหาเจ้าอาวาสที่นครศรีธรรมราชท่านก็ช่วยไม่ได้ ได้แต่สวดให้กลับไปอยู่ป่า แต่หนูก็ยังไม่หาย เวลาที่หนูหัวสั่น เมื่อก่อนมันทำให้หนูคิดว่าหนูป่วยทางร่างกายหรือเป็นโรคจิต หนูกินยานอนหลับตามที่หมอบอก แต่มันทำให้หนูหลับจนทำงานไม่ได้ หนูก็เลยเปลี่ยนมาเชื่อญาติ ๆ ว่าโลกนี้มันอาจจะมีผีจริง ๆ เวลาหนูหัวสั่น หนูก็เลยรีบแผ่เมตตาให้ไม่ว่าใครมารับส่วนบุญส่วนกุศลด้วยเถอะ แต่มันไม่หยุดสั่นหนูเอาหลวงปู่ทวดมาไว้ในมือ ท่องพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มันก็ยิ่งสั่น แล้วหนูก็เห็นเป็นรูปช้างแต่เป็นช้างทั้งตัว ไม่เหมือนในภาพที่ใคร ๆ บอก พอหนูรู้ว่าพระพิฆเนศวรมีจริง หลังจากนั้นหนูก็เข้าไปดูเกี่ยวกับพระพิฆเนศวร หนูเห็นภาพที่เค้ามี มันไม่เหมือนกับที่หนูเห็น หนูไปเจอเวปนึงเค้ามีคาถาบูชาพระพิฆเนศวร เค้าว่า โอม ศรีคเณศายะ ณะมะฮา มันก็ไม่เหมือนกับที่หนูได้ยิน เพราะเวลาที่หนูหัวสั่น หนูบังคับสมองไม่ได้ รู้แต่ว่าหนูสวดในใจว่า โอม มหาชัยยันโต นะโมพุทธายะ หนูจำมันได้หนูเอาไปถามน้า ก็รู้ว่ามันเป็นคำพระ ทำไมมันถึงได้เป็นอย่างนี้ เทพอินเดีย แต่ทำไมสวดคำพระของไทย หนูเคยเป็นคนที่เรียนหนังสือกับดูละครไทย และตั้งใจทำงานพักผ่อนด้วยการร้องเพลงและดูละครสนุก ๆ หนูไม่เคยรู้เลยว่ามีช้างหลายมือด้วย หนูเห็นภาพหลอนและได้ยินคำแปลก ๆ ได้ยังไง มันเริ่มเป็นตอนอายุ 27ปลาย ๆ ตอนนี้อายุ 30 แล้ว หรือว่าหนูไม่ได้เป็นโรคจิตหรือประสาทหลอน แต่หนูโดนผีเข้า เวลาหัวสั่น หนูอยากกินกล้วยหอม พุทรา และที่สำคัญหนูอยากเอาเลือดสด ๆ มาแตะหน้าผาก แตะลิ้น ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ หนูไม่คิดว่ามันจะเป็นพระพิฆเนศวรหรือที่ใคร ๆ เรียกว่าเทพจริง ๆ แต่หนูคิดว่ามันอาจจะมีผี หรือจะเป็นพระพิฆเนศวรจริง ๆ หนูก็ไม่รู้จักและไม่เคยนับถือบูชา ยิ่งหนูมาเห็นภาพว่าอยู่อินเดีย หนูก็ยิ่งไม่ชอบ หนูเป็นคนไทยไม่ใช่คนอินเดีย หนูนับถือแต่พ่อแม่และนับถือศาสนาพุทธนับถือพระพุทธเจ้าเท่านั้น แต่ในใจหนูคิดว่าหากหนูไม่ได้เป็นโรคจิตอย่างที่ญาติ ๆ บอก สิ่งที่อยู่กับหนูก็ต้องเป็นผีไม่ใช่เทพ มันอาจจะแอบอยู่ในตัวหรือไม่ก็ข้าง ๆ หนู ทำให้หนูได้ยิน หรือเห็นภาพอะไร ที่พอถามใคร ๆ เค้าก็บอกว่าเป็นคำพระ เป็นสิ่งดี ๆ ทั้งนั้น หนูอยากเป็นคนเดิมที่สมองมันเหมือนเดิมคิดอะไรนึกอะไรมันก็เป็นอย่างนั้น ไม่ใช่ตื่นเช้าขึ้นมาต้องเห็นและได้ยิน แล้วหนูต้องถามตัวเองว่าภาพอะไร คำอะไร อยู่อย่างนี้ ทำไมเมื่อก่อนมันไม่เห็นเป็นอย่างนี้ พี่ชายบอกว่ามันก็ไม่เห็นเป็นอะไร เห็นแล้วได้ยินแล้วก็ไม่ได้ทำให้น้องเป็นอะไรสักอย่าง เค้าไม่เข้าใจหรอกว่า หนูเกลียดและทรมานกับสิ่งที่หนูเป็น หนูอยากเป็นเหมือนเดิมจริง ๆ ในเมื่อพ่อแม่และพี่ ๆ รวมถึงญาติ ๆ ทุกคนต่างมองว่าเป็นของดีไม่มีใครเชื่อหนูเลย หนูก็ต้องหาวิธีรักษาตัวเอง หนูเคยกินยามาแล้วแต่ไม่สามารถทำงานได้ เพราะมันง่วงนอนทั้งวัน หนูต้องลองวิธีอื่นอย่างที่คนอื่นเค้าทำคือ หาพระหรือไม่ก็หมอผีมาปราบมันให้ได้ มันต้องมีคนช่วยหนูได้สิ อาจารย์ช่วยหนูด้วยน่ะ หนูไม่ยอมเป็นแบบนั้นอีก หากมันถึงที่สุดแล้วจริง ๆ หากหนูต้องเป็นเหมือนวันก่อนแล้วใครๆ ก็ไม่ยอมมัดหนูแล้วพาหนูไปหาพระหรือหมอ แต่กลับให้มันอยู่ในร่างหนูตั้งครึ่งวัน ทั้ง ๆ ที่หนูเพิ่งไปบริจาคเลือดมา หมอให้กลับมาพักผ่อน แต่หนูกลับมาแล้วหนูกลับต้องมาตัวสั่นและวิ่งอยู่ครึ่งวัน ไปบ้านคนโน้นคนนี้ ทั้ง ๆ ที่หนูรู้ตัวและบังคับตัวเองไม่ได้ หนูจะไม่มีวันเป็นอย่างนั้นอีก หากเป็นอย่างนั้นจริงๆ แม่ชีจะบอกว่าหนูไม่กตัญญูต่อพ่อแม่ไม่ได้อีกแล้ว

จงอดทนเถอะน้อง ตั้งสติให้มั่น ทำสมาธิภาวนาบทสวดพุทธคุณแล้วแผ่เมตตาทุกวันนะน้อง

จงอดทนเถอะน้อง ตั้งสติให้มั่น ทำสมาธิภาวนาบทสวดพุทธคุณแล้วแผ่เมตตาทุกวันนะน้อง

หลายเดือนก่อนเคยได้ยิน อะไรน่ะ น้ำ ไฟ ลม

เค้าถามเราว่า เราจะให้จิตเราเป็นแบบไหน ระหว่าง น้ำ ไฟ ลม

เค้าบอกว่าต้องเป็นน้ำ เราก็คิดว่า น้ำคงหมายถึงจิตใจที่เย็น เค้าบอกว่า หากเราทำจิตให้เป็นน้ำมันก็จะนิ่ง เวลาน้ำอยู่ในแก้วก็จะเป็นรูปแก้ว น้ำอยู่ที่ไหนก็จะเป็นไปตามรูปนั้น เมื่อจิตเป็นไฟ จิตของเราก็จะร้อน แต่ที่แย่ที่สุดคือ จิตที่เป็นลม เพราะมันจะทำลายทุกอย่าง ลมจะพัดไฟให้ลุกโชน และจะพัดน้ำให้เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง ตอนแรกเราก็คิดว่า จิตที่เป็นไฟน่ะไม่ดีที่สุด แต่เค้าบอกเราอย่างนี้ไว้หลายเดือนแล้ว เดือนก่อนเค้าบอกว่า เมื่อจิตเป็นน้ำแล้ว เราเอาไม้ท่อนมาแล้วคลึงน้ำให้เป็นแผ่น เค้าคนนั้นที่บอกน่ะคือ จิตของเราเอง จิตของเรามันเหมือนกับว่า บางทีมันก็ชอบสอนอะไรเราที่เราไม่เข้าใจ หรือว่าจะเพี้ยนไปแล้วรึเปล่าน่ะ นี่เราอาการหนักมาก ๆ แล้วน่ะเนี่ยะ เราจะรู้คำตอบของเดือนที่แล้ว หากเรามองดูภาพข้างบน เอาไม้ท่อนมาแล้วคลึงน้ำให้เป็นแผ่น หมายถึงอะไรน่ะ

หนูว่าหนูต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ หรือว่าหนูเป็นโรคคิดไปเอง แล้วเอามาปะติดปะต่อกันรึเปล่า แต่ว่าหนูเข้ามาดูภาพข้างบนอีกที หนูว่าเมื่อเช้าหนูเห็นภาพนี้แล้ว แต่มันคงไม่ใช่ภาพนี้ หนูว่าหนูต้องประสาทแน่ ๆ เมื่อเช้าหนูเห็นภาพนี้ แล้วนึกถึงเอาไม้ท่อนมาแล้วคลึงให้เป็นแผ่น หนูลืมเรื่องนี้ไปแล้ว แต่พอหนูเห็นภาพนี้ในตอนเช้า หนูก็นึกขึ้นมาอีก ไม้ท่อนกับท่อนไม้มันเหมือนกันมั้ยน่ะ หนูเป็นอย่างนี้จริง ๆ น่ะค่ะ เอ้ะหรือว่าคนอื่นเค้าก็เป็นแต่หนูคิดมาก ทำไมหนูไม่คิดว่าเอาท่อนไม้ แต่คิดว่าเอาไม้ท่อน ทั้ง ๆ ที่หนูไม่เคยใช้คำนี้ สงสัยว่าต่อไปหนูต้องกลายเป็นคนบ้าเดินอยู่ตามถนนแน่ ๆ เลย เคยเห็นคนบ้าเค้าเดินร้องบ้างยิ้มบ้างอยู่ตามถนน หรือว่าเค้าคิดอะไรอยู่คนเดียวแบบนี้รึเปล่าน่ะ จึงทำให้เค้าเป็นบ้า นี่ถ้าหนูทำได้อย่างที่พี่ชายว่าก็ดีสิ เห็นอะไรได้ยินอะไรก็เฉย ๆ ส่ะ แต่หนูทำไม่ได้สักที หนูคงยังไม่ถึงกับขั้นบ้าอย่างนั้นหรอกใช่มั้ยค่ะอาจารย์ เพราะตอนกลางวันหรือแม้กระทั่งตอนนี้หนูก็ไม่ได้ยินอะไรเลย แต่พอหลับแล้วตอนที่กำลังจะตื่นนี่สิ เมื่อก่อนมันก็ไม่เป็นทุกวันหรอกน่ะ แต่ช่วงนี้ราวเดือนกว่าได้ที่หนูรู้สึกว่าหนูต้องอาการหนักแน่ ๆ เพราะมันเป็นเกือบทุกวัน วันนี้โทรไปคุยกับเพื่อน เพื่อนถามว่ายังไม่หายอีกเหรอ หนูก็บอกว่า เราก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกน่ะ ก็เป็นเหมือนคนปกตินี่แหละ แต่ตอนนี้มันยังเป็นอยู่เฉพาะตอนจะตื่นเช้าแล้วล่ะ และบางทีก็หัวสั่นขึ้นมาแล้วก็หายไปเอง เพื่อนเค้าถามว่าแล้วจะรักษายังไง หนูก็บอกว่า ทั้งคนที่บ้านและญาติ ๆ ทุกคนว่าเราปกติดีแล้ว ทุกคนบอกว่าเราเป็นคนดีก็จะได้ยินแต่สิ่งดีๆ เราก็ไม่รู้จะทำยังไง เมื่อก่อนเราก็เป็นของเราอย่างนี้ แต่ทำไมเราถึงไม่มีอาการอย่างนี้ล่ะ อยู่ได้จนอายุ 27 มาตอนนี้หรือว่าเราจะดวงตกหรือมีเคราะห์อย่างที่เค้าว่าก็ไม่รู้ หนูบอกเพื่อนว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว แต่อย่าให้หนูรู้น่ะว่าผีมันมีจริง แล้วหนูก็เจอผีหลอก ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณของอะไรก็ตาม จะต้องให้หนูทำยังไงมันถึงจะจบสะที หนูไม่อยากให้พ่อกับแม่เสียใจที่หนูเลือกทางเดิมอีก ยังไงหนูก็ต้องหาวิธีของหนู วันก่อนหนูไปกรุงเทพ ได้ยินมาว่าหลวงพ่อจรัญท่านเก่งมาก หนูกำลังหาวิธีที่จะติดต่อท่านให้ได้ หนูจะให้ท่านช่วยหนู หาวิธีกำจัดมันให้ได้ คราวนี้หนูไม่เหมือนคนเดิมแล้ว ที่พอเห็นภาพหรือได้ยินอะไรก็กลัวจนคุมสติไม่ได้ แต่ช่วงนี้หนูก็ไม่ลืมว่าทุกครั้งที่หนูทำอะไรที่ดี ๆ หนูก็จะบอกว่า มารับส่วนบุญส่วนกุศลด้วยเถอะ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ขอให้ได้รับผลบุญนี้ด้วย ลูกถือว่าลูกคงต้องทำอะไรผิดมันถึงได้เกิดกรรมแบบนี้กับลูก รับส่วนบุญส่วนกุศลด้วยเถอะ

หนูมัวแต่ดูภาพ จนลืมไปว่า จะถามอาจารย์ว่า ไม่ใช่ถามหรอกค่ะ จะเล่าจริง ๆ มากกว่า หนูเคยเอาไปถามพระตอนที่หนูบวช ว่าท่านเคยได้ยิน อภิธรรม 7 ชั้นฟ้า มั้ย หรือ แหวนธนู ภูเขาคันทมาส บางทีหนูก็บอกแม่ชีว่า หนูได้ยินอย่างนั้น ๆ หนูไม่อยากกลับบ้าน หนูอยากอยู่ที่วัด แม่ชีถามว่าแล้วอยู่ที่วัดหนูเป็นยังไงได้ยินอะไรมั้ย หนูก็บอกว่า มันก็เหมือนกับอยู่ที่บ้าน มันก็ได้ยินมันก็เหมือนคนบ้า อาการมันก็ไม่ดีเหมือนกันค่ะ แม่ชีเลยให้หนูกลับบ้าน หนูคิดว่ามันมีอะไรตามหนูรึเปล่า ไม่ว่าหนูจะอยู่ที่ไหน ขนาดไปกรุงเทพ ก็ยังได้ยิน การทำงานของจิต หัวใจ สมอง หนูจะต้องเข้าใจการทำงานของจิตของหัวใจและสมอง แล้วมันก็หายไปเอง หนูได้ยินหลายคำมาก น้าหนูบอกว่าได้ยินอะไรก็จดไว้น่ะ แล้วเอามาบอกน้า หนูก็จดไว้ทุกคำ พอเอาไปบอกเค้ากลับไม่ช่วยอะไร เพราะเค้าว่าน้ามองว่าเป็นของดีน่ะ หนูไม่เข้าใจเลยทำไมใคร ๆ ก็เชื่อว่ามันเป็นของดี หนูคิดว่าหากมันเป็นวิญญาณจริง ๆ มันอาจจะแกล้งกระซิบให้หนูได้ยินของดี ๆ หรือคำพระมากกว่า เดือนที่แล้วหนูตื่นขึ้นมา ได้ยิน โคตะมะ หนูไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่หนูต้องหาความจริง เลยไปหาใน google มันก็เป็นคำพระอีก หลังจากนั้น หนูก็ไม่ค่อยไปวัด เพราะหนูเริ่มรู้สึกว่ามันแปลก ๆ ลองไม่ไปวัดดูเผื่อมันจะดีขึ้น พออาทิตย์ก่อน ตื่นขึ้นมาหนูได้ยิน พระพุทธศรีโสภณ ตอนที่หนูได้ยินหนูก็ไม่รู้หรอกน่ะค่ะว่าเขียนแบบนี้ แต่หนูก็ไปหาใน google แล้วก็คีย์พระพุทธสีโสพน หนูคีย์จนเจอว่ามันมีจริง บางทีหนูก็เหมือนคนบ้าพอได้ยินอะไรก็จะบอกตัวเองว่าช่างมัน ๆๆๆๆ แต่หนูก็มาหาในgoogle ทุกที มันเป็นมา 2 ปีแล้ว จนหนูเริ่มรู้จักพวกคำพระมากขึ้น โดยที่หนูได้ยินแล้วเข้าไปหาใน google นี่แหละค่ะ ใคร ๆ ที่อยู่รอบข้างหนูไม่มีใครเชื่อหรอกว่าหนูเครียด หนูอาจจะไม่เครียดเรื่องอะไรอื่น แต่หนูเครียดเรื่องนี้มา 2 ปีแล้ว ตอนนี้ก็ทำใจดีขึ้น เพราะต้องการจะต่อสู้กับมัน แต่หนูงงจริง ๆ น่ะ หนูไม่เคยได้ยินไม่เคยรู้จักแต่หนูไปเอาคำพวกนี้มาให้ได้ยินในหัวได้ยังไง เช่น วัจนสาร กามูระติ สวาหะ อะไรอีกหลายคำหนูจำไม่ได้แล้ว หนูนึกไม่ออก นี่ไงค่ะเราต้องนึกเอาเองคำต่าง ๆ มันถึงจะออกมา แต่คำต่าง ๆ มันออกมาโดยเราไม่ได้นึกนี่มันเป็นยังไงของมัน โอ้ยคิดมากแล้วก็ปวดหัวอีก ช่างมัน ๆๆๆ หนูจะต้องเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ รึเปล่าค่ะ

