สวัสดีครับชาว Blog,
ขอต้อนรับสู่ Blog เรียนรู้จากกีฬากับ "ดร.จีระ" ซึ่งผมจะเขียนเป็นประจำทุกวันพุธทางหนังสือพิมพ์สยามกีฬาครับ ท่านผู้ใดสนใจมุมมองด้านกีฬาผ่านการวิเคราะห์ ผมขอเชิญอ่าน และร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองผ่าน Blog นี้นะครับ สำหรับวันที่ 16 กรกฎาคม 2551 ถือเป็นวันแรกสำหรับคอลัมภ์ที่ผมเขียนให้สยามกีฬาครับ ผมจึงขอนำมาฝากชาว Blog ได้อ่าน และร่วมแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมครับ ผมหวังว่าคอลัมภ์นี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการสร้างสังคมการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นต่อไปครับ
........................................................................................................................................................................
สวัสดีกับท่านผู้อ่านครั้งแรก
ผมภูมิใจมากที่คุณ ระวิ โหลทอง กรุณาให้ผมมาทำงานเป็นแนวร่วม เรื่องกีฬา , หลายคนอาจจะไม่รู้จักผมเรื่องกีฬา แต่บรรดาเพื่อนรุ่นน้อง รุ่นพี่ ทั้งเทพศิรินทร์ และสมัยที่เรียนที่ New Zealand หรือสมัยที่เป็นอาจารย์ธรรมศาสตร์ ทราบว่าผมเป็นบุคคลที่ชอบกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ และติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด รายการวิทยุของผม (รายการ Human Talk 96.5 MHz) และ TV TNN 2 ก็มีโอกาสพูดถึงกีฬาบ่อย ผมอ่านสยามกีฬาทุกวันมาโดยตลอด พร้อมกับอ่าน Bangkok Post , Nation , และ Herald Tribune การอ่าน Web ของผมก็เน้นอ่านเรื่องกีฬาเสมอ พอ Happy ความรู้ต่างๆ ก็เพิ่มขึ้น
อยากให้คอลัมภ์ในวันนี้ มีประโยชน์ โดยจะเน้นมุมมองและบทเรียนของผมเกี่ยวกับกีฬา ในแต่ละอาทิตย์ก็จะแบ่งปันกัน และจะสร้าง Blog เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กัน แต่เป้าหมายผมสูง อยากให้กีฬาช่วยชาติไทยในหลาย ๆ เรื่อง
ให้คนไทยภูมิใจในประเทศของเรา มีศักดิ์ศรี เพราะคนในโลกสนใจกีฬา เช่น รู้จักเปเล่ มากกว่าประธานาธิบดีของบราซิล หรือเมื่อพูดถึงอาเจนตินา ก็คงยังพูดถึง มาราโดนา
อยากจะทำวิจัยเสนอแนะว่า กีฬา ช่วยการจ้างงานสักกี่คน หลักสูตรมหาวิทยาลัยจะสร้างบุคลากรทางด้านกีฬาได้แค่ไหน
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกีฬา ซึ่งวันนี้เป็นธุรกิจทางด้านสาขาบริการ อนาคตเมืองไทย อาจจะมี GDP จากสาขากีฬามากขึ้นเป็น 2% 3% หรือ 5% เพราะโอกาสสูง ดูมูลค่าของสโมสร Real Madrid หรือ แมนยู ซึ่งมีสูงมาก อยากให้คนนอกวงการที่ไม่เน้นการพนันมาร่วมหารือด้วย
อยากให้เยาวชน มองกีฬาเป็นอาชีพ มีรายได้ดี มีชีวิตที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี อย่างยั่งยืน
อยากให้กีฬาเป็นการทูตภาคประชาชนเชื่อมโยงกับต่างประเทศได้อย่างดี อยากให้เราบริโภคกีฬาต่างประเทศให้พอดี แต่ คุ้มทุน ไม่ใช่ มีแต่โปรแกรมต่างประเทศ คือเสียมากกว่าได้ เช่น บ้าคลั่งฟุตบอลอังกฤษ จนไม่ดูฟุตบอลไทย เช่นนี้ ผมไม่เห็นด้วย ผมไปดูฟุตบอลไทยเสมอ
ก่อนอื่นนอกจากBlog (www.chiraacademy.com, www.gotoknow.org/blog/chiraacademy) แล้ว ผมจะฝากเบอร์ E-mail :[email protected] และเบอร์ที่ Office โทรศัพท์ 0-2884-8814, 0-2884-9420-1 หากจะติดต่อผมที่ Office จะให้คุณเอราวรรณ รับเรื่องไว้
ผมเริ่มเขียนต้นฉบับก็มีข่าวดีมาก คือ Scottish Open เหลืออีกแค่ 1 วัน คุณธงชัย ใจดี คะแนนอยู่ที่ - 7 ห่างผู้นำอยู่ 3 แต้ม คืนนี้ ผมก็จะดูว่าคุณธงชัย จะยืนระยะได้หรือไม่ ถึงไม่ได้ที่ 1 แต่ 1 ใน 5 ก็ดีแล้ว ภูมิใจในตัวคุณธงชัยมาก ขอพูดถึงความสำเร็จของ Tiger Woods ที่ชอบ Tiger เพราะ
- เป็นลูกครึ่งไทย
- เก่งมาก ๆ
ที่ไม่ชอบก็มี ในเรื่องที่เขาไม่มีความรักชาติไทยเลย ดูแล้ว Tiger Wood จะขาดความเข้าใจวัฒนธรรมไทยมาก ๆ
ถ้าผมเป็นคนมีอำนาจทางกีฬา ผมจะใช้ Tiger เพื่อสร้าง Brand ของประเทศไทย (ได้ข่าวว่าจะใช้แต่แพง) แพงแค่ไหนก็ต้องทำ เพราะเขามีภาพลักษณ์ที่ดี และเป็นลูกครึ่งไทย
วันนี้ บทเรียนที่จะพูดถึงเขามาจากหนังสือ ชื่อ “How Tiger does it” เขียนโดย Brad Kearns ขอขอบคุณ McGraw Hills ที่รู้ว่าผมชอบและสนใจหนังสือเล่มนี้ ส่งมาให้ผมได้อ่าน หนังสือเล่มนี้เห็นว่า Tiger ประสบความสำเร็จเพราะอะไร ผู้เขียนเป็นนักกีฬาอาชีพที่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก ทางด้านปัญจะกรีฑา และชอบเขียน ชอบถ่ายทอดให้แก่ผู้สนใจ เขาได้ติดตามบทบาทของ Tiger มาตลอด ตั้งแต่ Tiger เริ่มเล่นที่ California ตอนใต้ เขาได้วิเคราะห์ความสามารถของ Tiger ในหลายประเด็น
ประเด็นแรกคือ Focus การทำอะไรที่มุ่งมั่นไปสู่เป้าหมาย ในประเด็นนี้ผมเลือกจุดสำคัญ 2-3 เรื่อง ของ Focus :
จะ Focus สำเร็จต้องสร้างบรรยากาศให้เกิดการแข่งขันที่เป็นเลิศ เช่น Tiger จะชอบเล่นระดับ Grand Slam เพราะแรงบันดาลใจสูง
และประเด็นสำคัญ ก็คือ เมื่อมีบรรยากาศของการแข่งขันที่เป็นเลิศแล้ว Tiger มักจะเตรียมพร้อมเสมอ เช่น ฝึกหัดอย่างมีวินัย คือ ไม่ประมาท ไม่ใช่เก่งแล้ว จะเล่นอย่างไรก็ชนะ Tiger บ้าคลั่งการซ้อม และฟิตร่างกายตลอดเวลา
ทำงานอย่างมุ่งมั่น ที่สำคัญคือ ต้องพร้อมที่จะแก้ปัญหาและตัดสินใจที่ยาก และต้องควบคุมวินัยของตัวเองอยู่ตลอดเวลา ผมว่า Tiger เก่งเรื่องควบคุมวินัย ซึ่งถ้าจะเปรียบกับนักกีฬาที่เก่ง แต่ไม่ถึงจุดสูงสุด ที่ผมติดตามก็คือ Roddick กับ Phil Mickelson ทั้งสองคน เจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ก็จะไม่มีวินัยในการควบคุมตัวเอง
ประเด็นที่ 2 ที่ผู้เขียนได้เน้น ก็คือ เรื่องการมีค่านิยมที่เน้นความสมดุลระหว่าง Work / play คือ Tiger ไม่ใช่ คนที่มุ่งมั่นในมิติเดียว เราจะสร้างความสมดุลให้แก่ชีวิตของเรา แบบเล่นเก่งและมีความสุขในการเล่น นอกเวลาการเล่น ก็มีสังคม มีเพื่อน มีครอบครัว ที่อบอุ่น ซึ่งในประเทศไทยจะเห็นคนบางคน เน้นงานจนไม่มีเพื่อน บางคนเน้นเพื่อนแต่ไม่เก่งเรื่องงาน
การเล่น golf ต้องสร้างความสุขให้เขาด้วย เรื่องนี้ ผมกับคุณหญิงทิพาวดี พูดไว้บ่อยก็คือ การทำงานอย่างมีความสุข
อย่ามีเป้าหมายที่จำกัด ผู้เขียนใช้คำว่า Horizon (ขอบฟ้า) คือแปลว่า จุดสูงสุด คืออะไรก็ได้ที่ดีกว่า ที่เคยทำมาแล้ว ตัวอย่างที่เห็นก็คือ ภราดร ขึ้นระดับที่ 9 ของโลกแล้ว แต่ไม่ไปสูงกว่านั้น เพราะไม่มีจุดที่กระตุ้นที่ดี ความจริง จุดที่ภราดรผิดพลาดก็คือ โลกทัศน์ของภราดรและพ่อของเขาแค่เก่งระดับโลกแต่ระดับโลกมีแบบ Federer, Samprasและ Agassie ซึ่งต้องไปให้ถึงแบบอันดับ 1 หรือชนะ Grand Slam ครอบครัวมองว่าการจ้าง Coach แพงไม่คุ้ม แต่บางคนบอกว่าคุ้ม ควรดูที่มูลค่าเพิ่มที่จะได้ เช่นชนะ Wimbledon ได้เงินเป็นพันล้าน Coach แค่ 50 ล้านถึงจะแพงแต่ก็คุ้ม
สุดท้าย เรื่องความสมดุลระหว่างงานกับชีวิต ก็คือ ความสมดุลไม่ใช่แค่ขยันฝึกซ้อม แต่พอเจอปัญหาต่าง ๆ ต้อง Work Smart มากกว่า Work Hard จะเห็นได้ว่า Tiger มักจะใช้ Judgement (การตัดสินใจ) ที่ดีในการแก้วิกฤติของการเล่น golf เพราะฉะนั้นจึงเป็นจุดสำคัญว่า Work hard / Play hard ไม่ใช่แค่ Hard แต่ต้อง Smart ด้วย
จีระ หงส์ลดารมภ์
...........................................................................................................................................................
ติดตามอ่านบทความอื่น ๆ โปรดคลิกลิ้งค์นี้
สวัสดีกับท่านผู้อ่านครั้งแรก (16 ก.ค. 51)
http://www.siamsport.co.th/Columntalk506.html
ควันหลงจากบทความครั้งแรก (23 ก.ค. 51)
http://www.siamsport.co.th/Columntalk528.html
ฟุตบอลอังกฤษ/โอลิมปิกที่จีน (30 ก.ค.51)
http://www.siamsport.co.th/Columntalk529.html
ผมไม่เข้าใจ Michelle Wei (6 ส.ค. 51)
http://www.siamsport.co.th/Columntalk547.html
เหรียญทองถวายสมเด็จฯ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา (13 ส.ค. 51)