50 ปี โรงพยาบาลน่าน
โดย นายสำรวย ผัดผล ประธานมูลนิธิฮักเมืองน่าน
27 มิถุนายน 2551
เขียน... ณ ห้องพิเศษ 206 ตึกศัลยกรรมชาย โรงพยาบาลน่าน เขียน... ขณะที่เฝ้าไข้คุณพ่อที่เพิ่งออกจากห้องผ่าตัด นอนรอการฟื้นสภาพ เขียน... ในห้องเดือนที่สมาชิกในครอบครัว “ครองเตียง” ในโรงพยาบาลน่านกันมานานเป็นเกือบ 3 อาทิตย์เข้าไปแล้ว จากลูกชายคนเล็กที่ผ่าตัดไส้ติ่ง ต่อด้วยไข้เลือดออกอีกหนึ่งโรคพร้อมทั้งจูงพี่ชายเข้ามาอีกคนหนึ่ง พอนำลูกชายทั้ง 2 กลับ แม่ยายก็เข้าต่อ แม่ยายกลับถึงหัวกะไดบ้านเสร็จ พ่อตัวเองก็ผลัดไม้เข้าผ่าตัด และเข้ารักษาอีกหลายอาการด้วยวัยที่ร่วงโรย….ผมจึงเข้าๆออกๆ ในโรงพยาบาลน่าน จึงได้เดินทะลุหลายตึก หลายหน่วยบริการ พบปะพูดคุยหลายๆ หมอ หลายๆ พยาบาล ญาติมิตรคนไข้ท่านอื่นๆ จนกลายเป็นเสมือนหนึ่งบ้าน และชุมชนของผมแห่งหนึ่งไปด้วย
เขียน....ขึ้นครั้งนี้ ไม่ขอกล่าวถึงคำชม คำติในฐานะผู้ใช้บริการ จากสถานบริการสุขภาพของประชาชนที่ชื่อ “โรงพยาบาลน่าน” แล้วเข้าใจดีว่าผู้ใช้บริการรู้เห็นเป็นประจักษ์กันอยู่แล้วในหมู่ประชาชนชาวจังหวัดน่าน นับตั้งแต่มีโรงพยาบาลมาจวบจนทุกวันนี้ เช่นดังที่ครอบครัวของผมได้รับอยู่ขณะนี้นี่คือ รักษาโรค รักษาคนป่วย เขียนถึงโรงพยาบาลน่านในมุมหนึ่งที่อยากบอกที่ผมเองได้เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลในฐานะ “คณะทำงานศูนย์ประสานงานประชาคมจังหวัดน่าน” ที่คนในโรงพยาบาลรู้จักกันว่า “ห้อง 3” หรือ ห้องประชุม 3 ข้างๆ ห้องผู้อำนวยการคณิต ตันติศิริวิทย์ ที่มีอีกฐานะหนึ่งคือ หัวหน้าศูนย์ประสานงานประชาคมจังหวัดน่าน
ศูนย์ฯ นี้ก่อเกิดจากคณะผู้ก่อการจำนวนหนึ่งที่มีบุคคลพิเศษ คือพ่อหมอบุญยงค์ วงค์รักมิตร เป็นแม่เหล็กใหญ่ที่ดึงเอากัลยาณมิตรจากทั่วทุกสารทิศแวะเวียนกันเข้าไปเป็นชุดทำงานประเภทต่างๆ บางประเภทเป็นแบบชั่วคราวเฉพาะกิจ บางประเภทเป็นแบบโครงการระยะสั้นหรือระยะยาวไปตามแต่ผลของการปรึกษาหารือ และเงื่อนไขในการจัดตั้งขึ้น ตั้งขึ้นทำไม คนไม่ใช่บุคลากรสาธารณสุข และก็ไม่ใช่คนไข้มาใช้อุปกรณ์จากงบประมาณโรงพยาบาลทำไม? มันเป็นกิจ (ภารกิจ) ของหมอหรือไม่ที่ไปยุ่งกับสังคม? หรืออีกหลายคำถามที่ประเดประดังกันเข้ามา ทั้งคนนอก และคนใน จนหลายครั้งคนมอง “ห้อง 3” เหมือนห้องพิเศษ ประหลาดๆ ที่งอกมาผิดภารกิจ งุนงงในบทบาท และหน้าที่ พี่น้องครับผมขออธิบายว่า “ห้อง 3” ไม่ได้งอกจนผิดปกติ เหมือนอวัยวะที่งอกมาแล้วทำหน้าที่ผิดเพี้ยนออกไปจนต้องเฉือนต้องตัดให้ร่างกายกลับเป็นปกติ แต่นี่ คือห้องพิเศษ หรืออวัยวะพิเศษที่เกิดขึ้นในการรักษาโรคของสังคม หลายๆ โครงการเกิดขึ้นจากการพูดคุยบนโต๊ะกลม (รูปทรงสี่เหลี่ยม) จากห้อง 3 แล้วแก้ทุกข์ให้กับชาวบ้านชาวน่านได้ เช่น กองทุนขวัญข้าวน่าน แก้ทุกข์นาล่มหลังน้ำท่วม ปี 49
การฟื้นฟูป่า ฟื้นฟูระบบนิเวศ โครงการผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ฯลฯ จนวันนี้นักเดินทางที่มาจังหวัดน่าน หรือบุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหารระดับสูง และนักพัฒนาหลากหลายสาขา รู้จัก “ห้อง 3” พอๆ กับชื่อเสียงของขบวนการภาคประชาสังคมอื่นๆ ของจังหวัด และเป็นกลไกหนึ่งที่เป็นฟันเฟื่องขับเคลื่อนสังคมให้เปลี่ยน “ทุกขภาวะ” เป็น “สุขภาวะ” เกิดขึ้นมาในสังคมน่าน “ต้นแบบ” ถูกยืนยันจากเวทีแห่งนี้ “บทเรียนดี” ถูกขยายจนเป็นนโยบายสาธารณะของประเทศก็เกิดขึ้นที่นี่
สำหรับผมแล้ว “ห้อง 3” คือ ห้องวิเศษที่รักษา “โรค” ของ “โลก” และเปลี่ยนชีวิตสาธารณะที่มีความทุกข์ทางสังคม เป็นชีวิตสาธารณะที่มีความสุข คือ สาธารณสุข ครับ
ทำไม รพ.น่านตอนนี้เขาเอานโยบายอะไรมาใช้โดยปล่อยแอร์เข้าห้องพิเศษเวลา 1300
ของทุกวัน บางวันเช้าหน่อยก็ 1230 คนป่วยก็ร้อนแถมจ่ายค่าแอร์เต็มตามจำนวน รพ.ปัวไม่เห็นทำกับผู้ป่วยแบบนี้ ผอ.มีใจเป็นแพทย์หน่อย