1 แนวคิดการทำงานเกี่ยวกับเบาหวาน 2551
เมื่อลองถามตัวเองว่าวันนี้เราทำงานได้มาถึงตรงนี้เพราะอะไร ....คือสำนึกของการทำงานที่อยากให้มีคุณภาพและอยากพัฒนาให้ดีขึ้น มีภาพฝันของการทำงานที่ชัดเจนอยู่เสมอ ทำงานพร้อมกับรอวันที่ภาพฝันจะเข้ามาใกล้ๆและเป็นจริง ในการทำงานของเราไม่ทำเพื่อการถูกติดตาม ถูกประเมิน “ถ้างานมีระบบ มีระเบียบ มีเป้าหมาย วัดผลได้ บวกด้วยทำด้วยใจ คุณภาพยังไงก็เกิด การประเมินจากภายนอก การเยี่ยมตรวจจึง เป็นตัวช่วยเร่งปฏิกิริยา ช่วยเร่งการพัฒนา เร่งกระบวนการเรียนรู้ เหมือนดังที่อาจารย์ อนุวัฒน์ ศุภชุติกุล ได้กล่าวไว้ จริงๆ
ในฐานผู้ปฏิบัติที่พยายามทำความเข้าใจผ่านการทำงาน พบว่า การเรียนรู้จากการปฏิบัติ นำมาพัฒนาตน พัฒนางาน ทำให้เราไม่อึดอัด ไม่เครียด ภาระงานที่เกิดจากการพัฒนางาน ไม่ใชภาระงานที่มาก
ค้นต้นแบบเบาหวาน เป็นกระบวนงานที่มี
· การออกแบบ เป็นการคิดนอกกรอบ และสร้างสรรค์ พูดชื่อและกิจกรรมใครก็อยากมา เราก็อยากทำ เพราะไม่ต้องเตรียมการอะไรมาก มีสถานที่ คนและใจ ที่สำคัญต้องออกแบบในการวัดผลด้วย ซึ่งเราวัดผลในด้าน องค์ความรู้ที่ได้ และกิจกรรมที่เกิดในพื้นที่ของคนต้นแบบ
· เริ่มลงมือทำ ทุกครั้งหลังกิจกรรมเราให้ความสำคัญกับการทำ AAR และ การทำ AAR ทำให้เกิดคนต้นแบบ 1 คนต้นแบบ 2 และคนต้นแบบ 3 มีรูปแบบไม่เหมือนเดิม เพราะเกิดการพัฒนา
· เรียนรู้ทุกระดับคือเรา ทีม และหน่วยงาน
· มีการปรับปรุงงาน ใช้การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การจัดการความรู้ การติดตามงานผ่านตัวชี้วัดต่างๆ มีการประเมินตนเองทุกระยะ การbenchmarking และการวิจัย
ผู้เล่า รัชดา พัฒน์ศาสตร์
ทุกอย่างต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆไม่มีวันสิ้นสุดจริงๆนะคะ เรียนรู้ให้ถึงที่สุดของชีวิต
ความรู้ในโลกนี้ แบ่งเป็น 3 อย่างค่ะ คุณอุ๋ย
1.ไม่จำเป็นต้องรู้
2.จำเป็น แต่ไม่ต้องรู้
3.จำเป็น และต้องรู้
พระพุทธเจ้าบอกว่า ความรู้ในโลกนี้ มากมายเหมือนใบไม้ในป่าใหญ่
แต่ความรู้ที่เราจะเอามาใช้ในชีวิต มีเพียงกำมือเดียว..
เก็บรอยหยักของสมองเราเอาไว้ ซาบซึ้งกะหนังเกาหลีดีกว่าค่ะ