สาเหตุของการเกิดข้อห้ามขึดล้านนา
วิถีชีวิตของกลุ่มคนในล้านนา ดำเนินชีวิตบนพื้นฐานของการมีขนบธรรมประเพณีของตนเองที่สืบทอดรักษาไว้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง มีความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มชนภายในสังคมล้านนาและอาณาบริเวณใกล้เคียง ส่งผลให้มีการเชื่อมโยงทัศนคติความเชื่อ เป็นพฤติกรรมทางสังคม มีการแสดงออกให้เห็นหลักการหรือแนวปฏิบัติ หรือกำหนดเป็นข้อห้ามให้แก่คนในชุมชนปฏิบัติร่วมกันต่อสิ่งต่าง ๆ ร่วมกัน ในเรื่องข้อห้ามนี้ มณี พยอมยงค์ (2539, หน้า 12) กล่าวว่า สาเหตุการเกิดข้อห้ามขึดมีอยู่ 3 เรื่อง คือ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ เกิดจากภูตผีปีศาจและเทวทัณฑ์ และเกิดจากการกระทำของมนุษย์
ในเรื่องข้อห้ามที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงธรรมชาตินี้ ศรีเลา เกษพรหม(2539,หน้า 1) กล่าวว่า ลักษณะข้อห้ามที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ เป็นเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดของธรรมชาติที่ไม่ควรจะมีหรือไม่ควรจะเกิดขึ้น ที่เรียกว่าผิดธรรมชาติ เมื่อมนุษย์พบสิ่งที่ไม่เคยเห็นจึงถือว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาด และเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่าขึด ความเชื่อในลักษณะนี้เป็นการอธิบายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติด้วยเหตุผลทางไสยศาสตร์ ต้องมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์คอยบังคับให้เป็นไป และสิ่งเหล่านั้น ก็คือ ผี วิญญาณ เทพารักษ์ ในรูปลักษณ์ต่าง ๆ ตามจินตนาการของตน และทำพิธีสักการะบวงสรวงด้วยความซื่อสัตย์จงรักภักดี เพื่อผ่อนคลายความอาถรรพณ์ไม่ทำร้าย และบันดาลความผาสุกมาให้(มณี พยอมยงค์,2536, หน้า 69)
ข้อห้ามที่เกิดจากภูตผีปีศาจและเทวทัณฑ์ เป็นข้อห้ามขึดที่คนล้านนาได้มีสามัญสำนึกร่วมกัน ในการยอมรับ ความเชื่อในเรื่องภูตผีปิศาจ มีทั้งความเชื่อในผีบรรพบุรุษที่เรียกว่า ผีปู่ย่า ผีประจำหมู่บ้าน ผีประจำเมือง ผีประจำภูเขา และผีที่แฝงในร่างคน เช่น ผี โพง ผีปอบ และผีกระสือเป็นต้น (ประคอง นิมานเหมินต์,อ้างในสุวรัฐ แลสันกลาง, 2541 หน้า16) ส่วนข้อห้ามจากเทวทัณฑ์นั้น เป็นการลงโทษของเทพยดาอารักษ์ต่าง ๆ ที่กระทำแก่มนุษย์ผู้ที่ทำผิดต่อท่านเช่น เสียสัตย์สาบาน ด้วยไม่ทำพิธีบวงสรวงเลี้ยงดูตามที่บนบานไว้ หรือการพูดหมิ่นประมาทในสถานที่บางแห่งที่ประชาชนเคารพนับถือว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิงสถิตอยู่ ในการลงโทษนั้นอาจจะปรากฏกายให้เห็นแสดงผ่านร่างมนุษย์ที่เป็นร่างทรงหรือม้าขี่ หรือแสดงพฤติกรรมอื่น ๆ เช่นการเข้าฝันบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือผู้เป็นญาติพี่น้องของผู้ทำผิดนั้น ๆ