ภาพพจน์
ภาพพจน์คือการใช้ภาษาเพื่อให้กระทบใจผู้อ่าน และเกิดอารมณ์สะเทือนใจ เพื่อให้ผู้อ่านเกิดภาพในใจ (จินตภาพ) โดยใช้ถ้อยคำภาษาที่ไม่กล่าวตรงๆ ด้วยวิธีการต่าๆ เช่น
๑.ภาพพจน์อุปมา
๒.ภาพพจน์อุปลักษณ์
๓.ภาพพจน์บุคคลวัต
๔.ภาพพจน์อติพจน์
๕.ภาพพจน์สัทพจน์
๖.ภาพพจน์ปฏิพากษ์
๗.ภาพพจน์สัญลักษณ์
๑.ภาพพจน์อุปมา
เป็นการเปรียบว่าสิ่งหนึ่งเหมือนกับสิ่งหนึ่ง โดยนำสองสิ่งที่ต่างจำพวกแต่มีลักษณะเด่นเหมิอนกันมาเปรียบเทียบกัน ใช้คำแสดงความเปรียบว่า เหมือน คล้าย ดัง ดั่ง กล อุปมา เพียง ดุจ ประดุจ เล่ห์ หรือคำอื่นๆ ที่มีความหมายคล้ายนี้ ดังตัวอย่าง
- เด็ดแดดั่งเด็ดใย บัวแบ่ง มาแม่
- คุณแม่หนาหนักเพี้ยง พสุธา
คุณบิดรดุจอา - กาศกว้าง
คุณพี่พ่างศิขรา เมรุมาศ
พระอาจารย์อ้าง อาจสู้สาคร
(โคลงโลกนิติ)
- จำปาจำเปรียบเนื้อ นางสวรรค์ กูเอย
จำปา
- ซ่อนกลิ่นกลิ่นแก้วซ่อน นาสา เรียมฤๅ
ตาดว่าตาดพัสตรา หนุ่มเหน้า
สลาลิงเล่ห์ซองสลา นุชเทียบ ถวายฤๅ
สวาดดั่งเรียมสวาทเจ้า จากแล้วหลงครวญ
(.........)
ซ่อนกลิ่น
๒.ภาพพจน์อุปลักษณ์
เป็นการเปรียบว่าสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง โดยนำสิ่งสองสิ่งที่ต่างจำพวกกัน แต่มีลักษณะเด่นเหมือนกันมาเปรียบเทียบกันเช่นเดียวกับอุปมา แต่ใช้คำแสดงความเปรียบว่า เป็น , คือ (ไม่ใช้ความเปรียบว่าเหมือน คล้าย ดัง ฯลฯ อย่างอุปมา) ดังตัวอย่าง
- ลมพัดคือพิษต้อง ตากทรวง
- อินทนิลคือแข่งคม เนตรแต้ม
- พ่อตายคือฉัตรกั้ง หายหัก
แม่ดับดุจรถจักร จากด้วย
ลูกตายบ่วายรัก แรงร่ำ
เมียมิ่งตายวายม้วย มืดคลุ้มแดนไตร
(โคลงโลกนิติ)
บางครั้งอาจไม่ต้องใช้คำเปรียบเลยเลยก็ได้ ตัวอย่างเช่น
- โอ้เจ้าดวงสุริยันจันทราทั้งคู่ของแม่เอ่ย
แม่ไม่รู้เลยว่าเจ้าจะหนีพระมารดาไปสู่พาราใดไม่รู้ที่....
(มหาเวสสันดรชาดก)
อินทนิล
๓. ภาพพจน์บุคคลวัต
หมายถึง การสมมุติสิ่งไม่มีชีวิต พืช สัตว์ หรือความคิดที่เป็นนามธรรมให้มีความคิด ความรู้สึก และอาการแสดงออกอย่างมนุษย์ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น
- กรวดทรายกระจิริดเร่ร่อน มาหลับนอนข้างขอนไม้ล้ม
กาละช้าหึงกลึงจนกลม นานนมกว่าล้านปีปลาย
(ลำนำภูกระดึง)
- เราจักยินพิณทิพย์กระซิบว่า
หลังจากฟ้าชอุ่มหมองด้วยร้องไห้
หลังพายุดุเดือดเหือดหายไป
ฟ้าจะแผ้วผ่องใสไร้ราคิณ
(มปป.)
- เสียงคลื่นโครมโถมตะครุบก้อนศิลา
จนหน้าตาแตกยับลงสับเงา
(พระอภัยมณี)
เป็นกำลังใจให้คุณครูค่ะ ;))