ศีลบริสุทธิ์และกรรมบถ ๑๐ โดยครูทิพย์


คนสวยที่ไม่มีศีลนั้น ก็เหมือนดอกไม้ที่สวยแต่สี หามีกลิ่นไม่

                    พระสีลวเถระองค์อรหันต์  ผู้สาวกของพระพุทธเจ้า  สรรเสริญศีลว่า  ศีลเป็นอาภรณ์คือเครื่องประดับอันประเสริฐ
                    เพชรนิลจินดาและอาภรณ์อันมีค่า  มิใช่เครื่องประดับอันประเสริฐ  เพราะไม่อาจทำกาย วาจา ใจ  ของผู้ประดับให้งดงามได้

            คนมีศีลเป็นเครื่องประดับจึงงดงามทุกเมื่อ
  ศีลคืออะไร  ทำอย่างไรจึงจะชื่อว่าเป็นคนมีศีล
            ศีล  คือ ความไม่ล่วงละเมิดของผู้มีเจตนาความตั้งใจงดเว้นจากความชั่ว  ทางกาย  วาจา  และอาจตลอดไปถึงใจด้วย

            มนุษย์นั้นมีมากมายหลายประเภท  สวยมาก  สวยน้อย  ดีมาก  ดีน้อย  บางคนทั้งสวยทั้งดี  บางคนไม่สวยด้วยไม่ดีด้วย  บางคนเรียบร้อย  บางคนหยาบคาย บางคนอ่อนโยน  บางคนดุร้าย  บางคนมีศีล  บางคนไม่มีศีล  สุดแท้แต่กรรมจะจำแนกให้เป็นไป
            ในจำนวนคนมากมายหลายประเภทเหล่านี้  คนมีศีลเป็นคนประเสริฐ  ยิ่งมีศีลด้วย  สวยด้วย  ยิ่งประเสริฐสุด  เหมือนดอกไม้ที่สวยทั้งสีและกลิ่น
            ส่วนคนสวยที่ไม่มีศีลนั้น  ก็เหมือนดอกไม้ที่สวยแต่สี  หามีกลิ่นไม่
            คนมีศีลนั้นหอมอยู่เสมอ  หอมทั้งตามลม  และทวนลม  หอมทั้งในเวลามีชีวิตอยู่  และละโลกนี้ไปแล้ว  เป็นที่ชื่นชมรักใคร่ของคนทั่วไปในเวลาที่มีชีวิต  เป็นที่เสียดายอาลัยรัก  และกล่าวขวัญสรรเสริญถึงในเวลาที่ตายไป  ทั้งนี้เพราะตลอดเวลาที่มีชีวิต  คนมีศีลไม่มีพิษมีภัยต่อผู้ใด  มีกิริยาวาจาละมุนละไมน่ารัก  ไม่ฆ่าตี  ข่มเหง  เบียดเบียน  ทำร้ายใคร  ทั้งด้วยกาย  และวาจา  ประกอบด้วยความเมตตากรุณาแก่สัตว์ทั้งปวงอยู่เป็นนิจ

                    ศีล    ข้อ  คือ

                    ๑.  ปาณาติปาตา  เวรมณี  งดเว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป

                    ๒.  อทินนาทานา  เวรมณี  งดเว้นจากการถือเอาของที่เจ้าของมิได้ให้

                    ๓.  กาเมสุ  มิจฉาจารา  เวรมณี  งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม

                    ๔.  มุสาวาทา  เวรมณี  งดเว้นจากการกล่าวเท็จ

                    ๕.  สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา  เวรมณี  งดเว้นจากการดื่มสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
อานิสงส์ของการรักษาศีล ๕

