หลักสูตรวิทยาศาสตร์รากฐานสร้างเยาวชนให้คิดทำและค้นคว้าอย่างเป็นวิทยาศาสตร์
ดร.วิโรจน์
ตันตราภรณ์
ได้นำเสนอกลยุทธ์ที่จะพัฒนาชาติให้มีอิสรภาพจากการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศอย่างเพียงพอ
ผ่านกระบวนการพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์
โดยปรับปรุงระบบการเรียนการสอนเดิมให้ดีขึ้น
โดยการอบรมครูที่มีอยู่ในระบบ ปรับปรุงหลักสูตรภายในกรอบเดิม
ปรับปรุงวิธีการสอนและสอนให้นักเรียนทุกคนมีโอกาสรู้และเพิ่มทักษะ
อันจะปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันว่า การจัดการศึกษาคณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ ยังมีปัญหาอยู่
การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์
และเทคโนโลยีของชาติจำเป็นต้องมีการปฏิรูปแบบก้าวกระโดดโดยเร่งด่วน
เพื่อกู้ประเทศจากภาวะวิกฤติในปัจจุบัน
“หลักสูตรวิทยาศาสตร์รากฐาน”
จึงเป็นหลักสูตรใหม่ที่พัฒนาขึ้น โดย
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการนำร่องทดลองใช้ นำโดย ดร. วิโรจน์
ตันตราภรณ์ ที่ปรึกษาของ สสวท.
เนื่องจากมีความต้องการให้คนไทยทุกคนมีความคิดเชิงวิทยาศาสตร์
ซึ่งได้แก่ ความคิดที่เป็นเหตุเป็นผล คิดอย่างมีระบบ
และมีการวิเคราะห์กลั่นกรองอย่างดีตั้งแต่เยาว์วัย
พร้อมที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืนและยั่งยืน
แต่ก้าวทันวิวัฒนาการของโลก กล่าวคือ
“เน้นการคิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ เพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิต
หรือเป็นพื้นฐานที่ดีในการศึกษาหาความรู้ในทุกสาขาอาชีพ”
ไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้เพื่อกรุยทางให้ทุกคนเป็น
นักวิทยาศาสตร์หรือนักเทคโนโลยีนำไปสู่การกอบกู้นักเรียนที่มีอัจฉริยะ
ทักษะและความสามารถพิเศษจากระบบใหญ่ไปเข้าระบบย่อย
ที่มีองค์กรสนับสนุนและดำเนินการอยู่แล้วได้ในจำนวนมากขึ้น
และนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิผลการสอบ ฝึกอบรม
พัฒนาความรู้และทัศนคติของประชาชน นักการเมือง
นักบริหารของประเทศให้กลายเป็นผู้เห็นชอบกับการที่ประเทศจะพัฒนาตนผ่านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การสร้างหลักสูตรใหม่ ที่เรียกว่า
“หลักสูตรวิทยาศาสตร์รากฐาน”
และใช้กับนักเรียนรุ่นใหม่แต่ละปี
ซึ่งจะมีนักเรียนตามหลักสูตรใหม่ในทุกชั้นเรียน ได้ภายใน 12-16
ปี รวมทั้งการสร้างครูวิทยาศาสตร์ใหม่
จากผู้ที่กำลังเข้าเรียนอุดมศึกษาในปัจจุบัน
เพื่อเป็นผู้สอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามหลักสูตรใหม่
ซึ่งก็ต้องมีหลักสูตรใหม่สำหรับครูใหม่ด้วย
โครงการหลักสูตรวิทยาศาสตร์รากฐาน
ระดับประถมศึกษา
จึงเกิดขึ้นเพื่อเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอนตั้งแต่ประถม
1
จนจบมัธยมศึกษา โดยนำร่องทีละชั้นปี
เริ่มต้นจากการพัฒนาหลักสูตรสำหรับชั้น ป.1 ในปี
2544 เป็นต้นไป ซึ่งมีการจัดทำหลักสูตร เอกสาร คู่มือครู
และสื่อการเรียน
การสอนบนรากฐานใหม่ที่เน้นการปลูกฝังความเป็นธรรมชาติของการพัฒนาเด็กเชิงวิทยาศาสตร์ในระดับเดียวกับการพัฒนาเชิงภาษาที่เด็กพัฒนาได้ตามธรรมชาติ
และนำร่องการสร้างครูวิทยาศาสตร์ประเภทใหม่ที่สามารถจัดกิจกรรมตาม
หลักสูตรวิทยาศาสตร์รากฐาน โดยได้พัฒนาหลักสูตร ฯ มาตั้งแต่ ปี
พ.ศ. 2544 จนถึงปัจจุบันสามารถนำ
หน่วยการเรียนบางหน่วยไปดำเนินการสอนในโรงเรียนได้แล้วคือหน่วยการเรียนเรื่องมิติสัมพันธ์
ในระดับชั้น ป. 1 โดยในปีการศึกษา 2545
มีโรงเรียนทดลอง 5 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนสาธิต
มศว. ประสานมิตร กรุงเทพ ฯ โรงเรียนตันตรารักษ์ จ.ชลบุรี
โรงเรียนบ้านปางแก จ.น่าน โรงเรียนบ้านหนองเขียว จ.เชียงใหม่
และโรงเรียนนิคมพัฒนา 10 จ.นราธิวาส
ซึ่งขณะนี้โรงเรียนทั้ง 5
แห่งได้นำหน่วยการเรียนเรื่องสภาวะควอนตัมไปทดลองสอนในระดับชั้น
ป. 2 ต่อไป
นอกจากนี้ในปีการศึกษา 2546
ได้มีโรงเรียนดำเนินการสอนในหน่วยการเรียนเรื่องมิติสัมพันธ์อีกจำนวน
5 โรงเรียนคือ โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ โรงเรียนสายน้ำทิพย์
โรงเรียนสาธิตบางนา โรงเรียนแย้มสอาดรังสิต
และโรงเรียนผะดุงศิษย์พิทยา กรุงเทพฯ ซึ่ง สสวท.
ได้จัดให้มีการติดตามผล การสอนตามโรงเรียนดังกล่าว
เมื่อเดือนมกราคม 2547 ที่ผ่านมา
เพื่อจะได้ทราบถึงปัญหาของโรงเรียนแต่ละท้องถิ่น
เก็บรวบรวมข้อมูลและให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึง
รวมถึงการขยายผลการสอนตามหลักสูตรไปยังโรงเรียนใกล้เคียงที่สนใจในภูมิภาคนั้น
ๆ
หลักสูตรวิทยาศาสตร์รากฐานนี้ต้องการให้นักเรียนระดับชั้นอนุบาลหรือชั้นประถมศึกษาปีหนึ่ง
เริ่มมีความตระหนักในสุนทรียภาพของธรรมชาติ
และทึ่งในความหลากหลายที่เกิดจากหลักง่าย ๆ สองสามหลักเท่านั้น
ซึ่งเด็กสามารถเข้าใจได้ในระดับอายุ 5-6 ขวบ
วิทยาศาสตร์รากฐานจะเริ่มสอนให้เด็กตระหนักว่าธรรมชาติมีข้อจำกัด
และความหลากหลายที่มีอยู่นั้น ก็มีขอบเขต มีรูปแบบชัดเจนเป็นกลุ่ม
ซึ่งจะเห็นวิทยาศาสตร์ได้ เข้าใจง่าย
ถึงไม่ต้องเรียนมากมายก็สามารถเข้าใจสรรพสิ่งในธรรมชาติได้
อ้างอิง
ดร.วิโรจน์
ตันตราภรณ์.
“หลักสูตรวิทยาศาสตร์รากฐานสร้างเยาวชนให้คิดทำและค้นคว้าอย่างเป็น
วิทยาศาสตร์”.
[ออนไลน์].
เข้าถึงได้จาก:http://202.29.77.139/articles
detail.asp?ID=12.
หลักสูตรวิทยาศาสตร์รากฐาน สร้างเยาวชนให้คสร้างเยาวชนให้คิด ทำ และค้นคว้าอย่างเป็นวิทยาศาสตร์
ไม่มีความเห็น