วิสาหกิจชุมชน ต้องเกิดจากพลังภายในชุมชน...1


ที่มาของ"แรงจูงใจ" ในวิสาหกิจชุมชน

 

 วิสาหกิจชุมชน. เป็นการประกอบการของคนในชุมชน ตั้งแต่ 7 คนขึ้นไป เป็นการนำเอาทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนมาเป็นวัตถุดิบ กระบวนการผลิตเป็นของชุมชน ผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นกับสากล มีเป้าหมายที่การพึ่งตนเองของชุมชนเป็นหลัก  เอากระบวนการเรียนรู้เรื่องที่กำลังทำเป็นหัวใจ....แต่ทั้งหมดก็ล้วนเป็นการ ระเบิดจากข้างในตัวผู้นำ/แกนนำชุมชน.....จะเห็นการระเบิดได้อย่างไร? เรามักจะไม่ได้ตั้งคำถามถึงเรื่องนี้ก่อนว่า...จะมีการเกิด...การระเบิดจากภายในชุมชนนั้น มีจุดเริ่มต้นจากอะไร? จุดเริ่มต้นที่ว่านี้ไม่ได้เกิดจากคนภายนอก (ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนา นักวิชาการ หรืออื่นๆ )เหมือนกับที่ชุมชนไม่ต้องการคนภายนอกในเรื่องนี้ แต่เขาต้องการคนภายนอกมากระตุ้น มาสร้าง....สิ่งเหล่านี้ต่างหาก ครับ  กระตุ้นให้เกิด/กระบวนการเรียนรุ้ที่ก่อให้เกิดแรงจูงใจ และแรงบันดาลใจครับ....

วันนี้ วิสาหกิจชุมชนเรียนรู้ เริ่มต้นกล่าวถึงเรื่อง ...แรงจูงใจ ครับ ขออธิบายก่อนว่า แรงจูงใจ ต่างจากที่นักวิชาการ มักกล่าวกัน ว่า เพราะมีแรงดึงดูด และแรงผลักดัน ให้เกิด ในความหมายของผมแล้ว เป็นเรื่องของ Need และ Want  ทำไมผมจึงคิดเช่นนั้น ก็เพราะว่า เศรษฐศาสตร์ที่ผ่านมาไม่เคยอธิบายเรื่องพวกนี้ อธิบายแต่เรื่องที่ควรให้รู้ แต่ไม่อธิบายเรื่องอยากรู้ ปัญหาเศรษฐกิจบ้านเราจึงมีปัญหาพอควร ....เหตุเพราะไม่อธิบายว่า บริโภคเยอะ ๆ แล้วมีข้อเสีย (เหมือนกับสมัยหนึ่งที่บอกว่าเข้าสังคมต้องดื่มสุรา)  แต่สมัยนี้ สมัยหน้า กล่าวหาว่าถ้าจนก็ไม่ต้องกินสุรา(เหล้า) หรือเมาไม่ขับ แต่ไม่บอกว่าสุราดีอย่างไร?  เสียอย่างไร?....ให้ไปคิดเอง แต่ผมมองว่าวันนี้เราต้องให้ความรู้ครับ ....วิสาหกิจชุมชนยังไปไม่ถึงไหนก็เพราะ ยังขาดความรู้ครับ ถึงเวลาเรียนรู้แล้วครับ

บทที่ ๑ ที่มาของ แรงจูงใจ”ในวิสาหกิจชุมชน

 

ผมอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เรื่อง  100 วิธี ทำให้คนยอมทำงานให้เรา  ด้วยเต็มใจและมีแรงจูงใจที่ดี  ดูเหมือนว่าหลายเรื่องในชีวิตประจำวันเราต้องการ แรงจูงใจ  เพื่อให้ ผู้ใต้บังคับบัญชาได้เข้าใจ และทำงานอย่างเต็มความสามารถเพื่อองค์กรที่มีประสิทธิภาพ ครับ…..

บทแรก ของหนังสือเล่ม นี้ กล่าวถึง ที่มาของ แรงจูงใจ

 

เริ่มต้นที่งานสัมมนาในสถานที่แห่งหนึ่งที่ทางทีมงานเราได้เตรียมจัดงานนี้เพื่อผู้บริหาร ในการจัดการเรื่องเกี่ยวกับการสร้างแรงจูงใจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ให้ยอมทำงานอย่างเต็มที่แก่องค์กร....

ตอนเช้านั้นเอง ..มีผู้บริหารท่านหนึ่ง เข้ามาในงานสัมมนาฯ ที่ทางทีมงานได้จัดขึ้น   ผู้บริหารท่านนี้ แต่งกายในชุดโปโลสีเขียว นุ่งกางเกงผ้าขายางจับจีบ  เตรียมพร้อมที่จะไปออกรอบตีกอล์ฟ.....ครับเตรียมจะไปตีกอล์ฟ แต่แวะมาที่งานสัมมนาก่อน เพื่อบอกว่าจะไม่อยู่....ในงานสัมมนานี้

 

 ผู้บริหารท่านนี้เดินมาที่หน้าห้องและพูดขึ้นว่า งานสัมมนาของคุณไม่ได้เป็นหัวบังคับ ฉะนั้นผมไม่คิดที่จะเข้าร่วมนะ

