แบบปฏิบัติการจัดการความรู้ที่ดีเลิศ (Best Practice)
ของโรงเรียนวัดศิวารามตามแนวทางการจัดการความรู้ (KM) ที่นำมาใช้ในองค์กร
ภายใต้กรอบรูปแบบ SIWARAM Model : การเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล ภายในองค์กรของโรงเรียนวัดศิวารามด้วยการจัดการความรู้ (KM)
เป้าหมายหนึ่งที่สำคัญของการปฏิรูปการศึกษา คือ การสนับสนุนให้องค์กรทางการศึกษาทุกระดับมีความเข้มแข็งและมีศักยภาพสูงขึ้นในการจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ตลอดจนการทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการบริหารจัดการศึกษาตามแนวทางการปฏิรูปการศึกษาของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542และฉบับปรับปรุง พ.ศ.2545 รวมทั้งมาตรฐานการศึกษาชาติ โรงเรียนวัดศิวารามจึงได้ดำเนินงานตามโครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพองค์กรทางการศึกษาด้วยการจัดการความรู้ ของ สกศ. โดยได้นำหลักการและแนวทางการจัดการความรู้(Knowledge Management) มาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดการนำสติปัญญาขององค์กรมาเพิ่มพลังในการเรียนรู้อันจะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลขององค์กร ผลจากการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวทำให้โรงเรียนมีรูปแบบการจัดการความรู้ที่เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน มีการขยายผลการจัดการความรู้ไปยังสถานศึกษาอื่นและสามารถใช้การจัดการความรู้(KM) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลขององค์กรอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่องและยั่งยืน กระบวนการ(How to) ของการจัดการความรู้(KM) ที่โรงเรียนได้ดำเนินการและนำมาประยุกต์ใช้จะอยู่ภายใต้กรอบรูปแบบ SIWARAM Model: การเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลภายในองค์กรของโรงเรียนวัดศิวารามด้วยการจัดการความรู้(KM) มีด้วยกันทั้งหมด 7 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 การจัดทำ SWOT (SWOT: S) คือ การศึกษาสภาพแวดล้อม จุดเด่น จุดด้อย เพื่อวิเคราะห์ข้อกำหนดปัญหา/พิจารณาความต้องการในสิ่งที่จะพัฒนา
ขั้นตอนที่ 2 การกำหนดวิสัยทัศน์/เป้าหมายของ KM (กำหนดหัวปลา) (Identify Knowledge Vision: I) คือการกำหนดวิสัยทัศน์/เป้าหมายของการจัดการความรู้(KM) ซึ่งก็หมายรวมถึง การกำหนดหัวปลาแล้วก็ดำเนินการไปตามทิศทางที่กำหนดตามหัวปลาเพื่อที่จะมุ่งไปสู่ความสำเร็จ โดยมีขั้นตอนย่อยดังนี้
1. การพัฒนาทีมแกนนำการจัดการความรู้ (KM) ได้แก่
- การประชุม อบรม สัมมนา
- การทำ Workshop
- การพัฒนาความรู้ด้วยตนเอง(Self-knowledge Development)
2. การขยายผล KM ทั้งโรงเรียนและร่วมกันกำหนดวิสัยทัศน์/เป้าหมายของ KM (Share Vision) ซึ่งก็คือการร่วมกันกำหนดหัวปลาเพื่อเป็นทิศทางในการปฏิบัติมุ่งไปสู่ความสำเร็จ ได้แก่
- การกำหนดวิสัยทัศน์/เป้าหมาย (Share Vision) ร่วมกัน
- การระดมความคิด (Brain Storming) อันเนื่องมาจากผลจากการทำ SWOT สู่การปฏิบัติ
- การประชุมปฏิบัติการโดยทีมแกนนำ KM ของโรงเรียน
- การนำเครื่องมือ KM มาประยุกต์ใช้ เช่น เรื่องเล่าเร้าพลัง(Story Telling) เพื่อนช่วยเพื่อน(Peer Assist) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้(Sharing) การประชุม(Monday Meeting) การบันทึก(Note) เป็นต้น
3. การร่วมกันกำหนดแก่นความรู้และขุมความรู้อันเนื่องมาจากหัวปลาที่เรากำหนดไว้ โดยได้จากการระดมความคิด การประชุมปฏิบัติการ การนำเครื่องมือ KM มาใช้
ขั้นตอนที่ 3 การวางแผนการดำเนินงานโดยรวม (Whole Action Planning: W) คือ การร่วมกันกำหนดแผนงาน/โครงการ ปฏิทินปฏิบัติงานและแผนการนิเทศติดตามโดยรวมที่จะใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานเพื่อที่จะมุ่งไปสู่เป้าหมายและความสำเร็จ
ขั้นตอนที่ 4 การลงมือปฏิบัติ (Action: A) คือ การลงมือปฏิบัติตามแผนงาน/โครงการ ปฏิทินปฏิบัติงานที่วางไว้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและความสำเร็จภายใต้หัวข้อแนวคิดที่ว่า ทำอะไร(What?) ทำอย่างไร(How to?) ทำทำไม(Why?)
ขั้นตอนที่ 5 การทบทวนดารปฏิบัติ/ปรับปรุง (Review & Repair: R) คือ การทบทวนหลังการลงมือปฏิบัติ โดยมีการนิเทศติดตาม ประเมินผลและนำผลการประเมินมาวิเคราะห์พิจารณาเพื่อที่จะปรับปรุงในส่วนที่เป็นปัญหา/สิ่งที่จะพัฒนาต่อไป
ขั้นตอนที่ 6 ภาพความสำเร็จและคลังความรู้ (Achievement & Assets: A) คือ ผลงานความสำเร็จหรือผลการปฏิบัติที่เป็นความภาคภูมิใจ ตลอดจนการเก็บรวบรวมข้อมูลความรู้ต่าง ๆ เกิดเป็นคลังความรู้ ยกตัวอย่าง เช่น
- รางวัลเกียรติยศที่โรงเรียน ครูและนักเรียนได้รับ
- โรงเรียนผ่านการรับรองมาตรฐานจาก สมศ.
- เอกสาร / คู่มือ
- การจัดเก็บเอกสาร / คู่มือที่เป็นระบบ (E-filing)
- Website
ขั้นตอนที่ 7 การขยายผลสู่ภายนอก (Movement: M) คือ การเผยแพร่ขยายผลงานความสำเร็จหรือผลการปฏิบัติที่เป็นความภาคภูมิใจตลอดจนคลังความรู้ที่ได้จากการดำเนินงานตามแนวทางการจัดการความรู้(KM) มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลภายในองค์กรไปสู่สถานศึกษาอื่น ชุมชน เอกชนและหน่วยงานอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น
- การจัดทำ Blog (ให้+รับ)
- เอกสาร / คู่มือ
- นิทรรศการทางวิชาการ / ตลาดนัดความรู้
- การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างบุคคล (ให้+รับ)
ขอชมเชยค่ะ ที่ำนำมาเล่าสู่กันฟัง น่าจะเป็นองค์กรแรกในโครงการของเราที่
ทำเช่นนี้นะคะ ขอบคุณมากค่ะ
ขอแถมนิดหนึ่งนะคะ เรื่องน่าสนใจมาก ถ้าอาจารย์แยกเป็นตอนๆ เสริมเรื่องเบาๆ ตลกๆที่เกิดขึ้นจริง ทำให้เป็นทางการน้อยลงหน่อย จะวิเศษมากเลยค่ะ
เพราะว่าชุมชนบล็อกจะเป็นกันเองมากกว่าทางการค่ะ
เขียนต่อนะคะ จะติดตามอ่านค่ะ
อยากได้วิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้ KM สัก ๑ เรื่อง นะคะ เพราะเป็นสุดยอดของครูผู้สอนค่ะ
ถ้ามีวิธีจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้ KM มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
สุดยอดมากครับ
ชอบมากๆมีเนื้อหาสาระที่ดี
มีเนื้อหาสาระที่ดีเหมาะกับการเรียนการสอน (ครูจำลองเก่งมาก)
เนื้อหาไม่ดี หน้าตาไม่หล่อ ฮิฮิ