Moblog วัฒนธรรมใหม่ "ไดอารี่ไร้สาย"

     มีบทความที่ผมได้ไปอ่านเจอในเว๊ปไซด์ BusinessThai เกี่ยวกับเรื่อง Moblog ซี่งเป็น KM Tools ที่น่าสนใจ เป็นบทความของคุณประสิทธิ์ วรฉัตราวณิช  เล่าถึงเทคโนโลยีมือถือกับการประยุกต์ใช้ใน blog ทำได้อย่างไร ลองอ่านดูนะคับ
     กระแสใหม่ที่เกิดขึ้นจากการต่อยอดทางเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองแนวคิด และความต้องการของสังคมดิจิตอล โดยประเด็นหลักคือ มันทำให้เราไม่รู้สึกโดดเดี่ยวในโลกกว้าง เพราะเราสามารถบอกเล่าเรื่องราวที่ต้องการให้กับคนทั้งโลกได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ 
คำว่า Moblog ความจริงเกิดจากการสนธิคำในภาษาฝรั่ง 2 คำนั่นคือ Mobile และ blog ซึ่งคำแรกเป็น กระแสเทคโนโลยีที่เปลี่ยนรูปโฉมวัฒนธรรมไปสู่วิถีทางปฏิสัมพันธ์แบบใหม่ที่ไร้สาย แต่ไม่ไร้ความรู้สึก และวันนี้มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนจนแยกไม่ออกเสียแล้ว ถือเป็นปัจจัยที่ 5 ของการดำรงชีวิตของคนสมัยนี้ก็ว่าได้ ส่วนคำว่า blog (ชื่อเต็มคือ Web log) เป็นกระแสเทคโนโลยีออนไลน์ที่ทำให้โลกส่วนตัวของใครบางคน ไม่เป็นเรื่องส่วนตัวอีกต่อไป ว่ากันง่ายๆ blog ก็คือ เว็บไซต์ที่ใช้สำหรับเผยแพร่เรื่องราวความสนใจเฉพาะบุคคล แต่ถ้าเราเป็นคนที่สนใจตัวเองเป็นที่สุดอยู่แล้ว ความหมายของ blog ในที่นี้ก็คือ "เว็บไซต์ไดอารี่" ที่ใช้สำหรับเล่าเรื่องราวส่วนตัวที่เราพบเห็นในแต่ละวันนั่นเอง แต่ความจริง ความหมายของ blog กว้างไกลกว่านั้น ตัวอย่างเช่น blog ที่ว่าด้วยเรื่องของเกมส์, blog สำหรับคนโอเพ่นซอร์ส หรือคนบ้ากล้องดิจิตอล เป็นต้น ซึ่งลักษณะพิเศษของ blog ก็คือ การนำเสนอที่มีลักษณะเป็นบันทึก เกาะติด ชิดสถานการณ์ จนเหมือนรายงานข่าว และมีการใช้ภาษาที่ตรงไปตรงมา เป็นกันเอง มากกว่าเป็นทางการ ทำให้เว็บไซต์พวกนี้เข้าถึงได้ง่ายกว่าเว็บไซต์อื่นๆ
      อย่างไรก็ดี หากพิจารณาในแง่ของการทำตลาดกับเว็บไซต์ blog เนื่องจากเว็บไซต์พวกนี้จะมีคุณสมบัติที่สำคัญประการหนึ่งนั่นคือ การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง แต่ในทางกลับกันคือ เว็บไซต์พวกนี้จะมีการพูดจาแบบตรงไปตรงมา สินค้าดีตรงไหน หรือด้อยตรงไหน ไม่ต้องเกรงใจ ซึ่งทำให้เว็บไซต์ blog ได้รับความเชื่อถือจากสมาชิกที่แวะเวียนเข้ามาอยู่เป็นประจำ แต่มันก็เป็นหอกทิ่มแทงผู้ลงโฆษณาใน blog เหล่านี้ด้วยในทางกลับกัน และถ้าเมื่อใดก็ตาม ที่สมาชิกรู้สึกว่า blog นั้นมีสปอนเซอร์ แถมเนื้อหาที่อยู่ในเว็บไซต์ก็ยังเอนเอียงไปด้วย คนก็จะเลิกเข้า โฆษณา หรือสปอนเซอร์ก็ไม่ได้ผล
และวันนี้ เรากำลังพูดถึง มือถือที่ไฮเอ็นด์มากขึ้น เป็นได้ตั้งแต่โทรศัพท์ธรรมดา ไปจนถึงกล้องถ่ายรูป และด้วยความสามารถในการสื่อสารที่หลากหลายนี้เองทำให้เกิดแนวคิดลูกผสมระหว่าง Mobile และ blog ขึ้นมา โดยรูปแบบที่เกิดขึ้น เจ้าของ blog จะสามารถอัปเดตเว็บไซต์ผ่านทางมือถือได้ทันที เช่นไปพบเห็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดของ blog ก็สามารถถ่ายรูปด้วยกล้องดิจิตอลบนมือถือ จากนั้นเปิดแอพพลิเคชัน เพื่อส่งรูปถ่ายพร้อมทั้งพิมพ์ข้อความบรรยาย แล้วส่งกลับไปอัปเดตที่ blog ได้ทันที เรียกว่า ทันใจวัยโจ๋โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ชอบเปิด blog ในลักษณะของไดอารี่ การเชื่อมต่อเทคโนโลยีทั้งสองจึงทำให้เกิดวัฒนธรรมใหม่ที่มากกว่า แค่โหลดโลโก ริงโทน ส่ง SMS หรือ MMS แค่นั้น แต่สามารถถ่ายทอดประสบการ์ณในแต่ละวันลงใน blog ได้ตลอดเวลา และทุกที่ ทุกเวลา ผ่านทางมือถือนั่นเอง มีผลวิจัยออกมาว่า ปัจจุบันผู้บริโภคใช้เวลากับมือถือ เพื่อการส่ง SMS มากขึ้นจนไปเบียดเบียนเวลาดูทีวี และเล่นอินเทอร์เน็ตแล้ว ซึ่งแนวโน้มเหล่านี้ทำให้นักการตลาดกำลังพบกับโจทย์ใหม่ที่ซับซ้อนขึ้น เนื่องจากต้องมองหาช่องว่างในการสร้างโอกาสที่เกิดจากการรวมตัวทางเทคโนโลยีสื่อสารเหล่านี้(เว็บ และโมไบล์) ให้ได้
ปัจจุบันมีการเปิด blog มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้มือถือก็มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รุ่นเก่าไป รุ่นใหม่ออกมาตลอดเวลา บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต มือถือ 3G และอื่นๆ อีกมากมาย เทคโนโลยีเหล่านี้ ล้วนทำให้โลกเล็กลงเรื่อยๆ หรือมองอีกมุมหนึ่งก็คือ คนเราใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเหมือนเป็นคนขี้เหงาเข้าไปทุกทีแล้ว นึกอยากคุยได้คุย อยากโพสต์เว็บได้โพสต์ อยากบอกเล่าเก้าสิบอะไรก็หยิบมือถือ หรือขยับเมาส์ เขย่าคีย์บอร์ด เรียกได้ว่าเป็นยุคที่คนขี้เหงาครองเมืองก็ได้ คำถามคือ เราจะทำตลาดกับกลุ่มเป้าหมายที่ขี้เหงาเหล่านี้ได้อย่างไรบ้าง