น้องมนัสนันท์ /Yaimod เกิด ๒๙ กค ๒๑ น้องอย่าทำโษตัวเองว่า บ้า ที่จริงแล้วจิตของน้องมีเซ็นพิเศษที่สามารถรู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้ แต่มันเป็นความผิดปกติที่ ตัวเองมีความลำคาน เพราะอยากเป็นปกติเหมือนคนอื่นๆ พี่ว่าถ้าได้ฝึกกัมฐานกับหลวงพ่อจรัญ น้องอาจจะหาย และมีความรู้สึกที่ดีขึ้น เมื่อยังไม่มีเวลาไป ก็ลองนั่งหลับตานิ่ง ๆ หยุดคิด หยุดมอง หยุดนึก หยุดเป็นตัวสำเร็จ ถ้าจิตยังฟุ้ง คิดโน่นคิดนี่ เห็นมโนภาพอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ลองใช้ความคิดหรือจิตของเราตามมโนภาพนั้นไป มันไปไหนจิตเราไปด้วย คิดเห็นภาพอะไรก็ใช้จิตตามเห็นไปด้วยจะเพลินดีไปอีกแบบ อย่าลึมสวดมนต์ แผ่เมตตา ปฏิบัติแล้วเป็นอย่างไร ส่งข่าวด้วย ....คิดถึงและเป็นห่วง

อาจารย์ค่ะ ทำไมคำตอบของอาจารย์จึงได้เหมือนกับคนอื่นอีก หนูเป็นคนที่สามารถรู้อะไรในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้ ทำไมเวลาที่หนูได้ยินคำตอบแบบนี้หนูรู้สึกเศร้ามาก เมื่อก่อนตอนหนูเด็ก ๆ จนมาถึงอายุ 27 แม่จะพาหนูไปวัดเสมอ ทุกครั้งที่หนูไปวัด หนูกับพี่สาวมักจะเบื่อกับการไปนั่งฟังธรรมกันนาน ๆ แล้วพวกเราก็จะไปหาลูกชิ้นกินกัน พอเค้าใกล้จะเสร็จพิธีเราก็เข้าไป จนมาอายุ 27 ถึงวันนี้ หนูไปวัดและร่วมทำพิธีทางศาสนาตั้งแต่ต้นจนเสร็จพิธีด้วยความตั้งใจ ด้วยเหตุผลที่ว่าหนูรู้สึกว่าที่ผ่านมามันเป็นทุกข์ หนูเล่าเรียนมาจนจบปริญญาแต่ความรู้นั้นมันไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับหนูได้ในวันที่หนูเป็นทุกข์ หนูกลับมาเจอความจริงจากพระพุทธศาสนา อาจารย์ค่ะ หนูไม่ได้ทำอย่างที่อาจารย์ว่า ไม่รู้ว่าหนูเลือกทางผิดมั้ย แต่ช่วงนี้หนูไม่ได้สวดมนต์อีกเลย เพราะวันที่หนูไปวัดฟังพระเทศน์ในวันก่อนแล้วกลับมาได้ยินคำว่า โคตะมะ หนูก็ตัดสินใจว่าหนูจะไม่สวดมนต์อีก แต่พอก่อนหน้านี้ หนูก็ได้ยิน พระพุทธศรีโสภณ ทั้ง ๆ ที่หนูก็ไม่ได้ไปวัดหรือสวดมนต์ แสดงว่ามันก็ไม่เกี่ยวกัน หลังจากที่หนูติดต่ออาจารย์ไปในวันที่ 3 เช้าวันที่ 4 และ วันที่ 5 หนูตื่นมาก็ไม่เห็นภาพหลอนอะไร แต่เมื่อคืนก่อนที่หนูจะนอนหนูกราบพระ 5 ครั้งแล้วนอน แต่หลับตาแล้วก็เห็นภาพหลอน หนูคิดว่าจะลุกขึ้นมานั่งสมาธิแล้วทำเหมือนอาจารย์แนะนำ แต่หนูไม่ชอบแบบนั้น หนูไม่อยากรู้ในสิ่งที่คนอื่นเค้าไม่รู้เหมือนที่อาจารย์ว่า มันต้องมีวิธีรักษาได้ พอหนูเห็นภาพหนูก็จะพูดว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้มารับส่วนบุญส่วนกุศลด้วยเถอะ ทุกครั้งที่หนูเห็นภาพ ภาพมันเข้ามาแล้วก็ผ่านไปเร็วมาก เมื่อคืนหนูเห็นภาพพระอ้วน ๆ แล้วก็หายไป แล้วหนูก็เห็นงูหัวใหญ่มากแล้วก็หายไป เสร็จแล้วหนูก็เห็นเหมือนจะเป็นพระบิดาพ่อพระเจ้าอยู่หัวแล้วก็หายไปอีก หนูรีบท่องพุทโธ แผ่เมตตาให้แล้วก็เห็นภาพอะไรอีกหนูก็จำไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่าหนูหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้แล้วก็ตื่นมาตอนเช้าก็ไม่เห็นภาพหลอน และหนูก็เปิดหนังที่ซื้อมาดู เรื่องเขาชนไก่ ตอนต้นจะมีตัวอย่างหนังอื่น หนูเห็นหัวงู เหมือนที่หนูเห็นเมื่อคืน หนูก็บอกว่าไม่มีอะไร พอหนูเดินอยู่เห็นพี่สาวเปิดทีวีหนูหันไปดู หันไปเห็นรูปพระบิดาออกรายการอะไรหนูก็ไม่ได้สังเกต เพราะหนูเริ่มคิดมากแล้วจิตฟุ้งมั่วอีก แต่หนูก็บอกว่าไม่มีอะไร พอเมื่อกี้หนูนอนหลับและก็ตื่นมา พี่สาวหนูนั่งดูทีวี หนูหันไปดูเห็นพระอ้วน ๆ เหมือนที่หนูเห็นเลย เค้าบอกว่าพระพุทธทาสภิกขุ หนูก็บอกว่าไม่มีอะไร ทั้ง ๆ ที่ส่วนนึงในใจหนูมันกำลังคิดว่าหรือว่าภาพที่หนูเห็นตอนกลางคืนหรือไม่ก็ตอนเช้า ๆ มันจะเป็นภาพที่หนูจะเจอในวันต่อมา หนูว่าหนูยังเป็นเหมือนเดิม เหมือนเมื่อตอนที่อยู่มอ.หมอบอกว่าหนูเป็นโรคจิตเห็นภาพหลอน อาจารย์ค่ะ หนูไม่ได้เป็นโรคจิตหรือเป็นพวกเห็นภาพหลอนแล้วอยู่กับมันจนต่อไปหนูจะเป็นบ้าจริง ๆ เหรอค่ะ แล้วการที่หนูไม่ไปหาหมอเสริมศักดิ์อีกครั้งเพื่อรักษาตัวและกินยาเหมือนเมื่อ 2 ปีก่อน มันถูกต้องรึเปล่า ตอนนี้หนูสับสนมาก ไม่รู้ว่าที่ตัวเองเป็นเค้าเรียกว่าโรคอะไรกันแน่ แต่หนูรู้สึกว่ามันหลอนหนูจริง ๆ น่ะค่ะ หนูจะลองกินยาแล้วขอหยุดงานสักอาทิตย์นึงดูดีมั้ยค่ะ เผื่อว่ามันจะดีขึ้น จริง ๆ แล้วเมื่อ 2 ปีก่อนหนูก็ตั้งใจไว้อย่างนี้ว่าลาออกมาแล้วหนูจะพักผ่อนและกินยา แต่คนในครอบครัวและญาติไม่มีใครเชื่อหนูว่าหนูป่วย เค้าให้หนูไปเรียนเสริมสวย หนูไปเรียนหนูก็เห็นภาพหลอนหนูปรึกษาอาจารย์ที่สอนและเล่าให้เค้าฟัง อาจารย์ว่าไม่เป็นไรจ่ะ แล้วหนูก็เรียนจนจบ อาจารย์ชมว่าหนูเก่ง ดูสิคนอื่นเค้าตั้งใจมาเรียนแท้ ๆ แต่เค้าก็เรียนไม่จบ แต่ลูกศิษย์อาจารย์คนนี้อาจารย์ชื่นชมมาก หนูก็เลยเริ่มมีกำลังใจ และหนูก็มาเปิดร้านเสริมสวย หนูก็ทำงานได้ปกติแต่ลูกค้าไม่รู้ว่าหนูเห็นภาพหลอน หนูไม่ได้เก็บมันไว้เป็นความลับค่ะ หนูปรึกษาพี่สาวและญาติ ๆ ตลอดเวลา จนช่วงนึงที่หนูรู้สึกว่าหนูไม่ไหวแล้ว หนูจะรู้สึกเหมือนมีเข็มแทงที่หัวข้างขวาตลอด มันไม่ได้ปวดหัวอะไร แต่มันจะจื้ดตรงจุดเดิมข้างขวา หนูไปตรวจสมองทั้งโรงพยายาลประสาทสงขลา และที่อื่นเค้าก็ว่าหนูไม่เป็นอะไร แต่ให้ยาไมเกรนมากิน หนูก็ใจสั่นทำงานไม่ได้ หนูก็เลยหยุดกิน แล้วมาช่วยหลัง ๆ นี้หนูทำให้ลูกค้าบางคนหนูจะรู้สึกหัวสั่นใจสั่นควบคุมมือตัวเองให้เพ้นท์เล็บให้เค้าไม่ได้ โชคดีช่วงนี้ที่หนูได้ทำงานที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานแล้ว ได้เงินเดือน 7940 ได้มากกว่าตอนที่ทำร้านเสริมสวยอีก และก็ไม่เหนื่อยด้วย แต่หนูต้องเลิกทำมันจริง ๆ ถึงแม้ว่าหนูจะเริ่มรักและสนุกกับมัน แต่หนูก็ต้องเลิกเพราะลูกค้าบางคนหนูก็ทำให้เค้าไม่ได้ หนูสังเกตมาหลายครั้งแล้ว ทำไมลูกค้าคนนี้มาแล้วหนูทั้งมือไม้สั่นใจสั่น ควบคุมมือให้ทำให้เค้าไม่ได้ ความจริงแล้วถึงแม้ว่าหนูจะได้งานทำที่นี่แล้วแต่หนูก็ตั้งใจว่าจะเปิดร้านเสาร์อาทิตย์ ตอนแรกหนูก็ทำอย่างนั้น แต่พอมาเจอลูกค้าคนนึงที่ทำให้หนูอาการไม่ดี หนูได้ปรึกษาพี่และพ่อ ทุกคนเลยบอกให้หนูหยุดทำที่ร้านไปก่อน ช่วงก่อนหน้านี้ลูกค้ามาตามหนูอหนูไม่รู้จะบอกเค้าว่าอะไร หนูบอกว่าหนูทำไม่ไหวหรอก หนูไม่สบาย ทั้ง ๆ ที่หนูก็สบายดี หนูเลยแก้ปัญหาด้วยการปิดร้านไปก่อน ดูอาการตัวเองให้หายดีก่อน ขอบคุณอาจารย์มากน่ะค่ะ ที่ให้คำปรึกษาหนู ถึงแม้ว่ามันจะออกมาเหมือนคนอื่น ๆ อีก แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ อย่างน้อยหนูก็รู้สึกว่าหนูได้ระบายออกไปบ้าง ดีกว่าเก็บไว้โดยไม่ได้ปรึกษาคนอื่นนอกจากคนที่รักเราเช่นครอบครัวและญาติ ๆ เพราะยังไงคำตอบของพวกเค้าก็ต้องบอกว่าหนูไม่ได้เป็นบ้า ก็พวกเค้ารักหนูเค้าก็ยอมรับไม่ได้ที่จะเห็นหนูเป็นบ้า แต่หนูก็เคยไปหาหมอทางศาสตร์ของคนทรงเจ้าตอนที่เค้ามาที่วัด เค้าก็บอกว่าหนูไม่ได้บ้าแต่มีเซ้นเหมือนที่อาจารย์ว่า แล้วหนูก็ร้องไห้อยู่ตั้งนานกว่าที่พวกเค้าจะทำให้หนูหยุดร้องได้ เค้าเรียกแม่มาแล้วก็จุดธูป 16 ก้าน ลงบนดินที่วัดถ้ำเขาจีน แล้วหนูก็เป็นลมไปอีก รู้สึกตัวได้ยินเสียงแม่เรียกแต่หนูเปิดตาไม่ได้ เค้าเอาผ้าปิดหน้าหนู แล้วผู้ชายคนนึงบอกให้แม่เรียกชื่อหนูว่า น้องกอ น้องกอ แล้วหนูก็ตื่นขึ้นมา หลังจากนั้น หนูก็ไม่ได้เห็นภาพหลอนหรือปวดหัวข้างขวาเท่านั้น หนูกลายเป็นคนที่สั่นและทำตัวเหมือนมีอะไรเข้า แล้วมันก็เหมือนอย่างที่หนูเล่าให้อาจารย์ฟัง ตอนนี้หนูบอกได้ว่าหนูสับสน มันน่าจะจบลงตั้งแต่หนูตัดสินใจลาออกจากมอ.เพื่อรักษาตัว พักผ่อนและกินยา แต่ที่ทำให้หนูสับสนมากในตอนนี้ก็เพราะทุกคนบอกว่าหนูไม่ได้เป็นบ้า แล้วตอนนี้หนูกำลังเผชิญอยู่กับอะไรที่หนูก็ไม่เคยเชื่อมาก่อน หนูเริ่มสงสัยว่าผีมันจะมีจริง ๆ แล้วค่ะ หนูจะทำยังไงดีค่ะ นอกจากการทำกัมฐานอย่างที่อาจารย์ว่า เพราะหนูไม่อยากเลือกทางที่อาจารย์ว่า เราจะสามารถรู้อะไรในสิ่งที่คนอื่นเค้าไม่รู้ หนูจะไม่มีวันเดินหน้าไปทางนี้เป็นอันขาด หนูอยากเป็นหนูคนเดิมรู้ในสิ่งที่หนูกำลังมอง กำลังคิด มากกว่าค่ะ เราไม่มีวิธีอื่นเลยเหรอค่ะ อาจารย์ช่วยหนูด้วยน่ะหนูคิดว่าตอนนี้หนูต้องเจอผีแน่ ๆ หนูจะผิดมั้ยหากหนูจะชวนเพื่อนไปเข้าร่วมพิธีภาณยักษ์ ได้ข่าวว่าที่หาดใหญ่เค้ามีการทำกัน บางทีมันอาจจะทำให้หนูหายก็ได้ หลายวันมานี้หนูรู้สึกว่าหนูคิดถึงดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบ หนูคิดถึงแต่ดอกกุหลาบ หนูไม่ได้เห็นภาพแต่หนูคิดถึงดอกกุหลาบ หนูอยากกินขนมสาลี่ น้ำแดง แต่ละช่วงของหนูจะเปลี่ยนความรู้สึกไป แต่หนูก็ต้องถามตัวเองว่าทำไม หนูไม่ชอบดอกกุหลาบ หรือว่าหนูจะชอบดอกกุหลาบสะแล้ว แล้วขนมสาลี่มันเป็นยังไง ไม่เคยกินหรือว่าเราอยากกิน ทำไมหนูถึงกลายเป็นอย่างนี้ล่ะค่ะอาจารย์ อย่างนี้เค้าไม่เรียกว่าบ้า แล้วเรียกว่าอะไร เมื่อไหร่ทุกคนจะให้หนูรักษาตัวพักผ่อนสะที หนูเหนื่อยแล้วค่ะอาจารย์ แล้วหนูก็ทนไม่ไหวแล้วกับการที่มีอะไรก็ไม่รู้มาทำให้หนูรู้เรื่องที่หนูไม่รู้ ทำไมหนูต้องเคยทำผิดอะไรมากมายแน่ ๆ พวกเค้าถึงไม่ยอมรับผลบุญที่หนูทำให้พวกเค้า เค้าถึงได้ทำให้มันเป็นอย่างนี้ อาจารย์ค่ะทำไมหนูถึงได้คิดถึงแต่ดอกกุหลาบ หนูรู้สึกว่าหนูกำลังอ่อนแอ และต่อสู้กับมันไม่ไหว ทั้ง ๆ ที่ใจหนูก็บอกให้สู้ หนูต้องให้พระช่วยหนูค่ะ

น้องมนัสนันท์ /Yaimod พี่เอาใจช่วยและไม่คิดว่าน้องเป็นอย่างที่ตนเองเข้าใจ คือน้องไม่บ้า ขอวิเคราะห์ตามความร้สึก น้องมีกรรมมาแต่กำเนิด จงสู้และยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าเบื่อการไปวัดหรือนั่งกรรมฐาน หาโอกาศทำความดีต่อบุพการี และผู้มีพระคุณให้มาก พี่เชื่อว่าวันหนึ่งน้องพี่ต้องหายเป็นปกติ สถานะการณ์บางอย่าง ยิ่งหนีมันก็ยิ่งพบ มีทางเดียวคือสู้ (...โว้ย) ยิ้มสู้น๊ะน้องพี....พ่อ-แม่และญาติๆท่านรักและเป็นห่วง

  ขอบารมี อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูงโปรดช่วยน้องมนัสนันท์ ด้วย......

อกุศลทั้งหลาย กรรมทั้งหลาย จะหมดไปได้ถ้าเรามีแรงกตัญญูมาเสริมบุญ

ไม่รู้ที่อยู่...จะได่ส่งขนมสาลี่ไปให้ ดูภาพนี้ไปก่อน 55555

...ขอมอบกุหลาบให้ด้วย หายเร็ว ๆ น๊ะน้องพี่

สวัสดีค่ะอาจารย์ หนูเพิ่งกลับมาจากวัดถ้ำเขาจีนค่ะ เมื่อเช้าตื่นขึ้นมา หนูเห็นภาพเด็กเพิ่งเกิด ใส่กางเกงสีขาว แล้วก็หายไป แล้วหนูก็เห็นขาสองขาโดนใครลาก พอเห็นภาพเต็ม ๆ มันกลายเป็นศพคนลากศพ แล้วเปลี่ยนชุดให้ใส่โลง หนูก็เลยตัดสินใจไปวัดดีกว่า ก็เลยตื่นแต่เช้าแล้วก็ไปตลาดกับแม่ ซื้อของไปวัดกัน หนูไปวัดก็สวดมนต์ทำวัตรเช้าตามที่พระท่านนำตามปกติ แล้วพระท่านก็ให้นั่งสมาธิ หนูหลับตาแล้วก็ไม่เห็นอะไรเลย แต่ก่อนจะเปิดตาขึ้นหนูเห็นเจ้าแม่กวนอิมอีกแล้ว แต่หนูว่าหนูตัดสินใจไม่ผิดหรอกน่ะค่ะอาจารย์ หนูคิดว่าการที่หนูมาทำบุญที่วัด ทำตามที่ใจหนูต้องการน่ะถูกแล้ว หนูไม่ควรในสิ่งที่หนูไม่รู้ว่ามันคืออะไร แล้วอีกอย่างนึง การมาวัดทำบุญได้กรวดน้ำแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร มันดีกว่าการที่เราไม่มาวัดเพราะความกลัวในสิ่งที่เราได้ยิน หนูคิดว่ายิ่งหนูไม่ไปวัดไม่ทำบุญ ยิ่งเข้าทางพวกผี ยิ่งวันนี้ที่วัดเค้าพูดกันถึงเรื่องของน้องคนนึงที่ป่วยมาสองปีแล้ว ยิ่งตอนนี้เดินก็ไม่ได้ พูดก็ไม่ยอมพูด หาหมอมาเยอะมากแล้วหมอก็บอกว่าไม่เป็นอะไร เค้าว่าน้องคนนี้โดนทางไสยศาสตร์ ก็เลยเป็นแบบนี้ ดีแล้วที่หนูยังเป็นคนที่มีจิตใจที่เข้มแข็งและยังบังคับตัวเองได้ หนูจะแผ่เมตตาให้พวกเค้าและก็จะไปวัดเหมือนเดิม เหมือนที่ทำมาตลอด 2 ปี ยังไงหนูก็จะนึกถึงผลตอนที่เราทำในขณะนั้น คือ ได้ไปวัดแล้วเราก็ได้ทำบุญไปด้วย จะได้ยินอะไรอีกมันก็ช่าง วันนี้หนูนั่งสมาธิอยู่หนูนึกเรื่องเอาไม้ท่อนมาคลึงให้เป็นแผ่นได้แล้วค่ะ จิตที่เป็นน้ำ อยู่ในแก้วมันก็กลายเป็นรูปแก้ว อยู่ที่ใดมันก็จะกลายเป็นรูปนั้น มันเป็นจิตที่สามารถเปลี่ยน นิ่งแต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาแล้วแต่สถานการณ์ที่จิตไปกระทบ การเอาไม้ท่อนไปคลึงให้เป็นแผ่นนั้นหนูเก็บมาคิดว่า มันทำได้ยังไง น้ำจะออกมาเป็นแผ่นได้ยังไง หนูกลับไปมองภาพที่อาจารย์ให้มาอีกครั้ง ภาพของพระ และน้ำมีลักษณะเป็นวงกระจายเพราะมีสิ่งมากระทบ ภาพนั้นคือน้ำที่ไม่นิ่ง หากน้ำนิ่งและไม่มีอะไรมากระทบจริง ๆ น้ำมันก็จะเป็นแผ่น การเอาไม้ท่อนมาคลึงให้เป็นแผ่นนั้นก็คือการปล่อยวาง ที่หนูเป็นทุกข์อยู่ตอนนี้เพราะหนูคิดมาก ทำไมหนูต้องเห็นทำไมคนอื่นไม่เห็น ทำไมหนูต้องได้ยินคนอื่นไม่เห็นจะได้ยิน ทำไมๆๆๆๆ หนูเป็นแบบนี้มา 2 ปีแล้ว จนหนูได้ยินคำนึงตอนไปวัดในความคิดของหนูเองว่า ภาพที่หนูเห็นเมื่อตอนเช้าก่อนจะมาวัด ทำไมตอนเกิดมาไม่มีเสื้อผ้าติดตัวมา แล้วก็มีคนใส่เสื้อผ้าให้เรา พอตอนตายไปก็มีคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เราอีก แม้ตอนเกิดมาก็ไม่มีอะไร พอตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่หนูบอกตัวเองว่าไม่เป็นไรหรอก ไม่เป็นไรหรอก แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา หนูยอมรับกับตัวเองว่า หนูยังมีความโกรธแค้นอยู่ในจิตใจหลายเรื่อง ทั้ง ๆ ที่หนูพยายามบอกตัวเองให้ยอมรับกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว แต่หนูก็ไม่เคยทำมันได้เลย เพราะหนูคิดมาตลอดว่าคนอื่นเข้าใจผิด แล้วทำไมเราไม่ได้แกล้งทำ เราเป็นแบบนี้จริง ๆ ทำไมมันถึงต้องเป็นแบบนี้ หนูไม่เคยปล่อยวางมันเลย แม้หนูจะบอกว่าหนูจะทิ้งทุกอย่างเพราะหนูไม่ต้องการอะไร หนูอยากบวชชีก็จริง แต่หนูก็ไม่เคยทิ้งความโกรธแค้นไปได้เลย วันนี้หนูดีใจอย่างนึง ตรงที่หนูได้รักษาใจตัวเองได้อย่างนึง คือ หนูไม่โกรธในสิ่งที่ผ่านมาอีกแล้ว เราจะรู้ได้ด้วยตนเองว่าอะไรเป็นอะไร ในเมื่อเราไม่ได้ทำสิ่งที่ไม่ดีอย่างที่คนอื่นคิด เราก็ไม่จำเป็นต้องบังคับให้ใครเชื่ออย่างที่เราต้องการให้เค้าเชื่อให้เค้าเข้าใจ หนูขอบคุณอาจารย์อีกครั้งนึงน่ะค่ะ ที่ให้คำปรึกษาและให้กำลังใจ ดีใจค่ะที่ได้ระบายไปบ้าง ก็หนูคิดคำถามอะไรก็ไม่รู้แปลก ๆ ถามตัวเอง แล้วก็ตอบเองอยู่แบบนี้ หลายครั้งแล้ว คุยกับพี่สาวเค้าก็ไม่เข้าใจ เพราะพี่สาวชอบดูทีวีมากกว่า อาจารย์อย่าเพิ่งเบื่อหนูน่ะค่ะ มีเพื่อนหนูคนนึงเมื่อก่อนก็คุยกับหนูดี ๆ นี่แหละ แต่เค้าบอกว่าหนูพูดจาไม่รู้เรื่อง เค้าก็บอกว่าหนูไม่ได้เป็นโรคจิตหรอก แต่เป็นโรคคิดมาก หนูก็เชื่ออย่างนั้นน่ะค่ะ แต่หนูก็ไม่รู้จะทำยังไง หนูไม่รู้ว่าทำไมหนูถึงได้เปลี่ยนไปอย่างนี้ สมองหนูมันคิดๆๆๆๆ อย่างขณะที่หนูกำลังพิมพ์ข้อความนี้เพื่อเล่าเหตุการณ์ของวันนี้ให้อาจารย์ฟัง ในหัวหนูมันก็ได้ยินหรือคิดก็ไม่รู้ว่า คนเราต้องอยู่ด้วยความรัก หนูก็เลยถามต่อไปว่า แล้วทำไมเมื่อกี้หรือตลอดเวลาเราจำที่ในหนังสือสวดมนต์ได้ว่า ความพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์ แล้วหนูก็ตอบตัวเองอีกว่า ก็นั่นแหละ คนเราต้องอยู่ด้วยรักแต่ไม่ผูกพัน ความรักทำให้โลกนี้สงบสุข ที่มันไม่สงบสุขเพราะคนมันไม่รักกัน ความผูกพันต่างหากที่ทำให้เป็นทุกข์ ความรักคือสิ่งที่ดีงาม รักตัวเองก็ทำให้ตัวเองดีงาม รักคนอื่นก็ปรารถนาให้คนอื่นได้ดีงาม แต่เมื่อใดก็ตามที่เราปล่อยให้ความผูกพันเข้ามามันก็จะทำให้เกิดทุกข์ขึ้นทันที หรือที่เค้าเรียกว่าตัวกู ของกู นั่นแหละ อาจารย์ค่ะหากหนูมีเรื่องอะไรก็จะมาเล่าให้อาจารย์ฟังอีกน่ะค่ะ ไม่รู้ว่าอาจารย์จะเบื่อรึเปล่า ขอบคุณน่ะค่ะ

เมื่อกี้หนูได้เข้าไปอ่านบันทึกเรื่องอื่น ๆ ของอาจารย์ หลังจากที่หนูได้เจอบันทึก กำเนิดของพระพิฆเนศนี้และปรึกษาอาจารย์มาตลอด วันนี้หนูรู้สึกดีเลยเข้าไปอ่านบันทึกอื่นของอาจารย์ดูบ้าง หนูเข้าไปอ่านขันติพโล ขอบคุณอาจารย์น่ะค่ะที่ยังเผื่อแผ่กำลังใจให้กับคนอื่นที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ยังไงหนูก็ขอให้ชีวิตของอาจารย์และครอบครัวทั้งภรรยาและลูก เจอแต่สิ่งที่ดี ๆ และขอให้ลูก ๆ ของอาจารย์เป็นคนดีเชื่อฟังพ่อแม่ ขอให้ครอบครัวของอาจารย์ได้ประสบโชคลาภและมีชัยในครอบครัวน่ะค่ะ เป็นกำลังใจให้อาจารย์และครอบครัวเหมือนกันค่ะ

ยินดีด้วยอย่างยิ่งน้องพี่ ปัญหา อุปสรรคทั้งหลายคือทุกข์ มาจากเหตุ ที่แท้คือความไม่สบายใจ เอาใจและจิตไปยึดติด ถ้าตัดห้วงของจิตที่เป็นอกุศลได้สิ่งที่เกิดขึ้นก็จะหายไปเอง ทำอย่างไรจึงจะหยุดความคิดวิตกกังวลได้ ศัตรูของน้องคือห้วงลึกของจิตที่เป็นความวิตกกังวล จึงทำให้เกิดมโนภาพต่างๆขึ้นตามกรรมที่คอยตามเรามา

...ถูกแล้วที่ทำบุญมาก ๆ บุญก็เหมือนน้ำดีที่เทเข้าไปไล่น้ำเสีย...ทำบุญมาก ๆ ก็จะได้น้ำดีมาก ๆ ...ถ้าไม่ทำบุญเลย น้ำดีก็ไม่มีไปขับถ่ายน้ำเสียที่มีอยู่ นับวันน้ำเสียก็จะเน่าเหม็นมากขึ้นๆ พี่ไม่เบื่อที่จะได้เป็นคนช่วยเหลือด้วยจิตที่เป็นกุศล ได้บุญอย่างมีความสุข บุญชั้นต้นคือการทำทาน สูงขึ้นคือถือศีล และสูงสุดคือ ภาวนา

 

สวัสดีค่ะอาจารย์ เมื่อคืนหนูนอนหลับสบายเลยค่ะ พอเมื่อเช้าตื่นมาก็ไม่เห็นภาพอะไรเลย ไม่ได้ยินอะไรด้วย เมื่อเช้าหนูเลยตื่นมาออกกำลังกายฮูล่าฮูก ทำได้ตั้งครึ่งชั่วโมงเลยค่ะ อยากให้เป็นอย่างนี้ทุกวันค่ะ รู้สึกสมองมันปลอดโปร่งดีจังเลย หนูดีใจมากเลยค่ะที่ได้คุยกับอาจารย์ ขอให้อาจารย์และครอบครัวมีความสุขมีชัยน่ะค่ะ

อาจารย์ค่ะ ไม่มีใครอยากเป็นโรคจิตหรอกใช่มั้ย หนูก็ไม่อยากเป็นเหมือนกัน แต่หนูอาการดีได้แค่วันเดียว เมื่อกี้หนูเข้าห้องน้ำที่ทำงาน หนูได้ยินจำไม่ค่อยได้ค่ะ รุ้สึกว่าจะ เวสสุวัน เวสสุวันอะไรนี่แหละ แล้วหนูกระพริบตา เห็นตัวอะไรมันน่ากลัวหน้ามันน่ากลัว หนูก็เลยรีบล้างหน้า พอกระพริบตาหนูก็เห็นผู้ชายนอนอยู่ในแปลอ่านหนังสือ ตอนนี้หนูกระพริบตาแทบไม่ได้เลยค่ะ เมื่อก่อนหนูไม่เห็นเป็นอย่างนี้เลย มันจะมีเหตุผลอย่างอื่นได้เหรอค่ะนอกจากหนูต้องป่วยแน่ ๆ ทั้ง ๆ ที่หนูก็บอกว่าอย่ากลัวมัน แต่จริง ๆ แล้วหนูก็กลัวอยู่ดี พรุ่งนี้หนูจะคอยน้าให้น้าช่วยพูดกับแม่และทุกคนในบ้าน เล่าให้เค้าฟังว่าหนูยังไม่หายป่วย หนูยังเป็นอยู่แบบนี้ ดีได้วันเดียวหนูก็เป็นอีก หนูว่าหนูก็ไม่ได้โกรธกับเรื่องเก่า ๆ แล้วน่ะค่ะ เมื่อเช้าก็ยังดีอยู่เลย หนูคิดว่าหนูต้องกินยาค่ะ ใครจะว่ายังไงก็ช่างวันศุกร์นี้หนูจะให้พี่สาวพาหนูไปหาหมอเสริมศักดิ์ที่มอ.อีกครั้งหนูจะเล่าให้หมอฟังแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่รู้ตัวว่าหนูจะต้องกลายเป็นผู้ป่วยโรคจิตอีกก็ไม่เป็นไร หนูจะลองกินยาอีกครั้ง เพราะเมื่อก่อนหนูคิดว่าอาจจะเป็นเรื่องผี แต่หนูก็ทำให้ทุกอย่างบอก บอกทุกเรื่องกับทุกคนแล้วและหนูก็อโหสิให้กับเหตุการณ์ทั้งหมด หนูไม่โกรธใครแล้วจริง ๆ หนูไม่โกรธแล้วน่ะค่ะ แต่วันนี้ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ บางทีพ่อแม่และญาติ ๆ ควรรับความจริงบ้างน่ะค่ะที่หนูป่วยเป็นโรคจิต คนอื่นเค้าก็เป็นกัน หนูต้องรักษาค่ะอาจารย์ หนูขอบคุณอาจารย์มากน่ะค่ะ ไว้หนูหาหมอแล้วเป็นยังไงจะส่งข่าวให้อาจารย์น่ะค่ะ

yaimod น่ะค่ะอาจารย์ หนูชื่อมนัสนันท์ ชื่อเล่นว่ากอ หนูขอใช้ชื่อหนูน่ะค่ะ กอน่ะค่ะอาจารย์ กอกำลังร้องไห้โดยไม่มีน้ำตาให้ใครเห็นเลย ตอนนี้กอกำลังร้อง เพราะตอนก่อนหน้านี้กอเขียนถึงอาจารย์ตอนสี่โมงเย็น หลังจากนั้นกอก็ปิดเครื่องกลับบ้าน ก่อนหน้ากอจะขึ้นรถกลับบ้าน กอเห็นหนังสือเล่มนึงในตา กระพริบตาอีกก็เห็นอีก พอกลับมาถึงบ้านก็ไม่เห็นอะไร กินข้าวเสร็จก็กำลังจะพูดกับพี่สาวเรื่องที่กอจะไปหาหมอในวันศุกร์นี้ กอปวดหัวข้างขวาตรงจุดเดิม แล้วปากกอก็กระตุก แล้วกอก็มาเปิดgotoknow กอเห็นหนังสือนั้นมันอยู่ใน gotoknow เค้าว่าพระไตรปิฏก ตอนที่กอเห็นหนังสือในตามันเป็นอย่างนี้จริง ๆ สีนี้แต่กอเห็นไม่ชัด พอกอเห็นกอก็รีบเปิดตา พอกอกระพริบตาแล้วกอเห็นอีกกอก็รีบส่ายหัว อะไรๆๆๆๆทำไมเป็นบ้าอะไรอีก เมื่อวานก็ดี ๆ เมื่อตอนเช้าก็ดี ๆ อยู่ แต่กอบอกตัวเองว่าใจเย็น ๆ ไม่ต้องไปกลัวมัน เมื่อตอนปี 49 กอก็เป็นแบบนี้กลัวมันจนขาดสติทำให้กอไม่สามารถทำงานได้ กอต้องไม่กลับไปเป็นอย่างนั้นอีก ใจเย็น ๆ กอ กอบอกตัวเองอย่างนี้ค่ะอาจารย์ กอกลับไปดูหนังสือเล่มนั้นว่าจะคลิกดูรายละเอียดแต่ไม่เอาดีกว่า กอไม่อยากยุ่งกับมัน กอได้แต่นับว่ามันกี่เล่ม และก็ดูเวลา มันหลังจากที่กอเห็นรึเปล่า วันก่อนกอบอกอาจารย์ว่ากอเห็นภาพที่อาจารย์ให้ในบันทึกนี้ แล้ววันนี้กอจะบอกว่ากอเห็นภาพหนังสือนี้ก่อนที่มันจะมีในgotoknow อย่างนั้นเหรอค่ะ กอมันบ้าไปแล้วกอจะไปบอกหมออย่างนี้เหรอค่ะ กอติดต่อกับอาจารย์มากี่วันแล้วค่ะ นี่คืออาการที่กอเป็นมาตลอด 2 ปีและที่กอทรมานเพราะแบบนี้ค่ะอาจารย์กอไม่ชอบมันกอไม่ชอบอาการแบบนี้ กอก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร กอไม่ได้โกรธใครแล้วจริง ๆ กอก็พยายามทำใจแล้วว่าคนอื่นไม่เห็นกอเห็นก็ไม่เป็นไร คนอื่นไม่เป็นกอเป็นก็ไม่เป็นไร แต่กอรู้สึกว่ามันไม่ดีเลยที่กอมีความสุขได้เพียงแค่เมื่อวาน หรือหลาย ๆ ครั้งที่กอสมองปลอดโปร่งได้ไม่กี่วัน คิดว่าน่าจะหายแล้วแต่มันก็เป็นอีก วันนี้ที่ทำงานเค้าไปทำธุระข้างนอกกันหลายคน มีคนอยู่สำนักงานไม่กี่คน วันนี้กอทำงานพิมพ์เอกสารฉบับเดียว แล้วก็ถ่ายเอกสาร ชวนพี่เค้ามากินมะม่วงน้ำปลาหวาน กอจะบอกว่ากอเหนื่อยจนเห็นภาพหลอนมันก็ไม่น่าจะใช้ แต่ภาพหลอนนี้มันเหมือนภาพที่มันมีใครตั้งใจให้กอเห็นอย่างนั้นแหละ มันหลายครั้งแล้ว มันหลายครั้งจนกอนับไม่ถ้วน และรับไม่ไหวแล้วค่ะอาจารย์ กอก็กลับมาคิดอีกหรือว่ากอไม่ได้บ้า กอเป็นอยู่แบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ใครต่อใครบอกว่ากอไม่ได้บ้า แต่กอกอบอกตัวเองว่ากอเป็นโรคจิต แต่พอกอเจอเหตุการณ์แบบนี้ทำไมเราเป็นโรคจิตแล้วเราเห็นภาพที่มันมีจริง กอก็มาคิดอีกว่าหรือว่าเราไม่ได้บ้า กอเลยไม่ได้รักษากินยาเลยสักที เพราะกอก็รู้อยู่ว่าฤทธิ์ยาของคนป่วยโรคจิตมันเป็นยังไงหลังจากที่กอเคยกินมาแล้วช่วงนั้น มันได้แต่นอนหลับ กออยากทำงานไม่อยากเซื่องซึมเหมือนตอนกินยาตอนนั้นอีก กอจะรักษาทางด้านผีนี้ยังไงดีค่ะ ใช่แล้วค่ะอาจารย์วันก่อนกอถามอาจารย์เรื่องสวดภาณยักษ์ตามที่เพื่อนกอแนะนำ อาจารย์ยังไม่ได้ตอบกอมาเลย กอลองไปทำได้มั้ยค่ะ กอรอฟังคำตอบจากอาจารย์น่ะค่ะ กอว่ามันน่าจะเป็นผีที่มันเค้าเรียกว่าอะไรค่ะอาจารย์ อาจจะเป็นผีที่มีอะไรกอก็เรียกไม่ถูก ที่มีตะบะหรือแข็งแรงรึเปล่า กอถึงทำอะไรมันไม่ได้ อาจารย์ช่วยกอด้วยน่ะ

กอลืมบอกอาจารย์ไปค่ะ วันก่อนหลังจากกอแสดงความคิดเห็นในบันทึกนี้ครั้งแรก และกอก็ส่งเมล์ให้อาจารย์ หลังจากนั้นกอมาเห็นอาจารย์แสดงความคิดเห็นในบันทึกกอ กอเลยกลับมาดูบันทึกนี้ของอาจารย์ แล้วกอก็ตัดสินใจติดต่อกับอาจารย์ทางบันทึกนี้แทนทางเมล์ เพราะกอคิดว่าเผื่อมีใครเข้ามาได้อ่านบันทึกนี้ และเชื่อว่าที่กอเขียนไปกอไม่ได้แกล้งทำหรือโกหก หากเค้ารู้วิธีรักษาไม่ว่าจะเป็นแบบไหน กอก็อยากจะรักษา กอไม่กลัวที่ใครจะบอกว่ากอป่วยเป็นโรคจิตเลย กออยากได้หมอที่เข้าใจในเรื่องของสมองกออาจจะเป็นอะไรหรือโรคอะไรที่มันละเอียดอ่อนทางด้านสมองก็ได้ หรือหากเป็นเรื่องของผีกอก็ยอมเชื่อก็ได้ว่าผีมีจริง ตอนนี้ก็เชื่อก็ได้ค่ะอาจารย์ว่าผีมันมีจริง กอจะไปเข้าพิธีสวดภาณยักษ์ที่ไหนได้บ้างที่มันไม่ใช่การหลอกลวง เพราะเพื่อนบางคนก็บอกว่ามันก็เป็นวิธีที่เค้าก็ไม่อยากให้ทำ เพราะบางทีเป็นของไม่จริง มันจะมีพวกของไม่ดีเข้าตัวเราได้ กอก็เลยไม่แน่ใจว่าจะไปที่หาดใหญ่ดีมั้ย หากใครได้อ่านบันทึกนี้ตอนนี้กออยากให้ช่วยเหลือกอด้วยค่ะ

การเข้าพิธีสวดภาณยักษ์ ใช้ อาฎานาฏิยสูตร เชื่อว่ามีความศักดิ์ศิทธิ์มาก ๆ คนบางคนมีพวกผี พวกยักษ์ ที่เป็นมิจฉาทิธิคอยตามประดุจเทวดาประจำตัว ไปฟังสวดภาณักษ์แล้วพวกผีเหล่านั้นจะไปทันที ตามพระสูตร กล่าวคือท้าวเวสสุวรรณและยักษ์ชั้นสูง จะขับไล่ไม่ให้เข้าพวก ให้เสียชื่อยักษ์ ด้วยเหตุนี้จึกต้องดิ้นกระแด่ว ๆ กันบ้าง .............ปัจจุบันหาพิธีการที่ศักดิ์สิทธิ์ยาก เพราะผู้นำพิธีการ ไม่มีศีล มีการแอบแฝง เอาผลประโยชน์ทางการค้ามาหลอกลวงประชาชน ให้สังเกตุดู   จะมีทีมงานมาทำกันเป็นชุด ทั้งพระทั้งลูกศิษย์ มีทีมงานปฏิบัติการเป็นจุดๆ ทำกันอย่างเป็นระบบ จัดวัตถุมงคลและเครื่องเซ่นบูชาไว้หลอกขาย .... ไปกราบไหว้หลวงพ่อจรัญ ดีกว่า ,,,,,,,ที่มีอาการ แปลกๆ อาจเป็น 1. เจ้ากรรม นายเวร 2. อาการทางจิต    ,,,,,,   ทำจิตให้มั่น  เข้มแข็งนั่งสมาธิ ไม่ต้องกลัว หรอก ครับ นั่งแล้ว จะมี เทวดา สิ่ง ศักดิ์สิทย์ มา คุ้ม ครอง และ อย่าลืม นั่ง เสร็จแล้ว แผ่ ส่วนกุศลด้วยนะครับ ถ้าแผ่เมตตา บ่อยๆ หลัง นั่งสมาธิ กระแสจิตจากเราจะเป็นกุศล ให้ความเย็น เสริมบารมีเป็นที่รัก ของ มนุษย์ และ เทวดา กายทิพย์ต่างๆ ตอนหลัง พอนั่ง ปั้บ ไม่ต้องเรียกเลย มาเอง เลย มาคุ้มครอง ต่อสู้กับมารในตัวเองน๊ะ น้อง กอ สู้ๆ.... ยิ้มกับตัวเองซิ ต่อไปนี้ขอเรียก อังกอ น๊ะ ไม่ใช่ กอเอ๋ยกอไก่