ผู้ที่รักษาศีลข้อ ๑ ด้วยการไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
ด้วยเศษของบุญที่รักษาศีลในข้อนี้ เมื่อน้อมนำมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะทำให้มีพลานามัยแข็งแรง ปราศจากโรคภัย ไม่ขี้โรค อายุยืนยาว ไม่มีศัตรูเบียดเบียนให้ต้องบาดเจ็บ ไม่มีอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่จะทำให้บาดเจ็บหรือสิ้นอายุก่อนวัยอันสมควร
ผู้ที่รักษาศีลข้อ ๒ ด้วยการไม่ถือเอาทรัพย์ของผู้อื่นที่เจ้าของมิได้เต็มใจให้
ด้วยเศษของบุญที่นำมาเกิดเป็นมนุษย์ย่อมทำให้เกิดได้ในตระกูลที่ร่ำรวย การทำมาหาเลี้ยงชีพในภายหน้ามักจะประสบช่องทางที่ดี ทำมาค้าขึ้นและมั่งมีทรัพย์ ทรัพย์สมบัติไม่วิบัติหายนะไปด้วยภัยต่าง ๆ เช่น อัคคีภัย วาตภัย โจรภัย ฯลฯ
ผู้ที่รักษาศีลข้อ ๓ ด้วยการไม่ล่วงประเวณีในคู่ครอง หรือ คนในปกครองของผู้อื่น
ด้วยเศษของบุญที่รักษาศีลข้อนี้เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ ก็จะประสบโชคดีในความรัก มักได้พบรักแท้ที่จริงจังและจริงใจ ไม่ต้องผิดหวังอกหัก ครั้นเมื่อมีบุตรธิดา ก็ว่านอนสอนง่าย ไม่ดื้อด้าน ไม่ถูกผู้อื่นหลอกลวงฉุดคร่าอนาจารไปทำให้เสียหาย บุตรธิดาย่อมเป็นอภิชาตบุตรซึ่งจะนำเกียรติยศชื่อเสียงมาสู่วงศ์ตระกูล
ผู้ที่รักษาศีลข้อ ๔ ด้วยการไม่กล่าวมุสา
ด้วยเศษของบุญที่รักษาศีลข้อนี้ เมื่อนำเกิดมาเป็นมนุษย์ ย่อมทำให้เป็นผู้ที่มีสุ้มเสียงไพเราะ พูดจามีน้ำมีนวลน่าฟัง มีเหตุมีผล ชนิดที่เป็น "พุทธวาจา" มีโวหารปฏิภาณไหวพริบในการเจรจา จะเจรจาความสิ่งใดก็มีผู้เชื่อฟังและเชื่อถือ สามารถว่ากล่าวสั่งสอนบุตรธิดาและศิษย์ให้อยู่ในโอวาทได้ดี
ผู้ที่รักษาศีลข้อ ๕ ด้วยการไม่ดื่มสุราเมรัย เครื่องหมักดองของมึนเมา
ด้วยเศษของบุญที่รักษาศีลข้อนี้ เมื่อนำมาเกิดเป็นมนุษย์ย่อมทำให้เป็นผู้ที่มีสมอง ประสาท ปัญญา ความคิดแจ่มใส จะศึกษาเล่าเรียนสิ่งใดก็แตกฉาน และทรงจำได้ง่ายไม่หลงลืมฟั่นเฟือนเลอะเลือน ไม่เสียสติ วิกลจริต ไม่เป็นโรคทางสมอง โรคประสาท ไม่ปัญญาทราม ปัญญาอ่อนหรือปัญญานิ่ม

เมื่อรักษาศีลแล้ว ถ้าต้องการให้ศีลบริสุทธิ์  ควรต้องใช้ธรรมะอย่างอื่นเข้าประคองใจด้วย ธรรมะที่ช่วยประคองใจให้เกิดความมั่นคงไม่ต้องลงอบายภูมิ มีนรกเป็นต้นนี้ ก็ได้แก่ กรรมบถ ๑๐ ประการ(ครูทิพย์คิดว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องของจิตใจ ความคิด เนื่องจาก การคิดไม่ดี คิดร้ายก็น่าจะบาป) คือ

๑. ไม่ฆ่าสัตว์หรือไม่ทรมานสัตว์ให้ได้รับความลำบาก
๒. ไม่ลักทรัพย์ คือไม่ถือเอาทรัพย์ของผู้อื่นที่เขาไม่ให้ด้วยความเต็มใจ
๓. ไม่ทำชู้ในบุตรภรรยาและสามีของผู้อื่น(ขอแถมนิดหนึ่ง ไม่ดื่มสุราและเมรัยที่ทำให้มึนเมาไร้สติ)
๔. ไม่พูดวาจาที่ไม่ตรงความเป็นจริง
๕. ไม่พูดวาจาหยาบคายให้สะเทือนใจผู้ฟัง
๖. ไม่พูดส่อเสียดยุให้รำตำให้รั่ว ทำให้ผู้อื่นแตกร้าวกัน
๗. ไม่พูดเพ้อเจ้อ เหลวไหล
๘. ไม่คิดอยากได้ทรัพย์ของผู้อื่นที่เจ้าของเขาไม่ยกให้
๙. ไม่คิดประทุษร้ายใคร คือไม่จองล้างจองผลาญเพื่อทำร้ายใคร
๑๐. เชื่อพระพุทธเจ้าและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของท่านด้วยดี

อานิสงส์กรรมบถ ๑๐

เรื่องของกาย

๑. อานิสงส์ข้อที่หนึ่ง จะเกิดเป็นคนมีรูปสวย ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บรบกวน มีอายุยืนยาว ไม่อายุสั้นพลันตาย
๒. อานิสงส์ข้อที่สอง เกิดเป็นคนมีทรัพย์มาก ทรัพย์ไม่ถูกทำลายเพราะโจร ไฟไหม้ น้ำท่วม ลมพัด จะมีทรัพย์สมบัติบริบูรณ์ขั้นมหาเศรษฐี
๓. อานิสงส์ข้อที่สาม เมื่อเกิดเป็นคนจะมีคนที่อยู่ในบังคับบัญชาเป็นคนดี ไม่ดื้อด้าน อยู่ภายในคำสั่งอย่างเคร่งครัด มีความสุขเพราะบริวาร และการไม่ดื่มสุราเมรัย เมื่อเกิดเป็นคนจะไม่มีโรคปวดศีรษะที่ร้ายแรง ไม่เป็นโรคเส้นประสาท ไม่เป็นคนบ้าคลั่ง จะเป็นคนมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด
เรื่องของวาจา
๔. อานิสงส์ข้อที่สี่, ข้อห้า, ข้อหก, และข้อเจ็ด เมื่อเกิดเป็นคนจะเป็นคนปากหอม หรือมีเสียงทิพย์ คนที่ได้ยินเสียงท่านพูดเขาจะไม่อิ่มไม่เบื่อในเสียงของท่าน ถ้าเรียกตามสมัยปัจจุบันจะเรียกว่าคนมีเสียงเป็นเสน่ห์ก็คงไม่ผิด จะมีความเป็นอยู่ที่เป็นสุขและทรัพย์สินมหาศาลเพราะเสียง
เรื่องของใจ
๕. อานิสงส์ข้อที่แปด, ข้อเก้า, และข้อสิบ เป็นเรื่องของใจ คืออารมณ์คิด ถ้าเว้นจากการคิดลักขโมยเป็นต้น ไม่คิดจองล้างจองผลาญใคร เชื่อพระพุทธเจ้าและปฏิบัติตามคำสอนของท่านด้วยความเคารพ ถ้าเกิดเป็นมนุษย์จะเป็นคนมีอารมณ์สงบและมีความสุขสบายทางใจ ความเดือดเนื้อร้อนใจในกรณีใดๆ ทุกประการจะไม่มีเลย มีแต่ความสุขใจอย่างเดียว
อานิสงส์รวม
เมื่อกล่าวถึงอานิสงส์รวมแล้ว ผู้ที่ปฏิบัติกรรมฐานในขั้นนี้ ถึงแม้ว่าจะทรงสมาธิไม่ได้นานตามที่เรียกว่า ขณิกสมาธิ นั้น ถ้าสามารถทรงกรรมบถ ๑๐ ประการได้ครบถ้วน ท่านกล่าวว่า เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้วไม่ต้องไปเกิดในอบายภูมิอีกต่อไป บาปที่ทำไว้ตั้งแต่สมัยใดก็ตาม ไม่มีโอกาสนำไปลงโทษในอบายภูมิมีนรกเป็นต้น อีกต่อไป  ถ้าบุญบารมีไม่มากกว่านี้ ตายจากคนไปเป็นเทวดาหรือพรหม เมื่อหมดบุญแล้วลงมาเกิดเป็นมนุษย์ จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ในชาตินั้น แต่ถ้าเร่งรัดการบำเพ็ญเพียรดี รู้จักใช้ปัญญาอย่างมีเหตุผล ก็สามารถบรรลุมรรคผลเข้าถึงพระนิพพานได้ในชาตินี้

