เครือข่ายผู้ปกครองที่เข้มแข็ง
วันนี้เข้าร่วมประชุมสร้างความเข้มแข็งในฐานะตัวแทนครู ซึ่งมีตัวแทนเครือข่ายผู้ปกครองของแต่ละโรงเรียน ตัวแทนกรรมการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื่นที่การศึกษาพิษณุโลก เขต 1 เข้าร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้นำแต่ละหน่วยงานมีทั้ง ผู้อำนวยการเขตท่านเทียนชัย จูเจี่ย ผู้อำนวยการสถานพินิจ ท่านวัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก นักจิตวิทยา อาจารย์วิทยาลัยเทคนิค และรอง ผบก.ภ.จว.แพร่ พ.ต.อ.วีระสมพร อยู่ศรีสกุล โดยได้ร่วมกันแชร์ประสบการณ์ของแต่ละคนที่มีความรู้ รู้เท่าทันที่จะร่วมกันแก้ไขนักเรียน บุตรหลานของสังคม ซึ่งเรียกได้ว่าสังคมบ้านเราทุกวันนี้มีแต่มลพิษ พ่อแม่ ผู้ปกครองที่หลงกระแสสังคม ไม่หันหน้าเข้าหาดูแลคนในครอบครัว ความอบอุ่นในครอบครัวไม่มี โอกาสที่บุตรหลานอาจเสียคน กลายเป็นปัญหาของสังคม เป็นความพิการที่แก้ไขยากยิ่งนัก เพราะทุกวันนี้ปัญหาต่างๆที่เกิดในสังคมล้วนเกิดจากความไม่พอเพียง ความเห็นแก่ตัว ไม่มีจิตสาธารณะ เห็นแก่ได้ของคนในสังคมที่สะสมมานานจนก่อให้เกิดความเคยชิน แล้วโทษนั้นโทษนี่ เหมือนเด็กนักเรียนที่ฆ่าแท๊กซี่แล้วอ้างว่าเลียนแบบเกมคอมพิวเตอร์เกมหนึ่ง หรือเด็กบางคนประพฤติตัวเหลวไหลเกเร อ้างว่าประชดที่ครอบครัวแตกแยกพ่อทิ้งแม่ไปนั่นก็อีก ถามหน่อยเถิดว่า คนที่ครอบครัวยากจน ครอบครัวแตกแยกหย่าร้างที่ตั้งใจเล่าเรียนจนจบออกมาทำงานหรือออกมาทำงานหาเลี้ยงครอบครัวด้วยความตั้งใจมีอีกมาก ทำไมคุณไม่เอาเขาเป็นตัวอย่างละ จริงไหม
ผู้เขียนเองยังเคยไปตามตัวเด็กในโรงเรียนที่เพื่อนๆในชั้นบอกว่าลงรถแล้วแวะร้านเกมในหมู่บ้าน 2 วันแล้ว พอวันที่ 2 เลยต้องไปตามมาเรียน เจ้าของร้านเกมคนในหมู่บ้านตอบว่า ผมถามเด็กเขาบอกว่าวันนี้ไม่มีเรียนทั้งๆที่เด็กแต่งชุดนักเรียนเข้าไปเล่น 4-5 คน ผู้เขียนไม่โต้ตอบเพราะถือว่าเด็กของเราไม่ดีเอง เลยคาดโทษและให้กลับไปเรียน ผ่านไปอีกหลายวันเจ้าตัวแสบในห้องไม่มาเรียนอีกถามเพื่อนก็บอกว่าอยู่ร้านเกม ไปตามอีกครั้งคราวนี้ทำโทษ เจ้าของร้านก็พูดทำนองว่าเด็กบอกว่าวันนี้ไม่มีเรียน แหม...ทำเหมือนมหาวิทยาลัยเลยนะวันนี้ไม่มีเรียน นี่ขนาดนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นนะ ถามว่า..ใครผิด ...เด็กผิด...เจ้าของร้านเกมผิด....พ่อแม่ผิดไม่สนใจดูแลลูกหรือ....ครูประจำชั้นผิด..ครูในโรงเรียนผิดไม่ดูแลนักเรียน.......
แต่ที่รู้ๆ...ทุกวันนี้ว่าสิ่งแวดล้อมในสังคมเรามีแต่สิ่งมอมเมาถ้าไม่รู้จักเลือกเสพ ตั้งแต่หนังละคร ดารา นักร้อง นักแสดง สถานเริงรมย์ โรงหนังโรงละคร ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า แม้แต่สถาบันการศึกษาดังๆบางแห่งที่มีลูกคนรวยไปเรียน ล้วนแต่สร้างกระแส สร้างภาพ ความเป็นอยู่ ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องประดับต้อง แบรนด์เนม การแต่งกาย การเปลี่ยนคู่ครอง การหย่าร้าง ดังนั้นหากคนในสังคมเราเข้มแข็งช่วยกันอบรมสั่งสอน อะไรดี อะไรควร ช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตา ว่าลูกใครหลานใครทำไมมาที่นี้....ลูกใครหลานใครมาเรียนแต่ไม่เรียน ร้านเกมก็เปิดให้ผู้ใช้บริการที่มองดูแล้วมาเล่นหรือมาทำงาน ( บางทีเด็กแอบเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน) แล้วไม่เห็นแก่ได้ ปัญหาการโดดเรียน เล่นเกม เสพยา เล่นพนัน ฉุดผู้หญิงไปโทรม ลักขโมย ฯลฯ คงไม่มีในสังคม และหากดารานักร้อง นักแสดง เป็นตัวอย่างที่ดีในพฤติกรรม สังคมเราคงดีขึ้นกว่านี้ ช่วยกันนะผู้ปกครอง
และที่สำคัญสุดคือคนในครอบครัวต้องดูแลเอาใจใส่บ้างอย่าเลี้ยงลูกหลานด้วยเงินเพียงอย่างเดียว ความรักความอบอุ่นเท่านั้น ( แม้ครอบครัวแตกแยก ก็ควรตั้งใจฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อสร้างครอบครัวที่ดีของตนต่อไป ) จึงจะพาให้คนในบ้านเราไปถึงจุดมุ่งหมายที่สำเร็จ ไม่หลงเดินทางผิด และไม่ก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมา
เก็นด้วยกับความคิดครับ รู้ทั้งรู้นะครับพ่อแม่ผู้ปกครองก็ยังคิดว่าเป็นที่ครู (มองไกลตัว)ที่จะกวดขัน ดูแลนักเรียน แต่ถ้ามองใกล้ตัว (ลูกเป็นผลผลิตใคร) การให้ความรักความอบอุ่นเป็นยาหม้อใหญ่ที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ลูก ๆ ได้ยินพูดกันว่าวินัยต้องเริ่มที่บ้านซึ่งเป็นสังคมเล็ก ถ้าลูก ๆ เป็นคนมีปัญญา (กรรมเก่าดี) ย่อมจะมีจิตที่ว่านอนสอนง่าย สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองได้ เมื่อออกไปสู่สังคมย่อมจะเอาตัวรอดแยกดี ไม่ดีได้ ได้แต่หวังว่า ผลบุญของแต่ละคนคงจะส่งให้ผ่านพ้นปัญหาต่าง ๆ ได้ทุกเมื่อนะครับ
ขอบคุณค่ะ ที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ถ้าพ่อแม่เป็นแบบอย่างที่ดี ไม่เสพติดของมึนเมา ไม่ติดการพนัน สวดมนต์ ไหว้พระ พาลูกหลานไปวัดทุกวันพระ สั่งสอนลูกในทางที่ดี มีหรือที่ลูกไม้จะหล่นไกลต้น จริงไหม