 

 

 

สวัสดีค่ะอาจารย์ หนูอ่านที่อาจารย์บอกมาแล้ว ไม่ค่อยจะเข้าใจแต่จับใจความได้ว่าไปหาหลวงพ่อจรัญดีกว่า อย่าไปสวดภาณยักษ์ใช่มั้ยค่ะ เมื่อวานหลังจากที่หนูเขียนถึงอาจารย์ หนูก็นอนหลับตอนเช้าตื่นมาก็ไม่มีอะไร หนูจะดูอาการแล้วจะปรึกษาน้า แล้วจะโทรไปหาพี่หน่องที่กรุงเทพ พี่เค้าเคยฟังซีดีหลวงพ่อจรัญ และบอกว่าท่านดีและเก่งมาก ให้ซีดีกอมาฟังที่บ้านด้วย กอเปิดอยู่ ประมาณ 3 คน เปิดทุกวันเลยค่ะ แล้วก็ตื่นมาปิดตอนเช้า เพราะหลับไปก่อนทุกที เดี๋ยวคืนนี้จะลองกลับไปตั้งใจฟังค่ะแล้วจะนั่งสมาธิทำจิตใจให้สงบไม่ฟุ้งซ่าน หลังจากนั้นกอจะติดต่อไปหาพี่หน่องให้พี่หน่องช่วยพาไปหาหลวงพ่อจรัญ ไม่รู้ว่าท่านจะมีเวลาให้เรามั้ย รู้มาว่าท่านเก่งมาก แล้วท่านจะมีเวลาให้หนูรึเปล่า แล้วหนูก็ต้องเล่าเรื่องนี้ให้พี่หน่องฟังอีก จริง ๆ แล้วหนูก็ไม่อยากรบกวนพี่เค้าเลยค่ะ แต่หนูคิดว่าหลวงพ่อจรัญท่านจะต้องดูรู้ว่าหนูเป็นโรคอะไรป่วยหรือไม่ป่วย หรือว่ามีผีรึเปล่า หรือว่าหนูไปทำอะไรผิดไว้ ยังไงหนูก็จะพยายามหาเวลาไปหาหลวงพ่อจรัญให้ได้ก่อนดีกว่า ขอบคุณอาจารย์ค่ะ อาจารย์เรียกหนูว่าอังกอก็ได้ค่ะ ตอนที่หนูบวชชีอาจารย์รู้มั้ยค่ะ หนูกลัวแม่ชีเค้าจะเรียกหนูว่าชีกอค่ะ รับไม่ได้จริง ๆ เลยคำนี้ อาจารย์เรียกหนูว่าอังกอก็ได้เจ้าค่ะ ขอบคุณอาจารย์น่ะค่ะที่ให้หนูได้ระบายไปบ้าง คนที่นี่เค้าบอกว่าดี ๆๆๆๆ แต่ไม่รู้ว่ามันดียังไง บอกใครเค้าเค้าก็ว่าดี หนูก็ไม่ได้บ้าจนไม่มีสติยังไงหนูก็ต้องเจอคนที่เค้ารู้และรักษาหนูได้สักวันนึงน่ะค่ะ

สู้ น้องอังกอ ติดต่อพี่ได้ตลอดเวลาไม่ต้องเกรงใจ ขอเพียง อังกอ มีอาการดีขึ้น และหายเป็นปกติ พี่จะสวดมนต์ ภาวนาให้ ..... อย่าลืม ทำความดี กับผู้ให้กำเนิด เป็นกุศลที่สูงสุด

ตอนนี้กออยากไปหาหลวงพ่อจรัญมากเลยค่ะ กี่วันแล้วค่ะที่กอไม่มีอาการอะไร ความจริงกอจะพูดไปทำไมอีก วันนี้มันก็เวียนมาที่เดิมอีก กอไม่เข้าใจมันเลย บาปที่กอทำไว้มันมากขนาดไหนเหรอค่ะ กอทำเหมือนที่อาจารย์แนะนำแล้ว ทุกเช้าและตอนก่อนนอน กอจะหลับตา นั่งสมาธิ ประมาณ 5 นาที เสร็จแล้วกอก็กรวดน้ำ ด้วยบุญกรรมข้าพเจ้าได้ทำ ด้วยการวาจาฯ เสร็จแล้วก็แผ่เมตตาให้ กอบอกว่า วันนี้ลูกได้ทำความดีอะไรลูกขอให้พวกท่านมารับส่วนบุญนี้ด้วยเถอะ อย่าได้จองเวรลูกเลย กอทำแบบนี้มา 5 วันแล้ว วันนี้กอก็ตื่นเช้าและกราบพระ 3 ครั้ง กำลังจะหลับตา กอก็หัวสั่นมาก กอจะหยุดก็หยุดไม่ได้ กอเห็นตัวอะไร กอเข้าใจว่ามันเหมือนตัว กอไม่แน่ใจ มันเหมือน ยักษ์หรือลิง ตัวสีขาว มันเหมือนกับตัวโขนตัวนึงที่เค้าเรียกว่าหนุมาน พอกอเห็นแบบนั้น กอเห็นมันมีไฟในกำมือมันทั้งสอง และโยนไฟเล่นสลับไปมา พอภาพหายไป กอได้ยิน ปิยวาจา กอเข้าใจว่าวาจาแปลว่าพูด ปิยวาจา แปลว่าพูดอะไรไม่รู้ กอขี้เกียจไปหาแล้วค่ะอาจารย์ วันนี้กอรู้สึกชา ๆ เหมือนกับกอท้อยังไงบอกไม่ถูกเลย ผ่านมาได้ 5 วันแล้ว วันนี้กอกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก

อาจารย์บอกสู้ ๆ น้องอังกอ กอจะสู้ให้ได้และจะไปหาหลวงพ่อจรัญให้ได้สักวันนึง กอไม่ร้องไห้แล้วน่ะอาจารย์ กอเหนื่อยและไม่อยากจะคิดอะไร มันหัวสั่นเองมันก็หยุดเอง เราสั่งให้มันหยุดมันก็ไม่หยุด เวลาเราบอกว่าสั่นสิ มันก็ไม่สั่น สรุปว่ากอไม่ต้องทำอะไร กอจะไม่กรวดน้ำ หรือแผ่เมตตาให้ใครอีก

ตอนแรกนึกว่า อ่านผิด หรือ อจ.เขึยนผิด ..

ตรงที่ว่า พระวิฆเนศวร เพราะจะคุ้นกับคำว่า พระพิฆเนศวร มากกว่าค่ะ..

:)

อาจาย์ todsapol วันนี้อยู่ ๆ กอก็ปวดหัวจี๊ดด้านขวาตรงจุดเดิมอีกแล้ว แล้วก็เห็นหน้าเชาวลิตอีกแล้ว ไม่รู้ทำไม เมื่อก่อนประมาณสองเดือนได้แล้วมั้ง ที่กอเห็นหน้าเชาวลิตประมาณสัก 2 ครั้ง แล้วกอก็บอกน้าเก๋ ส่งข้อความไปบอกน้าเก๋ อีกครั้งนึงกอก็เมล์ไปบอกอาจารย์ กอว่ากอต้องคิดมากไปเองมั้ยน่ะ เมื่อสองวันที่แล้ว กอเห็นเชาวลิตออกทีวี เค้าว่ามาเป็นรัฐมนตรี มันคงบังเอิญมากกว่าน่ะค่ะอาจารย์ กอเป็นอยู่แบบนี้ค่ะอาจารย์ เมื่อไหร่จะหายสักทีน่ะ ปวดหัวข้างขวามากเลยวันนี้ เหมือนเข็มแทงอีกแล้วล่ะ คิดว่าไปตักบาตรมาสองวันแล้วจะหายขึ้นบ้าง แต่มันก็อาการดีกว่าก่อนมากค่ะ กอคิดว่าจะพยายามตักบาตรทุกวันค่ะ แต่วันนี้ไม่มีอาการอย่างอื่นเลยนอกจากปวดหัวขวาเหมือนเข็มแทง จี๊ด ๆๆ ไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วค่ะ คิดว่ายอมทำทุกทางแล้วน่ะ แต่ทำไมหรือกอไปทำผิดอะไรไว้จริง ๆ น่ะ กอไม่รู้ตัวเลยน่ะค่ะ ว่ากอไปทำอะไรผิด ตรวจสมองเค้าก็ว่ากอไม่เป็นอะไร กินยาไมเกรนก็กินไม่ได้ ใจสั่น และอาเจียน เฮ้อ เขียนได้แค่นี้ก่อนน่ะค่ะ ปวดหัวมาก ๆ

ตามไปดูผลงานในบล๊อก

รูปสวยมากค่ะ

เปงรูปที่ชอบที่สุดกนะค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท