หลายวันมานี้ได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนในหลักสูตรภาวะผู้นำฯ โดยผ่านโปรแกรม skype ครับ เนื่องจากเพื่อนผมเขาเริ่มหันมาใช้ใหม่ พอได้คุยเลยได้รับรู้ความเคลื่อนไหวของเพื่อนร่วมห้อง สำหรับผมลาพักหนึ่งเทอมครับ แล้วตอนนี้ก็รู้สึกแล้วว่า ไม่น่าลาเลย ที่จริงถอนวิชาที่ไม่จำเป็นออกก็น่าจะเดินหน้าวิทยานิพนธ์ได้สบาย
ปรากฏเช้านี้ เพื่อนร่วมห้องอย่าง ผอ.จรรยา แผนสมบูรณ์ (ผอ.สถานพินิจฯ ปัตตานี) ก็ส่งสัญญาณเข้ามาขอคุยด้วย ปรากฏกลายเป็นคุยกับ ดร.พงษ์พัชรินทร์ พุทธวัฒนะ อาจารย์ที่ปรึกษาคนน่ารักของนักศึกษาป.เอกแทน
ท่านถามประเด็นร้อนครับคือ จะให้ใครเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ของผม เรื่องนี้เป็นปัญหามากครับสำหรับผม จนบางทีมันทำให้ผมรู้สึกว่า ผมจะต้องมีประวัติซ้ำรอยเหมือนตอนปริญญาโทอีกหรือเปล่า อาจารย์ที่ปรึกษาในเรื่องที่ผมทำมีจำกัดครับ และที่ผมอยากได้ปรากฏอยู่นอกคณะเสียอีก ซึ่งทางผู้บริหารหลักสูตรไม่ยอม ยอมได้แค่ให้เป็นที่ปรึกษาร่วม ส่วนที่ปรึกษาหลักต้องเป็นภายในคณะ แล้วก็ตัวเลือกจำกัดจริงๆ ที่จะถูกโชลกกับผม ฮิฮิ นิสัยแบบผมหาอาจารย์ที่ปรึกษายากจริงๆ ครับ
ปรากฏ พอผมตัดสินใจเลือก ก็มีข้อท้วงติงอีกครับว่า ท่านจะเกษียรอายุแล้วในสองปีนี้ ผมจะสู้หรือเปล่า ทีแรกก็ลังเลครับ สุดท้ายก็ตอบอาจารย์ไปว่า ผมจะทำวิทยานิพนธ์ผมให้เสร็จภายในสองปีครับ ผมเลือกอาจารย์ท่านนี้แหละครับ ไม่เปลี่ยนใจแล้ว เป็นงัยเป็นกัน
เอาละครับ นอนพักหนึ่งเทอม แล้วคงจะได้เริ่มเรียนและทำวิทยานิพนธ์ให้จบให้เร็วที่สุด ไม่งั้นแย่แน่ๆ
อาจารย์ช่วยแนะนำเคล็บลับการเลือกหัวข้อวิทยานิพนธ์ ....
ตอบคุณseer_namo ครับว่า มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอยู่หลักๆ ดังนี้ครับ
แค่นี้ก่อนนะครับ
ผมเป้นกำลังใจให้ครับ เชื่อคนอย่างอาจารย์มารถทำได้ ด้วยความหวังและดุอาอฺ ผมคงได้เห้นว่าที่ ดร. ก่อนที่ผมเรียนจบแน่ ผมยังหาข้อสรุปกับหัวข้อวิทยานิพนธ์ไม่ได้เลย บางครั้งบางเรื่องก็เป็นปัจจัยกดดันเรานะครับ ไม่ใช่ผลักดัน ผมเริ่มเหนื่อยกับหลายเรื่องแล้วครับ แต่ก็จะอดทนครับ ขอให้อัลลลอฮฺคุ้มครองครับ
ขอบคุณครับอาจารย์เสียงเล็กๆ
อาจารย์เรียนหลักสูตร 2 ปีนะครับ ส่วนผมสามปีครับ ขออาจารย์จบก่อนแล้วกัน บางทีเหมือนยาก แต่พอถึงเวลามันก็อาจจะทะลุปรุโปร่งให้โดยทันทีก็ได้ครับ ขอดุอาเยอะๆ