บันทึกการไป Biz Matching ที่ สปป.ลาว


ติดภาระกิจหลายอย่างเดินทางตลอด 2 อาทิตย์เลยไม่ได้มาเขียนเล่าสักทีว่าไป Biz Matching ที่ลาวเป็นอย่างไรบ้าง ก้ออ่านข้างล่างเลยครับ

วันที่ 24 มิถุนายน 2551
ผมออกเดินทางไปขอนแก่นวันที่ 24 มิถุนายน 2551 ไปนอนที่โรงแรมโฆษะ 1 คืน วางแผนไว้ว่าวันรุ่งขึ้นจะเดินไปโรงแรมโซฟิเทล ราชา ออคิด ตอนเช้าๆ

วันที่ 25 มิถุนายน 2551
ผมหลับๆ ตื่นๆ สงสัยค่าโรงแรมโฆษะเล่นเอาผมกระเป๋าแบนไปหน่อยนึง ใกล้ๆ 8.30 ก้อเดินไป โรงแรมโซฟิเทล ราชาออคิด ลงทะเบียนเข้ารับฟังสัมนา จากนักธุรกิจไทยที่ไปประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจที่ สปป.ลาว และนักธุรกิจลาวแนะนำการทำธุรกิจการค้าในลาว นอกจากนี้ยังมีทีมจาก TDI มาให้ความรู้ความเข้าใจในการเริ่มการทำธุรกิจกับต่างประเทศ ยังมีสื่อมวลชนจากลาวมาให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสปป.ลาวด้วย

สิ่งที่ผมประทับใจมากคือความจริงใจของนักธุรกิจลาวที่มีต่อคนไทย ท่านขันทะวง ดาลาวง ท่านคำหล้า สอริยะสัก และ กิ่งเพด พันนาวง บรรยายได้ดีมาก ให้ข้อมูลเรื่องธุรกิจซอฟต์แวร์ในลาว ไม่ว่าจะเป็นขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก  ท่านสอนห่วง เสยยะเสน เป็นตัวแทนสื่อมวลชนของสปป.ลาวมาให้ข้อมูลในเรื่องของวัฒนธรรม ประเพณี ท่านยังอยากให้ผู้ประกอบการเข้าใจว่าลาวเป็นอย่างไร เข้าใจอย่างลึกซึ้งจริงๆ

อ้อท่านยังบอกอีกว่าคนลาวมีความจริงใจมากๆ ท่านบอกว่าหากไปงานหรือบ้านเขาเอาเหล้าให้ดื่มก้อควรจะรับไว้ก่อน ส่วนจะกินก้อกิน ถ้าไม่กินก้อเทลงพื้นแล้วบอกกับเจ้าของบ้านว่ามอบให้แก่เจ้าที่ประจำบ้าน เจ้าของบ้านจะดีใจมากๆ อ้ออีกเรื่องกินเหล้า/เบียร์แก้วเดียวกันรอบวงแสดงความสัมพันธ์กลมเกลียวของเพื่อนพ้อง ปิดท้ายด้วย ดร.วัชรัศมิ์ ลีละวัฒน์ มาบรรยายเรื่องลู่ทางโอกาสทางการค้าการลงทุนด้าน IT ของ สปป.ลาว พักทานเข้าเที่ยงจากนั้นจึงขึ้นรถบัสออกเดินทางไปนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว

คณะของเราไปถึงที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองช้ากว่ากำหนดไปหลายชั่วโมง ผมเลยได้โอกาสชิงโทรหาคุณโอ๊ด (ทีมงานลาวบุนตูที่จะไปเจอกันที่โน่นตอนเย็นๆ ) ขอเลื่อนนัดเป็นวันที่ 26 ตอนเย็นขึ้นแทน เนื่องจากความล่าช้าในการเดินางคณะเราไปแวะทานเข้าที่ร้านอาหาร(อะไรสักอย่าง ผมลืมชื่อน่ะคับ เห่อๆ อยู่ริมแม่น้ำ มีสะพานข้าม) ก้อได้กินข้าวเหนียว และอาหารต้นตำหรับลาวเลยล่ะครับ จากนั้นจึงเดินทางเขาที่พักที่ โรงแรมดอนจันทร์ พาเลซ อ้อลืมบอกไปว่าข้ามแดนมาแล้วโทรศัพท์มือถือก้อใช้ไม่ได้อีกเลย เห่อๆ ผมจับคู่กับพี่มงคล(พี่ป๋อจากบริษัทไอทีอีซี่) เป็น roommate พี่เขาอยู่ในหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เหมือนกับผม(แต่ผมไม่ค่อยได้เข้าไปใช้บริการมากนักเพราะเข้ามาอยู่กรุงเทพแล้ว) หลังจากเข้าพักก้อรวมกลุ่มเดินสำรวจภายในโรงแรมว่ามีอะไรบ้าง แต่กลุ่มนักธุรกิจที่ไปกับคณะแนะนำให้ไป Karaoke ที่ชั้น 4 ผมไปดูแล้วก้อเดินกลับห้องแล้วก้อนอน เพราะรู้สึกเพลียกับการเดินทางมากๆ

วันที่ 26 มิถุนายน 2551
ตื่นแต่เช้า ลงมาทานข้าวแต่เช้า แล้วลงทะเบียนเข้าห้องประชุมเพื่อเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการท่านพลประสิทธิ์ เป็นตัวแทนภาครัฐบาลลาว นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสปป.ลาว ICT ที่ลาว แถมบทสรุปที่ผมอึ้งไปหลายชั่วโมง เพราะท่านให้ข้อมูลเยอะมากๆ เรียกได้ว่ารัฐบาลลาวได้ศึกษาข้อมูลและวางแผนการพัฒนาทาด้าน ICT อย่างเป็นระบบ และเลือกลงทุนกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ให้ประโยชน์กับประชาชนและประเทศเป็นหลัก

หลังจากนั้นท่านทนงสิทธิ์ ได้มาให้รายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจซอฟต์แวร์ในลาว ความต้องการด้านซอฟต์แวร์ของลาว จากนั้นเป็นการนำเสนอสินค้าและบริการของนักธุรกิจไทย โดยแบ่งเป็น sector ต่างๆ เพื่อคุยกันได้ง่าย สำหรับผมเองเตรียมข้อมูลคิดว่าจะได้พูดหรือนำเสนอ แต่โดนตัดบทและให้ไปอยู่ในส่วนของ sector ERP แทน ซึ่งผมเองไม่มีความรู้ด้าน ERP เลยสักนิดเดียว เอาเป็นว่าผมขอดูว่านักธุรกิจไทยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ของตัวเองยังไงน่าจะดีกว่า

ผมเดินไปเดินมาหลายรอบเพราะไม่ทราบว่าจะคุยกับใครนึกได้ว่าหอบโน๊ตบุคมา เลยเปิด Ubuntu แล้วเดินปรี่ไปที่พี่นักธุรกิจชาวลาว เปิดประเด็นถามแกมสงสัยว่า "อ้ายสอนพิมพ์ภาษาลาวได้บ่" ผมเปิด Ubuntu ภาษาลาวให้เขาดู เขาก้อยิ้มๆ ผมเลยแสดงให้ดูว่า Ubuntu ก้อพิมพ์ภาษาลาวได้ ไม่ต้องใช้ Windows กับ Lao Script ผมเลยยิงคำถามต่อว่า "อ้ายเคยใช้ Ubuntu บ่" คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ "เคยใช้ ใช้ตั้งแต่ Ubuntu 7.04" ผมอึ้งเลยครับ ไม่คิดว่านักธุรกิจลาวที่ดูภูมิฐานมากๆ คนหนึ่งจะรู้จัก Ubuntu ซึ่งเป็น Linux ทั้งๆ Linux Desktop ไม่น่าจะเป็นที่รู้จักในลาว

ผมเลยเปิดประเด็นถามเรื่องการใช้งานซอฟต์แวร์ โอเพนซอร์สในลาว และขอบเขตการใช้งาน Linux ในลาว ผมได้รับความรู้เยอะมากเกี่ยวกับ Linux ในประเทศลาว และข้อจำกัดของการใช้งานในด้านต่างๆ ซึ่งท่านได้อธิบายได้เข้าใจและทำให้ผมจนปัญญาที่จะตอบคำถามท่านเลยล่ะครับคุยกันไปเรื่อยๆ มาลงท้าย เรื่องการเมืองไทย ตลกดีครับ คนลาวเองยังรู้สึกว่าเศรษฐกิจ สังคม การเมืองของประเทศเราย่ำแย่กว่าประเทศเขาเสียอีก ก้อแสดงความเป็นกังวนกับผมเช่นกัน สรุปแล้วเราแลกนามบัตรกันมาอ่านอีกที ท่านเป็นถึง ด็อกเตอร์ เลยล่ะ ดร.ทวีศักดิ์ มะโนทัม รองหัวหน้าแผนก พัฒนาโทรคม ของวิสาหกิจโทรคมลาว (ETL)

หลังจากการเปิดฟลอร์หรือเปิดท้ายขายของผมคิดว่านักธุรกิจไทยประสบปัญหาที่มองข้าม ซึ่งหลายๆ คนคิดว่าลาวสามารถอ่านภาษาอักฤษและภาษาไทย แบบเข้าใจได้ตรงกัน แต่ทว่าคิดผิดครับ เพราะซอฟต์แวร์หลายๆ ตัวที่พยายามนำเสนอขายกันเป็นซอฟต์แวร์ที่คนลาวแท้ๆ ใช้งาน ไม่ใช่ท่านนักธุรกิจลาวที่มาจะนำไปใช้เอง ทำให้เกิดประเด็นเรื่อง Localized โปรแกรมของคนไทยให้เป็นภาษาลาวขึ้น โดยได้รับความคิดเห็นจากคุณบอย (Mega Dict) มาให้ความรู้เรื่องภาษาลาวและการ encode ภาษา เทคนิคการพัฒนาโปรแกรมเพื่อให้สอดคล้องกับการรองรับภาษาลาว เป็นต้น นอกจากคุณบอยแล้ว ยังมีนักพัฒนาจาก บจก.ดาต้าคอม และ พี่ที่กรม ICT ของลาว มาให้ความรู้เกี่ยวกับภาษาลาว 

ผมเลยได้โอกาสถามเรื่อง LSWin กับ STEA กับนักพัฒนาจาก บจก.ดาต้าคอม ที่ลาว ว่าแตกต่างกันอย่างไร? แล้วจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร? ทางกรม ICT ลาวได้กำหนดมาตรฐานรองรับไว้แล้วหรือยัง? เอาเป็นว่าผมจะสรุปเรื่องนี้ในตอนท้ายๆ ก้อแล้วกันครับ พอบ่าย 2 กว่าๆ เราก้อพักเบรค และโชคดีที่ชั้น 14 ที่เราประชุมกันมีคลื่นสัญญาณโทรศัพท์จากฝั่งไทย (มีเฉพาะชั้น 14 เท่านั้น) จึงได้โทรหาคุณโอ้ดอีกที่เรื่องนัดตอนเย็น ผมเดินกลับห้องไปนอนพักเพราะเป็นไข้หวัด ส่วนพี่ป๋อไปกับกลุ่มสาวๆ จาก SUTubi ออกไปเที่ยวในเวียงจันทน์ ผมนอนตื่นอีกทีตอนใกล้จะ 5 โมงเย็น ได้เวลาลงไปกินข้าวเย็นกันแล้ว

ผมเห็นนักธุรกิจไทยวางแผนออกไปย่ำราตรีในเวียงจันทน์กัน ผมก้อขอตัวไปรอคุณโอ้ดที่ล็อบบี้โรงแรม ด้วยความที่กินข้าวเพลินไปหน่อยเลยเวลานัดไป 10 นาที ผมเลยวานให้พนักงานที่ front ช่วยโทรหาคุณโอ้ดให้ผมหน่อยเพราะโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ โชคดีที่คุณโอ้ดเองก้อกำลังเดินทางมาเล่นเอาผมหวั่นใจกลัวพลาดนัดไป คุณโอ้ดมาพร้อมกับเสื้อ Joomla Day 2008 เล่นเอาผมทึ่งไปเลย เพราะผมไม่ได้ไปและอยากได้เสื้อมากๆ เห่อๆ

ผมติดรถคุณโอ้ดไปพบปะกับกลุ่ม LaoZaa.com  ได้เสื้อ LaoZaa มา 1 ตัวนั่งกินข้าวร้านไม้ไผ่ริมแม่น้ำโขง เสวนาเรื่องแนวทาง IT ของลาว Laobuntu และสัพเพเหระ ผมแนะนำให้น้องๆ ที่เรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว ลองเสนอโครงการพัฒนาซอฟต์แวร์ ให้กับภาครัฐดู เพราะผมคิดว่าคนลาวเองก็มีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ ไม่ด้อยไปกว่าคนไทยที่ต้องทำ localized ภาษาลาว ผมกลับโรงแรมตอน 5 ทุ่มกว่าๆ แต่พี่ป๋อยังไม่กลับห้อง เลยได้หาเรื่องคุยกับพนักงานที่ lobby โรงแรมอีกรอบ อ้ายๆ เปิดห้องให้แน :P

วันที่ 27 มิถุนายน 2551
ตื่นนอนแต่เช้าตั้งแต่ตี 5 เห็นพี่ป๋อหลับอยู่ละ สงสัยไม่ได้อาบน้ำชัวร์ เห่อๆ ก้อเลยเก็บข้าวของ อาบน้ำ เตรียมกินข้าวเช้าอร่อยๆ ที่ห้องอาหาร ใกล้ๆ 8 โมง ก้อเดินลงไปทานข้าวเช้า ก้อมีพี่ๆ นักธุรกิจ แซวๆ ว่าเมื่อคืนไปไนกัน พี่ที่ All IT แซวผมว่าทิ้งทีมงานไปไหคนเดียว อ๊ะผมไม่ได้ไปเที่ยวไหนน้า พี่ป๋อเบลอๆ เดินไปแซวทีมงานที่มาจากสำนักพัฒนานักบริหารตักศิลา เพราะไปเจอกลุ่มนี้เต้นบัดสะโล(อาจพิมพ์ผิดอ่ะนะ) อยู่ที่บาร์ท่ไหนสักที่ เพราะพี่ป๋อก้อไปเต้นกับเขาเหมือนกัน เห็นว่าสาวๆ กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ เห่อๆ ประมาณดาราเวียดนาม อ่ะนะ พี่ลักษ์ยังคาใจที่โดนกลุ่มนักธุรกิจชายๆ ทั้งหลายที่ไม่ยอมให้ไปด้วย (สงสัยไปสถานที่เฉพาะผู้ชายเลยไม่ให้กลุ่มสาวๆ ไปด้วย) เลยจำหน้าเอาไว้ก่อนว่าอย่าผ่านขอนแก่นนะ เดี๋ยวเจาะยางรถซะเลย เลยเป็นเรื่องเฮฮากัน

เราออกเดินทางไป โรงงานเบียร์ลาว ช้ากว่ากำหนดแต่ก้อไม่ได้ช้ามาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับ และ เจ้าหน้าที่ฝ่าย IT มานำเสนอข้อมูลให้เราฟัง นักธุรกิจหลายๆ ท่านก้อพยายามเก็บข้อมูลเพื่อสร้างโอกาสในการเจรจาทางธุรกิจแต่ว่าที่นี่วางโครงสร้างของระบบไอที ดีมากๆ อีกอย่างการร่วมทุนของคนลาวกับชาวต่างชาติ (องการสีดา) ส่งผลดีมากๆ เพราะคนลาวเองพยายามให้เกิดประโยชน์กับประเทศมากที่สุด นักธุรกิจไทยเลยใจสลายกันไปหลายคน เราเดินชมสายการผลิตเบียร์ตั้งแต่ล้างขวดจนถึงการแพคลงกล่องกันเลยทีเดียว ผมใช้เวลาไม่นานมากเพราะมัวคุยกับฝ่าย IT ของโรงงาน หลังจากเดินชมโรงงานกันแล้ว ก้อได้เวลาเดินทางกลับ ผมนอนตลอดทางจนไปถึงด่าน ทางคณะได้แวะช็อปปิ้งกันที่ด่านนั่นแหละครับ ผมก้อเลือกไม่ถูกเหมือนกันว่าจะซื้ออะไร ได้คำแนะนำจากพี่ลักษณ์ เรื่อง Amarula แล้วก้อเดินหยิบๆ จ่ายๆ ไปเรื่อยๆ จนได้เวลากลับไปที่รถ

พอข้ามแดนมาได้ก้อได้เวลาหลับจนเข้าเขตจังหวัดขอนแก่น ผมแวะลงตามทีมงาน SUTubi เพื่อไปเยี่ยมบริษัท All IT (allit.info) คุณเรเน่ แวะมารับกลางทางพร้อมพาเราเยี่ยมชมบริษัท แถมเลี้ยงกาแฟแสนอร่อยอีกคนละแก้ว ผมทึ่งกับบริษัทนี้มากๆ เพราะ All IT สมชื่อจริงๆ ดูจากผลิตภัณฑ์ ห้องปฏิบัติการ ทีมงาน และ ความตั้งใจของคุณเรเน่แล้วผมปลื้มใจจริงๆ ตกเย็นคุณเรเน่กับพี่ลักษณ์มาส่งที่สถานีขนส่งรถปรับอากาศปรากฏว่าไม่มีรถทัวร์เข้าโคราชเลย ต้องเปลี่ยนที่ไปขึ้นที่ สถานีขนส่งรถป.2 แทน ได้ขึ้นรถ ป.2 กึ่งรถร้อนหลับๆ ตื่นๆ (ผมนั่งเก้าอี้เสริม) มาตลอดทาง ถึงโคราชได้ก้อขอแยกตัวกลับก่อนเพราะต้องเช็คอินเข้าโรงแรมสบาย ถึงโรงแรมก้อนอนลูกเดียวเพราะเหนื่อยมากๆ

 

คำสำคัญ (Tags): #matching#สปป.ลาว
หมายเลขบันทึก: 193093เขียนเมื่อ 9 กรกฎาคม 2008 16:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 01:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)
  • สวัสดีครับคุณอนุชิต  บันทึกน่าสนใจมาก
  • สนใจอยากไปทำการค้าที่ลาวจังเลย  มีอะไรที่น่าลงทุนบ้างครับ  ชอบทำการค้าเล็กๆที่เป็นประโยขน์ต่อสังคม

ติดต่อหอการค้าของลาวก่อนเป็นดีที่สุดครับ หากต้องการข้อมูลด้านงานวิจัยติดต่อที่ TDRI เพื่อขอรับข้อมูลเบื้องต้น หรือติดต่อ ABD ในเรื่องเงินลงทุนต่างประเทศครับ ส่วนการลงทุนที่ลาวคงต้องเผื่อใจไว้บ้างน่ะครับ :)

แหม เขียนสะยาวเลย

แล้วยังไม่ส่งลิ้งให้อ่านอีกแนะ อิอิ

เอาเป็นว่าหากเดือนหน้า พี่มะระ จัด Train Ubuntu จริงๆ เดียวผมไปเจอกันเลย อิอิ

โอ้ด ครับ

ອ່ານຈົບລະ ດົນເຕີບ ;)

ສຳບາຍດີອ້າຍແລ້ວເຈິກັນ ງານ Train Ubuntu

ທິບ ;)

สวัดดีครับ คุณอนุชิตอ่านบันทึกแล้วได้ความรู้มากครับ สนใจอยากทำธรกิจไอที ที่ลาว

เพราะบ้านเรา หน้าจะถึงจุดอิ่มตัว ไปทางไหนก็เจอแต่ร้านเน็ตเต็มบ้านเต็มเมือง ไม่ทราบว่ากฎ กติกา บ้านเขาเข้มงวดเหมือนบ้านเรารึเปล่าครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท