“ทาน”ที่จะให้ความหมายในด้านการปฏิบัติ ไม่ได้อยู่ที่ว่าของที่ให้มีราคาเป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสน ราคาไม่เป็นประมาณ ข้อสำคัญคือเรามีความตั้งใจว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้รับ และได้ขัดเกลาความยึดมั่นถือมั่นในใจให้เป็นอิสระจากความตระหนี่เพิ่มมากขึ้น
พอถือว่าเราเป็นเจ้าของสิ่งใดแล้ว ไม่นานของนั้นก็เป็นเจ้าของเราได้ บังคับความรู้สึกของเราได้ ทางแก้คือ การสร้างความสัมพันธ์กับวัตถุที่ถูกต้อง คือใช้ของที่ควรใช้ให้เกิดประโยชน์ไม่หลงใหล และผูกพันจนเกินไป วิธีสร้างความรู้สึกที่ดีนั้นเริ่มต้นด้วยการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สามารถสัมผัสความรู้สึกที่เรียกว่า “บุญ”นั้นด้วยการแบ่งปันสิ่งที่มีอยู่ส่วนหนึ่ง เพื่อประโยชน์และความสุขต่อคนอื่น สังคม และพระศาสนา
.............ถึงใครจะเป็นคนซื่อตรง ขยันหมั่นเพียร ใจบุญก็ตาม ถ้าหากหลงเป็นธาตุของวัตถุปล่อยให้จิตยึดติดอยู่กับมันแน่นแฟ้น จนกระทั่งเห็นคุณค่าของตนเองหรือศักดิ์ศรีของตนเองอยู่ที่สิ่งที่ตนเองบริโภคหรือเงินในบัญชีธนาคาร จิตใจจะตกต่ำและง่อนแง่น.
......ยิ่งอวดความสมบูรณ์ทางวัตถุมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเปิดเผยความขาดแคลนทางจิตใจเท่านั้น บ้านบางคนมีของแน่นไปหมด แต่ใจเจ้าของบ้านกลับกลวง
จากหนังสือ "ปัจจุบันสดใส"
โดย ชยสาโร ภิกขุ
สวัสดี..ผู้มีใจเป็นทาน..เราเห็นด้วยกับสาระของคุณ..มากๆๆ
เราอยากให้คนไทยให้ทาน โลกคงน่าอยู่มากกวานี้******