ตอนช่วงวัยรุ่น เริ่มริอยากลองอะไรหลาย ๆ อย่าง ยิ่งต้องอยู่ไกลจากทางบ้านและครอบครัวด้วยแล้ว ยิ่งทำให้พบว่ามีสิ่งล่อใจ น่าลองมากมาย
ครั้งหนึ่งกลับไปเยี่ยมบ้าน จู่ ๆ พ่อก็พูดขึ้นว่า
"สูบบุหรี่หรือเปล่า ตระกูลเราไม่มีใครสูบบุหรี่นะลูก"
แล้วพ่อก็ไปคุยเรื่องอื่น โดยไม่ได้สนใจจะฟังคำตอบจากลูกชาย แต่ข้อความสั้น ๆ ก็กินใจ เอานำกลับไปเล่าให้เพื่อนฟัง จนทำให้เพื่อนล้อจนถึงทุกวันนี้
แต่มันก็ทำให้ผู้เขียนเลิกคิดที่จะติดบุหรี่ตั้งแต่นั้น
เมื่อโตขึ้น เริ่มมีงาน และเริ่มเครียดจากงาน กลับไปบ้านอีกครั้ง
พ่อขับรถพาไปกินข้าวเย็นนอกบ้าน ระหว่างทางพ่อพูดถึงความเครียดให้ฟังว่า
" ชีวิตคนเราถ้ามีป้ายบอกทางอย่างที่เห็นนี้ก็คงจะดี "
พ่อบอกอีกว่า ความเครียดของคนเรานั้น สาเหตุง่าย ๆ เกิดจากการมีทางเลือกมากเกินไป ต้องเลือกว่าจะทำหรือจะไม่ทำ ต้องเลือกว่าจะทำแบบไหนดี กลัวผลที่จะเกิดขึ้นจากสิ่งที่เลือก และกลัวว่าจะเสียดายสิ่งที่ไม่ได้เลือก
พอคิดหนัก ๆ เข้า หาทางออกไม่ได้ ไม่รู้จะเลือกทางไหนดี ก็เลยเครียด เป็นทุกข์
หนักเข้าก็ทำร้ายตัวเองฆ่าตัวตาย จะได้จบกันไปไม่ต้องเืลือกอะไรอีก ถ้ามีคนมาบอกเลยว่าต้องทำอย่างไร ห้ามทำอะไร ขีดทางเดินชีวิตให้เห็นชัดๆ มีป้ายกำกับทางเดินชีวิตให้ปฏบัติตามชัดเจน แล้วเราเชื่อมันอย่างสุดจิตสุดใจ ก็ไม่ต้องเครียดหรอก
ลองคิดภาพ หมาที่เกิดมามีแค่สามขา ดูสิ คิดว่า หมาสามขา จะเครียดไหม
> อ้าว ก็น่าจะเครียดสิ ดูน่าอนาจจะตาย หมาตัวอื่นก็มีสี่ขาหมด มันไปไหนมาไหนก็ลำบาก มันต้องทรมาณมาก ๆ ผู้เขียนตอบ <
พ่อบอกว่า ไม่ใช่หมาก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่เห็นหมามันก็อยู่ของมันดี ๆ ไปไหนต่อไหนได้
ถ้าหิวก็หาของกินให้อิ่ม กินอิ่ม แล้วก็นอนหลับ ไม่เคยเห็นหมาตัวไหนฆ่าตัวตายสักตัว บางทีมันอาจจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามันควรจะมีสี่ขา นี่แหล่ะเพราะมันไม่มีทางเลือก มันก็ทำไปตามทางของมัน แล้วมันก็ไม่เครียด หลังจากพูดจบ พ่อไม่ได้กล่าวอะไรต่อ
คงเป็นเพราะพ่อไม่ใช่อีสป
ที่ต้องบอกว่า
"นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า..........."
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
ไม่เห็นโลงศพอย่างหลั่งน้ำตา (งานวิจัยลวกๆ เรื่องการฆ่าตัวตาย โดยผู้เขียน)
อิสระ ( กลวิธีหนึ่งที่คิดได้ เพื่อแก้เครียด)
* รูปถ่ายประกอบ ป้ายบอกทางบนถนน Newbury Street ถนนช้อปปิ้งหลักของ บอสตั้น
บางที...ในเรื่องบางเรื่อง
การไม่รู้ ก็อาจ...ดีกว่ารู้ จะได้ไม่คิดมาก เครียดมาก
Thanks a lot. Have a nice everyday.
สวัสดีค่ะคุณp C
คุณสายธาร และ คุณสีตะวัน:
ขอบคุณครับที่แวะมาไล่อ่านบทความเก่า ๆ ของผมด้วย
:-)