ไม่เป็นไรครับ  แต่ผมสงสัยว่าทำไมคุณจึงมาที่งานสัมมนานี้ตั้งแต่เช้าเพื่อจะบอกเรื่องนี้กับเรา  ฉะนั้นคงต้องมีอะไรบางอย่างที่คุณอยากทราบ ทีมงานสัมมนาตอบออกไป

ใช่แล้วครับ  เขาสารภาพ  ทั้งหมดที่ผมต้องการรู้คือ   ทำอย่างไร? ให้ทีมงานขายของผมปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น  และผมจะบริหารพวกเขาให้มีประสิทธิภาพอย่างไรดี

 

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการทราบหรือครับ

ใช่แล้ว  ผู้บริหารท่านนี้บอก

 

ถ้าอย่างนั้น  เราสามารถช่วยคุณประหยัดเวลาได้มาก  และคุณยังสามารถไปเล่นกอล์ฟได้ทันเวลาครับ

ผู้บริหารท่านนั้นเดิมเข้ามาใกล้  รอฟังคำพูดสร้างสรรค์ที่เขาจะสามารถนำไปใช้ในการบริหารคนของเขา  

ทีมงานจัดสัมมนาจึงบอกว่า คุณไม่สามารถทำได้หรอกครับ

อะไรนะ ผู้บริหารท่านนั้นอุทานด้วยฉงนกับคำตอบที่เราให้ไป

คุณไม่สามารถบริหารทีมงานได้หรอกครับ  ตอนนี้คุณไปออกรอบได้แล้วครับ ทีมงานเราตอบ..

 

คุณพูดอะไรนะ   เขาถาม  นี่คุณกำลังจัดงานสัมมนาเกี่ยวกับการจูงใจผู้อื่นอยู่นะ  แล้วที่คุณว่าผมไม่สามารถทำได้  คุณหมายความว่าอย่างไร

 

ใช่ครับ    เรากำลังจัดงานสัมมนาในหัวข้อนี้ครับ   แต่สิ่งแรกที่เราสอนบรรดาผู้บริหารงานทั้งหลายคือ  พวกเขาจะไม่สามารถควบคุมคนของตนได้โดยตรง.....เพราะแรงจูงใจจะต้องมาจากความรู้สึกข้างในของพนักงานเสมอ  ไม่ได้มาจากตัวผู้บริหารครับ

ถ้าอย่างนั้นคุณสอนอะไรหล่ะ

 

เราสอนวิธีที่ช่วยให้ผู้บริหารกระตุ้นคนในองค์กรของคุณ ให้สร้างแรงจูงใจขึ้นได้เอง  นี่เป็นกุญแจสำคัญ   และคุณจะทำเช่นนี้ได้ก็โดยการบริหารจัดการข้อตกลงต่าง ๆ ไม่ใช่การบริหารจัดการที่บุคคล และนี่คือสิ่งที่เราจะสอนกันวันนี้

 

หลังจากนั้นผู้บริหารท่านนั้นก็กลับไปเปลี่ยนชุดออกรอบ เป็นชุดทำงานปกติ แล้วเข้าร่วมการสัมมนาตั้งแต่เริ่มจนจบ โดยที่นั่งอยู่แถวหน้าตลอดเวลาจนจบการสัมมนาครั้งนี้........

 

สรุปว่า ...........งานทุกงานไม่ว่าสาขาอาชีพใด ถ้าผู้บริหารไม่สามารถกระตุ้นให้ผู้ใต้บังคับบัญชา เกิดแรงจูงใจ สร้างแรงจูงใจให้เกิดขึ้นได้นั้น ผลที่เกิดขึ้นก็จะเป็นการบริหารงานแบบงานบริหารบุคคล ซึ่งมีแต่ความขัดแย้งไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ แล้วผลที่ได้รับ(กำไรและผลงาน)ก็ไม่เกิดแน่นอนครับ

มาถึงตอนนี้  วิสาหกิจชุมชน ก็เหมือนกัน ยังต้องเป็นการระเบิดจากข้างในชุมชน ...ชุมชนต้องถามตัวเองก่อนว่า จะทำเรื่องนี้ไปทำไม? ...

ถ้าคำตอบเป็นเพียงแค่ว่า อยากให้ชาวบ้านมีรายได้  มีงานทำ .....ก็ถูกต้องเพียงครึ่งเดียว..เมื่อก่อนเรามีความสุขกัน ....เราทำมาหากิน..ชุมชนมีการเอื้อเฟื้อกัน...มีจารีตของตนเอง...ดูแลกันและกัน....

เหตุผลบางเหตุผลมีค่า  มีความหมาย  และมีความสุข เป็นตัวตั้ง......เราไม่เคยทำธุรกิจ แล้วไปทำ....สู้ได้หรือไม?  ทรัพยากรในชุมชนไม่มี มุ่งแต่พึ่งคนอื่น ...เราจะสู้เขาได้หรือไม่?...เพียงแค่ 2 คำถามแค่นี้ ถ้าตอบสิ่งดี ๆ มาได้ก็จะดำเนินวิสาหกิจชุมชนไปรอดแน่ครับ....

หมายเลขบันทึก: 200792เขียนเมื่อ 14 สิงหาคม 2008 10:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 17:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท