ผู้หมั่นเสมอ ย่อมมีโอกาสสำเร็จ


ผู้หมั่นเสมอ ย่อมมีโอกาสสำเร็จ

                                ผู้หมั่นเสมอ ย่อมมีโอกาสสำเร็จ

                 ช่วงนี้ใกล้วันสมัครรับตรงเข้ามหาวิทยาลัยต่างๆ ของเด็กที่กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.6 ทั่วประเทศ   เป็นช่วงที่นักเรียน ม.6 ต่างเตรียมตัวนำผลการเรียนของตนมาคิดว่าเกรดเฉลี่ยแค่นี้...จะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยไหนดี .. คณะไหนดี ....  เรียนตามที่ตัวเองชอบดีไหม.... ดี  แล้วถ้าเรียนคณะที่กำลังขาดแคลน หรือหน่วยงาน ต้องการมากกว่าคณะที่ชอบดีไหม....  ก็ดีใหญ่  ...โอกาสตกงานน้อยหน่อย เรียกว่าตลาดต้องการ  หากเรียนคณะที่ชอบ... คนจบมามาก ไม่เก่งพอ คู่แข่งก็มีมากขึ้น      หลายคนขนขวายหาที่เรียนพิเศษติวเข้มเพื่อหวังผลมหาวิทยาลัยดังๆที่ต้องการ     แต่ก็มีบางคนไม่สนใจเรียนตรงไหนก็ได้ที่ใช้เงินน้อย  อยู่ใกล้บ้านเหมือนเด็ก ม.6 หลายคนที่โรงเรียนบ้านกร่างวิทยาคม   ซึ่งน่าเสียดายความรู้ความสามารถที่น่าจะไปได้ไกลกว่านี้      อย่างไรก็ตามชีวิตคนเราไม่ได้ผูกไว้กับมหาวิทยาลัยที่เราคาดหวังเท่านั้น   หากผิดหวังไม่ได้ตามตั้งใจ  มหาวิทยาลัยอื่นๆยังมีรองรับอีกมาก  ศักดิ์ศรีเท่ากัน  คนบางคนจบมหาวิทยาลัยดังๆระดับปริญญาโท มีมากมายชีวิตการทำงานไม่ประสบผลสำเร็จ  ทำงานไม่สมกับจบจากมหาวิทยาลัยดังๆแห่งนั้นเลยก็มี   มหาวิทยาลัยดังๆจึงไม่ใช่ตัวบ่งชี้ความสำเร็จของคนที่จบมาเสมอไป   คนที่เรียนสายอาชีพประสบผลสำเร็จในชีวิต  หรือคนที่จบแค่ ม.6 ออกมาทำงานศึกษามหาวิทยาลัยชีวิต ร่ำรวยเป็นเถ้าแก่ใหญ่ก็มากมาย   ขึ้นอยู่กับว่าคุณมุ่งมั่น ตั้งใจแค่ไหนไม่มีคำว่าสายเกินไป ดั่งคำกล่าวที่ว่า ผู้หมั่นเสมอย่อมมีโอกาสสำเร็จ 

               ผู้เขียนมีบุตรสาวแฝดสองคน ช่วงนี้ก็กำลังเลือกคณะที่สนใจ  ก็ได้แต่บอกว่าตามถนัด  ดูกำลังว่าสอบได้แล้วมีความอดทนแค่ไหน  เรียนไหวไหม  จบออกมาแล้วงานหายากหรือง่าย  อย่าเรียนแค่ชอบ  เรียนตามเพื่อน   เพราะหลายคนเรียนจบปริญญาตรีตกงานมากขึ้นทุกวัน  พ่อแม่มีสตางค์หน่อยก็ส่งลูกเรียนจนจบด็อกเตอร์เลยแน่นอนกว่า งานก็หาง่ายขึ้น  อาชีพสุจริตมีมากมายเลือกว่าจบมาจะทำอาชีพอะไร เป็นพ่อค้าแม่ค้าก็สบายเป็นนายตัวเอง  หยุดขายก็ไม่ได้เงิน  ขายวันหยุดวัน ลูกค้าก็หนีหมด   เป็นข้าราชการก็ยากขึ้นคนสอบกันมาก   ทำงานเป็นลูกจ้างเอกชน ร้านค้า เขาก็ใช้คุ้มกับเงินเดือน  ลองคิดดูว่าอยากมีอาชีพอะไร  ไม่มีอาชีพอะไรสบายทุกอย่างหรอก    ยิ่งบางคนไม่มีอาชีพให้พ่อแม่เลี้ยงดูเพราะอ้างว่า พ่อข้ารวย แม่ข้ารวย เลี้ยงได้ไม่ต้องทำงาน ก็ถือว่าเป็นบุญของคุณ  ไม่มีพ่อแม่คนไหนเลี้ยงคุณจนตายหรอกนะ   (ยกเว้นพ่อแม่ที่รวยใช้ชาตินี้ไม่หมดก็ถือว่าคุณทำบุญมาดี)

              คนเป็นพ่อเป็นแม่มีกังวลทั้งนั้น เริ่มตั้งแต่ลูกคลอด จะครบสามสิบสองไหม ( อวัยวะ) ออกมาแล้วเลี้ยงยากไหม  โตหน่อยจะพูดเมื่อไหร่หนอ  พูดได้เดินได้ หาโรงเรียนดีๆให้ จนจบ ม.3 เรียนต่อสายไหนดีวางแผนให้ จนจบ ม.6 ลูกจะเอ็นเข้ามหาวิทยาลัยได้ไหม  เข้าเรียนแล้วจะสำเร็จไหม  ได้ปริญญามาแล้วจะทำงานอะไรที่ไหน  จนกระทั่งสุดท้ายมีครอบครัว  นี่แหละความห่วงใยของคนเป็นพ่อแม่  ใครที่เป็นลูกก็คิดให้ดี  ตั้งใจให้สำเร็จดั่งตั้งใจให้พ่อแม่ได้ชื่นใจ       พลาดโอกาสสอบมหาวิทยาลัยนี้ไม่ได้ก็ไปเรียนมหาวิทยาลัยอื่นก็ได้อย่าคิดผิดพลาดแล้วทำร้ายตนเอง  หรือเสียอกเสียใจประชดชีวิต  ทำตัวเหลวไหล  โอกาสแก้ไขตัวยังมี  ไม่มีพ่อแม่คนไหนซ้ำเติมลูก  มีแต่ให้กำลังใจ.....ดูตัวอย่างความพยามยามของ  สมจิตร  นักมวยเหรียญทองโอลิมปิค ที่รอคอยมา 12 ปีเต็มๆ เพื่อคว้าเหรียญทองให้กับตัวเองและชาติไทย.....  

คลิกๆ glitter สำหรับ hi5 มีอีกเพียบ ,วันแม่

หมายเลขบันทึก: 203673เขียนเมื่อ 26 สิงหาคม 2008 22:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 15:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท