นอกจากแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์แล้วยังมีแก๊สอื่น ๆ ได้แก่
แก๊สมีเทน แม้จะมีปริมาณน้อยแต่โมเลกุลของมีเทนดูดกลืนรังสีความร้อนได้มากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า มีเทนเป็นแก๊สที่ปล่อยออกมาจากกระบวนการย่อยสลายอินทรียวัตถุโดยไม่ใช้ออกซิเจน ซึ่งได้แก่ การทำปศุสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น ฟาร์มวัว ฟาร์มหมู การฝังกลบขยะโดยไม่ได้แยก ขยะอินทรีย์ รวมถึงการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิล
แก๊สไนตรัสออกไซด์ เพิ่มปริมาณมากขึ้นจากกิจกรรมทางอุตสาหกรรม โรงงานที่ผลิตเส้นใย ไนลอน อุตสาหกรรมเคมีและพลาสติกที่ใช้กรดไนตริคในการผลิต การใช้ปุ๋ยไนโตรเจนในการเกษตร
โลกร้อนน้ำแข็งละลาย
ปี พ.ศ. 2543 เป็นปีที่ร้อนที่สุดในรอบ 1000 ปี จากเอกสารรายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) เผยแพร่ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 ระบุว่า อุณหภูมิของโลกอาจจะเพิ่มขึ้นถึง 6 องศาเซลเซียส ภายในเวลา 100 ปีข้างหน้าหรือในปี พ.ศ. 2643
น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกกำลังได้รับผลกระทบ แผ่นน้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเหนือมีความหนาลดลง จากความหนา 3 เมตรในปี พ.ศ. 2503 ละลายลงเหลือ 2 เมตร ภายในเวลาเพียง 30 ปี นั่นก็หมายความว่า ภายใน 25 ปีข้างหน้าในหน้าร้อนเราอาจได้เห็นขั้วโลกเหนือไม่มีแผ่นน้ำแข็งปกคลุมเลย
เมื่อเป็นเช่นนี้จะส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเกือบ 60 เซนติเมตร น้ำทะเลจะคุกคามบริเวณชายฝั่งทะเลทั่วโลก ประชาชนในทวีปเอเชียเกือบ 100 ล้านคนจะประสบปัญหาน้ำท่วม ไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งได้แก่ ประเทศอินเดีย ศรีลังกา ปากีสถาน บังคลาเทศ พม่า จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม รวมถึงไทยเราด้วย
ไม่มีความเห็น