คนต้นแบบที่ตำบลหัวรอ


การดูแลตนเองของคนไข้เบาหวานในชุมชน ต.หัวรอ

 

คนต้นแบบของเราชื่อ ป้าต้อย ภู่พันสาย ตอนนี้ป้าอายุ 70 ปี เรียนจบชั้น ป.3 มีลูก 5 คน แต่ก่อนมีอาชีพทำนา เมื่อว่างจากหน้านาก็ทำงานรับจ้างทั่วไปรายได้วันละไม่เท่าไหร่  สามีเสียชีวิตเมื่อ 30 ปีที่แล้ว บุตรมีครอบครัวและแยกครอบครัวไปทำงานหมดแล้ว ตอนนี้ป้าต๋อยอยู่บ้านคนเดียว  เมื่ออายุมากจึงไม่มีรายได้อะไร  นานๆ ลูกจะส่งมาให้ใช้บ้างเดือนละ 500 1,000 บาท

 

เล่าถึงการมารู้ตัวว่าเป็นเบาหวานในปี 2544 ป้ามีอาการปวดหัว เป็นลมวูบบ่อย จึงไปตรวจที่สถานีอนามัย ต.หัวรอ พบความดันขึ้น 170/120 ได้ยาความดันมานทาน แต่ยังมีอาการปวดต้นคอ นอนไม่หลับ ยังเป็นลมวูบบ่อย ไปตรวจอีก หมอเจาะเลือดพบน้ำตาลสูง  หมอให้ยาเบาหวานมากทาน ป้าเองมารับยาไปทานอย่างต่อเนื่อง    บางทีไม่รู้เป็นอะไร รู้สึกไม่ค่อยดีมีอาการปวดศีรษะอีก ความดันขึ้น 160/100   หมอถาม เลยบอกกับหมอว่า นอนไม่ค่อยหลับมา 3 คืน น้อยใจเรื่องบุตรหลานที่ไม่ค่อยมาเยี่ยม เหงา คิดถึงลูก คิดถึงหลาน ตรวจน้ำตาลก็ขึ้น ความดันก็ขึ้น หมอฉีดยาให้ 1 เข็ม และนอนพัก หมอให้ยาทานแล้วอาการทุเลาลง  แต่ก็ยังมีความดันขึ้นๆ ลงๆ น้ำตาลไม่ดีมาอยู่ประมาณ 2 ปี

 

พอประมาณ ปี 2546 เริ่มมีการรวมกลุ่มของเพื่อนๆในระแวกบ้านไปพบกันที่อนามัยทุกเดือน ป้าก็ไปร่วมด้วย เช่น ฟังความรู้ต่างๆ พูดคุยกับเพื่อนๆ เพื่อนๆก็มาเล่าให้ฟังบางคนบอกกินอย่างนั้น อย่างนี้ แล้วคุมไม่ได้ ป้าจำแล้วพยายามไม่ทำตาม และเริ่มชวนกันไปออกกำลังกายกับชุมชน ม.12 ออกกำลังกายตั้งแต่ 5 6 โมงเย็นทุกวัน สบายใจ สนุก เจอเพื่อนๆเยอะแยะความดันก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ  เบาหวานก็ดีทุกอย่าง

 

และตนเองได้ฟังความรู้เวลาเพื่อนๆมาเล่า ข่าวเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพบอกให้กินน้ำมะกรูด น้ำมะนาว ผสมผสานกันดื่มแทนน้ำ จะทำให้ลดความดันได้ ตนเองก็ทำดื่มทำให้ชุ่มคอ ความดันลดลงเหลือตอนนี้เหลือ 120/80 ป้าไปประชุมกับที่อนามัยหัวรอ เป็นประจำ หมอที่อนามัยแนะนำให้ลด ข้าวเหลือประมาณ 2 ทัพพี ให้กินปลามื้อละประมาณ 1 ขีด ผักใบต่างๆ ตนเองชอบเก็บผักข้างรั้วและที่กลางนากิน ชอบกินผักดิบ กระถินใบมะยมจิ้มน้ำพริก และให้ลดอาหารมัน เค็ม เกลือไม่เกิน 1 ช้อนชา ต่อวัน ทำปลาเกลือกินเอง โดยหมักไม่เค็ม ตนเองชอบออกกำลังกายไปเต้นสนุกดี มันดี กลับบ้านมาทำให้นอนหลับกินข้าวได้ ชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ตนเองใช้วิธีเดินออกกำลังกายที่ถนนกลางนากับกลุ่มออกกำลังกายมีสมาชิกประมาณ 4 6 คน เดินวันละ 1 ชั่วโมง

 

สรุปผลการดูแลตนเอง   

ตอนนี้อายุ 70 ปี น้ำหนัก 62 ก.ก.ลดลง5 กิโล เอว 33 นิ้ว ลดได้แค่ 2 นิ้ว น้ำตาล 118  น้ำตาลสะสม 6.6  ทานอาหารได้ ตรวจตาปกติ เท้าไม่มีแผล ยังรับประทานยาโรคเบาหวาน ความดัน  มียาลดความดัน 2 ตัว ยาเบาหวาน 1 ตัว ยาลดไขมัน ยาละลายลิ่มเลือด ตอนนี้ไม่ต้องทานยานอนหลับ ทุกวันนี้มีความสุขไม่คิดอะไร มีเพื่อนบ้านพูดคุยด้วยทุกวัน มีกลุ่มออกกำลังกาย  และเริ่มออกมาช่วยหมอดูแลคนไข้เบาหวาน ความดัน และโรคจิต ทุกวันนี้ทาง อ.บ.ต. ให้เงินช่วยเหลือ เดือนละ 500 บาท และเวลามีกิจกรรมต่างๆป้าต้อยก็จะไปเข้าชมรมกับหมด พาหมอไปเยี่ยมบ้าน ป้าต้อยก็จะไปเพื่อนหมอ เพราะถ้าหมอมา  2 คนก็จะไม่มีคนทำงานที่อนามัย หมอมาคนเดียวก็อันตราย ป้าเลยอาสามาช่วยหมอ เป็น หมอน้อย คอยถามทางบ้านที่จะไปให้ก่อนไป  พาหมอไปเยี่ยมบ้านที่อยู่ละแวกนั้น ป้าต้อยมีความสขที่ช่วยเหลือสังคม  ทุกวันนี้ป้าต้อยสามารถอยู่กับเบาหวานได้อย่างสบายๆ มีความสุข แบบพอเพียง

(ภาพกิจกรรมให้ความรู้ อบรม พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พาเยี่ยมบ้าน)

ผู้เล่า ป้าต๋อย ภู่พันสาย

ผู้เรียบเรียง รัชดา พิพัฒน์ศาสตร์

คำสำคัญ (Tags): #คนต้นแบบ
หมายเลขบันทึก: 196420เขียนเมื่อ 25 กรกฎาคม 2008 11:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:20 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • คิดถึงทีมเบาหวาน รพ.พุทธค่ะ
  • กิจกรรมดี ๆ อย่างนี้นำมาลงให้ได้อ่านอีกนะคะ

ผู้ป่วยอย่างป้าต้อยถึงจะยากไร้ ก็สามารถปรับตัวให้อยู่กับเบาหวานได้อย่างมีความสุขจริงๆ นอกจากจะได้ประโยชน์กับตัวเองแล้วยังเผื่อแผ่ไปถึงผู้อื่นด้วย ป้าต้อยเป็นตัวอย่างของผู้ป่วยที่ปรับพฤติกรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม เห็นอย่างนี้คนรักษาก็ชื่นใจนะอ้อ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท