มาคุยเรื่องการจัดการความรู้กันดีกว่า

ความรู้เกิดจากการแสวงหา เป็นพรแสวงมากกว่าพรสวรรค์ที่ติดตัวมาแต่เกิด ความรู้เป็นสิ่งที่สามารถฝึกฝน และเรียนตามทันกันได้ ความรู้ไม่จำกัดอายุและชนชั้น ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะขวนขวายหาความรู้ได้ คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า "ผู้มีความรู้มากย่อมได้เปรียบ" และจะได้เปรียบยิ่งกว่า หากสามารถนำความรู้ที่มีมาประยุกต์ใช้ในการทำงานให้เกิดประโยชน์ได้

การจัดการความรู้ (Knowledge Management) ไม่ใช่เรื่องยาก และไม่ใช่สิ่งที่จะเห็นผลในช่วงระยะเวลาอันสั้น แต่เป็นเรื่องการตอบแทนระยะยาวที่เกิดจากการสั่งสมมาอย่างต่อเนื่อง หากท่านต้องการมีอนาคตที่สดใส มีหน้าที่การงานที่ดี... ขอให้ท่านเริ่มสำรวจตัวเองว่าท่านมีความรู้และประยุกต์ใช้ความรู้ที่มีไปมากน้อยแค่ไหน และจงระลึกไว้เสมอว่า .... ความรู้ย่อมไม่มีคำว่าสายเกินไป เพียงแต่ขอให้ท่านมีหัวใจที่จะพัฒนาและเพิ่มคุณค่าของตัวท่านเองเพื่อผลสำเร็จและเป้าหมายในอนาคต ท่านย่อมที่จะเริ่มต้นในการบริหารและจัดการความรู้ของตนเองได้...... กระผมขอนำเสนอหลักหรือเทคนิคง่าย ๆ เพื่อการจัดการความรู้ให้เกิดประสิทธิภาพ

"การแสวงหา" ความรู้
หากท่านไม่แสวงหาที่จะรู้ ความรู้ย่อมไม่เกิดขึ้น พบว่าหลายต่อหลายคนมักจะยุ่งกับการทำงานประจำวัน จนละเลยที่จะหาความรู้เพิ่มเติม เหตุเพราะไม่มีเวลา แค่ทำงานประจำวันให้เสร็จตามกำหนดเวลาก็จะแย่อยู่แล้ว และจะเอาเวลาที่ไหนไปแสวงหาความรู้..... หากท่านกำลังมีความคิดเหล่านี้ ขอให้ปรับเปลี่ยนความคิดใหม่ การแสวงหาความรู้ย่อมจะเกิดขึ้นได้ หากท่านมีหัวใจที่ใฝ่รู้ ความอยากหรือความต้องการนี้จะเป็นพลังผลักดันให้ท่านเริ่มที่จะบริหารเวลาส่วนหนึ่งเพื่อการแสวงหาความรู้ และความรู้มิใช่เกิดขึ้นจากการอ่านเพียงอย่างเดียว .... ความรู้อาจเกิดขึ้นได้จากแหล่งต่าง ๆ เช่น

การฟัง...ให้มาก ฟังเทปชุดความรู้ที่เกี่ยวข้องกับงานท่านเอง ฟังข่าวสารต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อการทำงานของท่าน หรือแม้กระทั่งการรับฟังความคิดเห็นหรือประเด็นปัญหาต่าง ๆ จากหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง และลูกค้าของท่านเอง
การถาม...ให้รู้ การซักถามผู้รู้เมื่อสงสัยหรือไม่เข้าใจนั้นเป็นอีกวิธีการหนึ่งในการสร้างองค์ความรู้ให้เกิดขึ้น ทั้งนี้การตั้งข้อคำถามต้องมิใช่เพื่อเป็นการลองภูมิ หรือการดูหมิ่นในความรู้ของผู้อื่น ท่านควรให้เกียรติบุคคลที่เราต้องการสอบถามข้อมูลด้วยเสมอ
การอ่าน...ให้สนุก ท่านควรปลูกฝังนิสัยให้เป็นคนรักการอ่าน โดยพยายามจัดสรรเวลาในแต่ละวันเพื่อการอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับสายอาชีพของตัวท่านเอง ซึ่งท่านต้องถามตัวท่านทุกครั้งว่า "อะไรที่ท่านได้รับบ้างจากการอ่านหนังสือ"

"การประยุกต์ใช้" ความรู้
ความรู้ที่ท่านได้รับย่อมไม่เกิดประโยชน์ขึ้นมาหากท่านรู้แล้วไม่นำมาใช้ปฏิบัติ ผู้ที่มีความรู้มากย่อมจะมีข้อมูลเพื่อการวางแผนงาน กำหนดกลยุทธ์ และสามารถตัดสินใจในการเลือกแนวทางเลือกสำหรับการแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง ความรู้จะทำให้ท่านมีความพร้อมและกล้าพอที่จะเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ความรู้จะทำให้ท่านมีไอเดียหรือความคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ความรู้ทำให้ท่านมีหลักการหรือเหตุผลที่น่าเชื่อถือได้ในการตอบข้อซักถามหรือประเด็นข้อสงสัยจากหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หรือแม้กระทั่งนักเรียนของท่านเอง

"การพัฒนา ...ประเมิน....ติดตามผล" ความรู้
ความรู้ไม่ควรหยุดนิ่ง ความรู้ย่อมต้องมีพัฒนาการและความต่อเนื่อง เนื่องจากโลกปัจจุบันมีความเคลื่อนไหวและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หากท่านหยุดที่จะเรียนรู้จะทำให้ท่านไม่รับรู้กระแสของการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นท่านควรสำรวจเพื่อประเมินตัวเองว่าองค์ความรู้ของท่านมีได้พัฒนาไปมากน้อยแค่ไหน และเรื่องไหนบ้างที่ท่านยังไม่รู้ แต่ควรที่จะรู้ รวมทั้งมีวิธีการอย่างไรที่จะทำให้ท่านได้ความรู้เพิ่มขึ้น

กระผมเองขอสรุปว่า การจัดการความรู้ (Knowledge Management) น่าจะเป็นเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่จะทำให้ท่านมีมูลค่าหรือค่าตัวในการทำงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีทันใด แต่เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ระยะเวลาและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง...เพียงแต่ขอให้ท่านมีความตั้งใจและมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง ท่านย่อมจะเป็นผู้หนึ่งที่ได้เปรียบในการทำงานจากความรู้ที่ท่านเองสั่งสมมาอยู่ตลอดเวลา นะครับ พี่น้อง

วิเคราะห์โดยธีรัชภัทร บัวคำศรี อันนี้ไม่ต้องอ้างอิงครับ ต้องอ้างอิงสมองซีกขัว ของตัวเอง

****** มีความรู้ เหมือนมีทรัพย์ อยู่นับแสน

หากข้นแค้น ยากลำบาก ให้สับสน

ใช้ความรู้ ที่ได้รับ ในบัดดล

รับรองผล ความสำเร็จ บังเกิดตาม *******