มีศีลห้าใช้ได้แน่นอน ถ้าจะทำคนให้ดีจริงๆก็มีกรรมบถ ๑๐ ด้วย ถ้ามีทั้งศีลห้ามีทั้งกรรมบถ ๑๐ อย่างนี้จะมีความสุขอย่างยิ่งทั้ง ปัจจุบันและสัมปรายภพ ถ้าปฏิบัติตนได้อย่างนี้องค์สมเด็จพระมหามุนี คือพระพุทธเจ้าทรงยืนยันวาท่านทั้งหลาย
เมื่อตายแล้วจากชาตินี้ก็ดีหรืออีกกี่ชาติก็ดี จะไม่พบกับคำว่าอบายภูมิเลย การเกิดเป็นสัตว์นรกก็ดี เป็นเปรตก็ดี เป็นอสุรกายก็ดี
ไม่มีสำหรับท่าน แม้แต่สัตว์เดรัจฉานก็ไ<

หมายเลขบันทึก: 198504เขียนเมื่อ 3 สิงหาคม 2008 22:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 กันยายน 2012 15:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สวัสดีครับพี่ทิพย์

  • โอ้โห
  • หายไปนาน
  • คิดถึงๆๆๆ
  • เขียนอีกๆๆๆ
  • จะได้เข้ามาอ่านอีก
  • อ่านแล้วก็พูดได้คำเดียวว่า
  • สาธุ
  • อิอิ
  • เอาภาพคนหน้าตาดีมาฝากครับ
  • http://gotoknow.org/blog/yong2551/209471

สวัสดีค่ะน้องโย่ง

  • พี่ได้เข้าไปดูรูปแล้ว
  • หล่อซะไม่มี ไม่ใช่ซิ หล่อมากเลย
  • บันทึกนี้เขียนยามป่วย ออกจะต๊อง ๆ นะ

สวัสดีค่ะ ครูทิพย์

  • ไม่แน่ใจว่าครูทิพย์ เรียน ป.บริหารที่จันทรเกษม กลุ่มน้องโย่งหรือเปล่าคะ
  • ครูปูดูรูปแล้วไม่แน่ใจค่ะ
  • แต่ถ้าใช่ ครูปูก็คงไปทักทายครูทิพย์แล้วนะคะ ตอนทานข้าวเช้าหน่ะค่ะ
  • จำครูปูได้ป่าวคะ คนน่ารัก ๆ หน่ะค่ะ
  • (^__^)

 

สวัสดีจ้ะน้องทิพย์

- สาธุ ว่างวันใดจะพาไปทำบุญและเจาะเวลาหาบุญเพิ่มค่ะ

- รักษาสุขภาพด้วยจ้ะ

สวัสดีค่ะ

  • ครูปู  จำได้ค่ะ เคยคุย ๆ กันแล้วด้วย ป.บัณฑิตกลุ่ม2 น่ารักทุกคน
  • พี่จตุรัส ขอบคุณค่ะ คงมีโอกาสสักวัน

ไม่อยากตกนรกค่ะ จะตั้งใจรักษาศีลห้าและกรรมบถสิบประการ

  • สวัสดีค่ะครูทิพย์
  • ขอบคุณค่ะที่ให้ดอกไม้
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท