วันศุกร์ที่
15
สิงหาคม 2551
ผมได้รับเชิญจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)
เข้าร่วมประชุมประจำปี 2551
ภายใต้หัวข้อ “วิสัยทัศน์ประเทศไทย...สู่ปี
2570”
ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
นายกรัฐมนตรี(นายสมัคร
สุนทรเวช)
เป็นประธานเปิดประชุมและแสดงปาฐกถาพิเศษเรื่อง “วิสัยทัศน์ประเทศไทยในมุมมองของรัฐบาล”
ท่านใช้เวลาพูดเกินเวลาไปครึ่งชั่วโมงกว่า
ส่วนใหญ่ท่านจะเล่าความหลังและแสดงวิสัยทัศน์ของท่านเกี่ยวกับการคมนาคมใน
กทม.และปริมณฑล
หลังเบรค(11
โมงกว่า)เป็นการนำเสนอภาพรวมของงานนี้ โดย ดร.อำพน
กิตติอำพน(เลขาธิการ สศช.) ท่านเล่าสรุปว่า
ประเทศเราใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติขับเคลื่อนมาฉบับละ
5
ปี จนถึงฉบับที่ 10
ในปัจจุบัน
ประเทศมาเลเซียเขามีวิสัยทัศน์ใน20
ปีข้างหน้าว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ดร.ป๋วย
เคยให้แนวคิดเรื่องการกำหนดวิสัยทัศน์ในบ้านเราไว้ ในปี
2519
แต่ก็ไม่ได้รับการสานต่อ จน พ.ศ. 2540
ศ.ดร.สิปนนท์
เกตุทัต
ได้นำจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “ร่วมสร้างวิสัยทัศน์ประเทศไทยสู่
พ.ศ. 2560”
ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการสร้างวิสัยทัศน์ของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ซึ่งผลการประชุมครั้งนั้น
เราได้แนวคิดในการจัดทำแผนฯ 9
และ แผนฯ 10
ในระยะต่อมา
โดยแผนฯ 9(2545-2549)
ได้อัญเชิญปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวปฏิบัตินำทาง
ควบคู่กับการพัฒนาคนต่อจากแผนฯ 8
และแผนฯ 9
ได้กำหนดวิสัยทัศน์สังคมไทยมุ่งสู่ “สังคมที่เข้มแข็งและมีดุลยภาพ”
พอมาถึง แผนฯ 10(2550-2554)
ก็ยังอัญเชิญปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวปฏิบัติ
และกำหนดวิสัยทัศน์ว่า “สังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน”
การจัดประชุมประจำปี 2551
ก็มุ่งให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ประเทศไทย...สู่ปี
2570
ในอีก 20
ปีข้างหน้า
โดยมีประเด็นพิจารณา 4
ประเด็นคือ
1.
การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้พึ่งตนเองและแข่งขันได้ในสังคมโลก
2.
การปรับโครงสร้างทางสังคมให้เข้มแข็งและยั่งยืน
3.
การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
4.
การบริหารจัดการที่ดีสู่ความเป็นธรรมของการพัฒนาประเทศ
หลังจากนั้นก็ได้มีการอภิปรายเรื่อง “วิสัยทัศน์ประเทศไทย...สู่ปี
2570”
ดำเนินการอภิปรายโดย
ดร.พนัส สิมะเสถียร(ประธานกรรมการ
สศช.)
ผู้อภิปรายมี ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย(องคมนตรี) นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี(รองนายกฯและ
รมว.คลัง)
นายโฆษิต
ปั้นเปี่ยมรัษฎ์(ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพฯ)
และนายประมนต์
สุธีวงศ์(ประธานกรรมการสภาหอการค้าฯ)
ซึ่งสาระการอภิปรายของแต่ละท่านผมจะนำมาเล่าในครั้งต่อๆไป
น่าสนใจมากครับ
จะคอยติดตาม อยากรู้ว่าแต่ละท่านมองประเทศไทย ปี 2570 เป็นอย่างไร
ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีมากนะครับ ที่จะมีแผน ระยะสั้น ระยะกลาง และ ระยะยาว
จะได้มีวิสัยทัศน์ และสร้างยุทธศาสตร์ชาติ ได้อย่างเป็นรูปธรรม
เสียอย่างเดียว ที่ประเทศไทยตอนนี้่ ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ มากเกินไปนะครับ
นี่ถ้ามีแผนปฏิบัติจริงๆ ไม่รู้ว่าจะดำเนินตามแผนได้หรือไม่
กลัว วิ่ง ๆ แล้วก็ สะดุดล้ม กันอีก
มันเจ็บนะผมว่า
อยู่ที่การบริหารจัดการทั้งภาพรวมและภาพย่อยนั่นแหละครับ ขออภัยที่ไม่ได้นำเสนอบันทึกต่อเนื่องเสียหลายวัน เพราะติดราชการตลอด วันนี้บันทึกวิสัยทัศน์ของคุณหมอเกษม แล้วครับ
สวัสดีครับ
ติดตามเข้ามาอ่าน วิสัยทัศน์ของคุณหมอเกษมแล้วครับ
มีสาระมาก
ชอบมากมาย