ส่วนนี้เป็นข้อคิดเห็นจากกลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกี่ยวกับการจำแนกประเภทผู้ป่วย :
1. คู่มือจำแนกประเภทผู้ป่วย
1.1 มีความละเอียด สามารถนำมาใช้ในผู้ป่วยแต่ละกลุ่มแต่ละประเภทได้
1.2 มีความยุ่งยากในการจำต้องใช้เอกสารประกอบในการจำแนกผู้ป่วยแต่ละราย
1.3 น่าจะมีการสรุปสั้นๆ ให้เข้าใจง่ายเพื่อให้ง่ายต่อการจำแนก โดยเฉพาะกลุ่มโรคต่างๆ
1.4 คู่มือจำแนกประเภทผู้ป่วยมีความละเอียด และเหมาะสมในการนำมาใช้จำแนก
1.5 แบบบันทึกการจำแนกประเภทผู้ป่วย ศ.1 เข้าใจง่ายกว่า พยบ.064
1.6 3จ 3ก 5ค 5จ CCU มีคู่มือจำแนกประเภทผู้ป่วยแต่ไม่ได้ใช้เนื่องจากใช้เวลามาก แต่มีการจำแนกประเภทผู้ป่วยทุกเวร แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดเป็นรายข้อ จะใช้ความรู้เรื่องการจำแนกประเภทผู้ป่วยแล้วสรุปเป็นตัวเลขระดับผู้ป่วยเลยว่าเป็นระดับใด
1.7 แบบประเมินที่มีอยู่ดีมาก แต่ปฏิบัติได้ยาก ต้องใช้เวลาลงรายละเอียดนาน
1.8 ข้อเสนอแนะในการปฏิบัติมีดังนี้
* หอผู้ป่วยที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก ให้แต่ละทีมรับผิดชอบลงข้อมูลเพราะทราบอาการผู้ป่วยมากกว่าผู้อื่น
* หอผู้ป่วย CCU มีผู้ป่วย 8 เตียงจึงไม่มีปัญหาในการจำแนกประเภทผู้ป่วย
* การจำแนกประเภทผู้ป่วย ควรสรุปให้เป็นแผ่นเดียวในผู้ป่วยแต่ละกลุ่มเพื่อเป็นแนวทางที่สะดวกในการจำแนกได้เร็วขึ้นเหมือนตัวอย่างของแผนกการพยาบาลผู้ป่วยพิเศษ
2. วิธีการประเมินในแต่ละเวร
2.1 หัวหน้าทีมเป็นผู้จำแนกประเภทผู้ป่วยในทีมที่ตนเองดูแล แล้วให้หัวหน้าเวรนำข้อมูลมารวบรวมไว้
2.2 ให้หัวหน้าเวรเป็นผู้สรุปช่วงปลายเวรของแต่ละเวร
2.3 กรณีที่จำไม่ได้สามารถนำคู่มือมาเปิดดูได้
2.4 ใช้ความจำว่าแต่ละหมวดประกอบด้วยอะไรบ้าง แล้วนำมาสรุปประเภทผู้ป่วย
2.5 วิธีการจำแนกในแต่ละเวร จำแนกตามอาการโดยใช้แบบประเมิน และเพื่อความสะดวกในการประเมินแต่ละเวรให้เปลี่ยนเฉพาะหมวดที่มีการเปลี่ยนแปลง
2.6 พยาบาลหัวหน้าเวรสรุปแต่ละเวรโดยประเมินโดยสรุป
2.7 แยกให้หัวหน้าทีมแต่ละทีมประเมินตามแบบ ศ.1 (3ข) โดยใช้คู่มือจำแนกประเภทผู้ป่วยแบบย่อ
2.8 หัวหน้าทีมแต่ละทีมสรุปประเภทผู้ป่วยตามอาการ
2.9 หัวหน้าเวรเป็นผู้สรุปประเภทผู้ป่วยแต่ละเตียงโดยไม่ได้แจงรายการ
2.10 ใช้เทคนิคที่เหมาะสมแต่ละหน่วยงาน และลงข้อมูลให้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง
3. การสรุปประเภทผู้ป่วย
3.1 สรุปตาม mode ไม่นำมาหาค่าเฉลี่ย กรณีมีค่าต่างกัน 2 ค่าเลือกลงค่าที่สูงกว่า
3.2 ยังไม่มีความเที่ยงตรงเนื่องจากผู้ประเมินไม่มีความเข้าใจ
3.3 การสรุปประเภทผู้ป่วย ใช้วิธีนำ 12 กิจกรรม แล้วนับคะแนนที่มีจำนวนมากที่สุดเป็นผู้ป่วยประเภทนั้น
3.4 ใช้ความชำนาญประกอบกับคู่มือจำแนกประเภทผู้ป่วย
3.5 ลักษณะของผู้ป่วยที่จำแนกออกมาอาจไม่ตรงกับการปฏิบัติจริงในคลินิก โดยเฉพาะผู้ป่วยทางจิตเวช ควรให้ความสำคัญทางด้านจิตใจมากกว่าทางกาย
4. ผลการทดลองจำแนกประเภทผู้ป่วยจากผู้ป่วยกรณีศึกษา
มีความหลากหลายในประเภทผู้ป่วยทั้ง 2 กรณี เนื่องจากไม่สามารถทราบอาการโดยละเอียดเหมือนจำแนกประเภทผู้ป่วยจริงๆ และอาการของผู้ป่วยสามารถประเมินได้ละเอียดตามประสบการณ์ของผู้จำแนก ผลการจำแนกประเภทผู้ป่วยทั้ง 2 กรณีจึงจำแนกเป็นทั้งผู้ป่วยประเภท 3-4-5 ซึ่งมีความหลากหลายและแตกต่างกันมาก
ข้อควรคำนึงจากกลุ่ม
1. กรณีผู้ป่วยหนักและถึงแก่กรรมช่วงท้ายเวร ไม่ได้ลงข้อมูล
2. กรณีผู้ป่วยหนักท้ายเวรแล้วย้ายลง ICU
3. กรณีผู้ป่วยหนักท้ายเวรแล้วถึงแก่กรรมหรือย้ายลง แล้วรับผู้ป่วยใหม่เข้ามาเป็นผู้ป่วยอีกประเภทหนึ่งซึ่งเบา
ซึ่งกรณีเหล่านี้ทำให้การลงข้อมูลภาระงานคลาดเคลื่อน จะมีวิธีการอย่างไรที่จะเก็บข้อมูลได้ทั้งหมด
แต่ละหอผู้ป่วย หน่วยงาน นำไปปรับใช้ตามความเหมาะสมในแต่ละบริบทนะคะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์
สวัสดีค่ะ ป้าแดง
สวัสดีค่ะ อาจารย์
ต้องการทราบวิธีการจัดแบ่งประเภทผู้ป่วย 5 ประเภท ใช้เกณฑ์การแบ่งอย่างไร
ขอบพระคุณค่ะ