การรักษา
วิธีการดูแลจิตใจ
ผู้รับคำปรึกษา
หญิงวัย 32 ปี มีครอบครัวแล้ว มีลูกวัย 2 ขวบ เลี้ยงลูกด้วยตนเอง ติดยาบ้า เสพมานาน 5 ปี เสพๆ หยุดๆ มารักษาที่สถาบันธัญญารักษ์ รักษาแบบผู้ป่วยนอก รับยาไปรับประทานที่บ้านครบแพทย์นัด แต่ไม่ได้ มารับยาตามนัด เพราะสามีบอกให้เลิกเอง ขณะนี้หยุดยาได้ 7 วัน แต่ยังมีอาการ หงุดหงิด ไม่สบายใจ บ้างครั้งไม่พอใจ โกรธไปทุกเรื่อง แล้วก็จะไปลงที่ลูกและสามี มีความกังวลว่าสามีจะเบื่อและหนีไป กลุ้มใจมาก
ผู้ให้คำปรึกษา
คุณกำลังมีความกังวลใจ ว่าสามีของคุณ จะเบื่อและหนีไป ทำให้เกิดความกลุ้มใจ เข้าใจความรู้สึกของคุณ การที่คุณ หยุดยาเองได้ 7 วัน ขอชมเชยว่าคุณมีความอดทนสูง ขอเป็นกำลังใจ ให้คุณต่อสู้กับอาการเหล่านี้ อาการที่คุณเล่ามา เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ เมื่อคุณหยุดยา จะเป็นช่วงระยะ หนึ่งเท่านั้น ถ้าคุณอดทนได้ ร่างกายของคุณก็จะปรับสภาพได้ อาการเหล่านั้นก็จะหมดไป ขอให้คุณ ใจเย็นๆ คุณลองตั้งสติ -สมาธิ เผชิญ เข้ารับรู้สภาวะอารมณ์ ที่เกิดขึ้น เช่นรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกหงุดหงิด รู้สึกไม่พอใจ รู้สึกโกรธ ให้คุณตั้งสติ- สมาธิ ใจจดจ่อ รับรู้ สภาวะอารมณ์เหล่านั้น โดยกำหนดรู้พูดบ่นในใจว่า รู้สึกไม่สบายใจ ๆๆๆ หรือ รู้สึกหงุดหงิด ก็ให้กำหนดรู้พูดบ่นในใจว่า รู้สึกหงุดหงิดๆๆๆ พูดในใจไปเรื่อยๆ หรือสภาวะอารมณ์อื่นๆ ที่เข้ามาก็ปฏิบัติ เช่นเดียวกัน การตั้งสติ-สมาธิรับรู้อารมณ์ นั้นตามความเป็นจริง เมื่อสติ- สมาธิของเรา มีพลังเพียงพอเราก็จะรู้ว่า อารมณ์เหล่านั้น มันเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป มันจะไม่อยู่กับเรานาน เปรียบเสมือน แขกมาเยือนบ้านเรา เราต้อนรับเขา แล้วเขาก็จะจากเราไป (จิตเปรียบเสมือนเจ้าของบ้านสภาวะอารมณ์ต่างๆเปรียบเสมือนแขก) จิตของเราจะทำงานเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เมื่อเรามีสติ- สมาธิมาแทนสภาวะอารมณ์เหล่านั้น จะเห็นว่าสภาวะอารมณ์เหล่านั้น ค่อยๆจางและก็หมดไป เมื่อสติ- สมาธิ มีความมั่นคงเพียงพอ จิตของเราจะทำงานเร็วมาก เปรียบเสมือนกระแสไฟฟ้า จะมีการเกิดดับต่อเนื่องกันเร็วมาก เรามองไม่เห็นการเกิดดับนั้น แต่เหมือนเป็นอันเดียวกัน จิตของเราเปรียบเสมือนท้องฟ้า ที่ใสสะอาด สภาวะอารมณ์เปรียบเสมือนเมฆหมอกมาบดบังท้องฟ้า ท้องฟ้าจะขุ่นมัวได้ จิตของเราก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีสภาวะอารมณ์ ต่างๆ เช่น รู้สึกหงุดหงิด รู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกโกรธ และไม่พอใจเกิดขึ้นในจิต เราก็จะเกิดความทุกข์ และทรมาน หรือเกิดจิตขุ่นมัวได้ เช่นกัน ถ้าเราตั้งสติ-สมาธิ จดจ่อเพื่อ จัดสภาวะอารมณ์ เหล่านั้น โดยวิธี ง พูด บ่น ท่องชื่อ ของอารมณ์เหล่านั้นไปเรื่อยๆ ไม่ต้องคิดให้มันหาย เหมือนหนามยอกก็เอาหนามมาบ่งออก เมื่อหนามออกแล้ว ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานก็จะหมดไป ขอให้คุณนำวิธีนี้ไปปฏิบัติ ได้ผลอย่างไร ให้โทรศัพท์กลับมาอีกนะคะ ยินดีที่จะให้กำลังใจ ถ้าปฏิบัติแล้วไม่ได้ผล ความอดทนไม่เพียงพอ ขอให้ไปพบแพทย์นะคะ
ผู้รับคำปรึกษา
ขอขอบคุณค่ะรู้สึกสบายใจขึ้น จะนำวิธีนี้ไปปฏิบัติได้ผลอย่างไรจะโทรมาขอคำปรึกษาใหม่ค่ะ
จากสายด่วนยาเสพติด 1165
หญิงวัย 32 ปี มีครอบครัวแล้ว มีลูกวัย 2 ขวบ เลี้ยงลูกด้วยตนเอง ติดยาบ้า เสพมานาน 5 ปี เสพๆ หยุดๆ มารักษาที่สถาบันธัญญารักษ์ รักษาแบบผู้ป่วยนอก รับยาไปรับประทานที่บ้านครบแพทย์นัด แต่ไม่ได้ มารับยาตามนัด เพราะสามีบอกให้เลิกเอง ขณะนี้หยุดยาได้ 7 วัน แต่ยังมีอาการ หงุดหงิด ไม่สบายใจ บ้างครั้งไม่พอใจ โกรธไปทุกเรื่อง แล้วก็จะไปลงที่ลูกและสามี มีความกังวลว่าสามีจะเบื่อและหนีไป กลุ้มใจมาก
ผู้ให้คำปรึกษา
คุณกำลังมีความกังวลใจ ว่าสามีของคุณ จะเบื่อและหนีไป ทำให้เกิดความกลุ้มใจ เข้าใจความรู้สึกของคุณ การที่คุณ หยุดยาเองได้ 7 วัน ขอชมเชยว่าคุณมีความอดทนสูง ขอเป็นกำลังใจ ให้คุณต่อสู้กับอาการเหล่านี้ อาการที่คุณเล่ามา เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ เมื่อคุณหยุดยา จะเป็นช่วงระยะ หนึ่งเท่านั้น ถ้าคุณอดทนได้ ร่างกายของคุณก็จะปรับสภาพได้ อาการเหล่านั้นก็จะหมดไป ขอให้คุณ ใจเย็นๆ คุณลองตั้งสติ -สมาธิ เผชิญ เข้ารับรู้สภาวะอารมณ์ ที่เกิดขึ้น เช่นรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกหงุดหงิด รู้สึกไม่พอใจ รู้สึกโกรธ ให้คุณตั้งสติ- สมาธิ ใจจดจ่อ รับรู้ สภาวะอารมณ์เหล่านั้น โดยกำหนดรู้พูดบ่นในใจว่า รู้สึกไม่สบายใจ ๆๆๆ หรือ รู้สึกหงุดหงิด ก็ให้กำหนดรู้พูดบ่นในใจว่า รู้สึกหงุดหงิดๆๆๆ พูดในใจไปเรื่อยๆ หรือสภาวะอารมณ์อื่นๆ ที่เข้ามาก็ปฏิบัติ เช่นเดียวกัน การตั้งสติ-สมาธิรับรู้อารมณ์ นั้นตามความเป็นจริง เมื่อสติ- สมาธิของเรา มีพลังเพียงพอเราก็จะรู้ว่า อารมณ์เหล่านั้น มันเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป มันจะไม่อยู่กับเรานาน เปรียบเสมือน แขกมาเยือนบ้านเรา เราต้อนรับเขา แล้วเขาก็จะจากเราไป (จิตเปรียบเสมือนเจ้าของบ้านสภาวะอารมณ์ต่างๆเปรียบเสมือนแขก) จิตของเราจะทำงานเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เมื่อเรามีสติ- สมาธิมาแทนสภาวะอารมณ์เหล่านั้น จะเห็นว่าสภาวะอารมณ์เหล่านั้น ค่อยๆจางและก็หมดไป เมื่อสติ- สมาธิ มีความมั่นคงเพียงพอ จิตของเราจะทำงานเร็วมาก เปรียบเสมือนกระแสไฟฟ้า จะมีการเกิดดับต่อเนื่องกันเร็วมาก เรามองไม่เห็นการเกิดดับนั้น แต่เหมือนเป็นอันเดียวกัน จิตของเราเปรียบเสมือนท้องฟ้า ที่ใสสะอาด สภาวะอารมณ์เปรียบเสมือนเมฆหมอกมาบดบังท้องฟ้า ท้องฟ้าจะขุ่นมัวได้ จิตของเราก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีสภาวะอารมณ์ ต่างๆ เช่น รู้สึกหงุดหงิด รู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกโกรธ และไม่พอใจเกิดขึ้นในจิต เราก็จะเกิดความทุกข์ และทรมาน หรือเกิดจิตขุ่นมัวได้ เช่นกัน ถ้าเราตั้งสติ-สมาธิ จดจ่อเพื่อ จัดสภาวะอารมณ์ เหล่านั้น โดยวิธี ง พูด บ่น ท่องชื่อ ของอารมณ์เหล่านั้นไปเรื่อยๆ ไม่ต้องคิดให้มันหาย เหมือนหนามยอกก็เอาหนามมาบ่งออก เมื่อหนามออกแล้ว ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานก็จะหมดไป ขอให้คุณนำวิธีนี้ไปปฏิบัติ ได้ผลอย่างไร ให้โทรศัพท์กลับมาอีกนะคะ ยินดีที่จะให้กำลังใจ ถ้าปฏิบัติแล้วไม่ได้ผล ความอดทนไม่เพียงพอ ขอให้ไปพบแพทย์นะคะ
ผู้รับคำปรึกษา
ขอขอบคุณค่ะรู้สึกสบายใจขึ้น จะนำวิธีนี้ไปปฏิบัติได้ผลอย่างไรจะโทรมาขอคำปรึกษาใหม่ค่ะ
จากสายด่วนยาเสพติด 1165
คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 19457เขียนเมื่อ 17 มีนาคม 2006 13:17 น. ()ความเห็น (1)
โอเคครับ